จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1825

สรุปบท บทที่1825 เข้าสู่ดาวหนานผิง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่1825 เข้าสู่ดาวหนานผิง จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่1825 เข้าสู่ดาวหนานผิง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

และในเวลานี้ ท่ามกลางเมฆสีดำนั่น มีซามูไรเกราะทองสองคนเดินออกมา!

ในมือของซามูไรเกราะทองทั้งสองท่านถือขวานยักษ์เปิดฟ้าสับระเบิดไปยังพวกหลินหยุนเลย

หลินหยุนรีบเอ่ยปากพูดทันทีว่า “ทั้งสองคนไปรัดซามูไรเกราะทองทั้งคนนี้ไว้ จำไว้นะว่าห้ามฆ่าทิ้ง เพียงแค่รัดไว้ก็พอ!”

จี๋หั่วได้ฟัง เอ่ยปากพูดทันที “ฉันไปเอง!”

พูดแล้ว เดินออกไปหนึ่งก้าว พุ่งขึ้นกลางอากาศ หลังจากที่สับขวานลงไปต่อสู้กับซามูไรเกราะทองหนึ่งในนั้นแล้ว

ในเวลานี้ ชายชราผู้นั้นที่อยู่ด้านหลังของหลินหยุนก็บินโฉบออกไปแล้ว พูดว่า “ฉันจะจัดการกับอีกคนเอง!”

ซามูไรเกราะทองก็เป็นแดนจ้าวครองหนึ่งเต๋าเช่นกัน

แข็งแกร่งมาก!

แต่ว่าเมื่อเทียบกับพวกจี๋หัวทั้งสองคนแล้ว งั้นก็ยังห่างไกลอีกมาก

และในเวลานี้ เริ่มลูกไฟตกลงมาจากบนท้องฟ้าไม่มีสิ้นสุดแล้ว ไหลลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ราวกับว่าจะทำให้ทั่วทั้งโลกกลายเป็นทะเลเพลิง

พวกหลินหยุนเห็นเช่นนี้ ต่างก็หลบหนีกันหมดแล้ว

ลูกไฟมากขึ้นเรื่อยๆ แทบจะเป็นเวลาที่หายใจ พื้นดินกลายเป็นผืนน้ำอันกว้างใหญ่ ก่อตัวเป็นทะเลแห่งเปลวไฟแล้วจริงๆ

ด้านหลังของหลินหยุน ราชาดาวเมี่ยวอินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “สหาย จะต้องทลายค่ายกลนี้ให้เปิดออกโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นเกรงว่าฉันและพวกคงต้องตายอยู่ที่นี่ เปลวไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดาๆ เป็นไฟที่แท้จริงของเขตไฟ!ไม่เพียงแค่เผาสรรพสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคือแผดเผาดวงวิญญาณด้วย!”

และไม่นาน ท่ามกลางทะเลเพลิงที่ไร้ที่สิ้นสุดก็ปรากฏสัตว์ร้ายที่ลมหายใจน่าตกใจแล้ว

และไม่ใช่แค่ตัวเดียว สัตว์ร้ายเหล่านี้ก็อยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง ได้ดูดซับพละกำลังที่อยู่ในทะเลเพลิงอย่างไม่หยุดหย่อน ชี่เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว

เหนือนภา แม้ว่าพวกพระราชาดาวจี๋หั่วทั้งสองสามารถรับมือได้ แต่ว่าสำหรับในใจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้ก็เกี่ยวพันกันอย่างมาก พูดตะโกนไปยังหลินหยุนด้วยน้ำเสียงที่รวบรวมพลังเต็มที่ว่า “เด็กน้อย ถ้าหากคุณไม่สามารถทลายค่ายกลได้อีก งั้นฉันก็จะสับฆ่าคุณก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

หลินหยุนราวกับว่าไม่ได้ยินยังไงอย่างนั้น ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเลย

ผ่านไปนาน เขาหันหลังมองไปยังพวกราชาดาวเมี่ยวอินสามสี่คนที่อยู่ด้านหลัง พูดทันทีว่า “สหายเหล่านี้ ตามฉันมาเถอะ!”

พูดจบ หลินหยุนก็ย่างก้าวออกไปและเข้าสู่ท่ามกล่างของทะเลเพลิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดเลยทันที!

คนสามสี่คนเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกใจกันหมดแล้ว!

แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ใช่บุคคลที่ไม่สำคัญ และก็ไม่ใช่คนที่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยยอดฝีมือแดนจ้าวแห่งเต๋าที่สง่างาม จะธรรมดาทั่วไปได้ยังไงกัน

แม้ว่าจะตกตะลึงอย่างมาก แต่ยังคงตามหลินหยุนเข้าไปในทะเลเพลิงแล้ว

พระราชาดาวจี๋หั่วและชายชราผู้นั้นก็เช่นกัน ปล่อยซามูไรเกราะทองที่พัวพันกับตัวเอง ตามมาติดๆ เข้าสู่ทะเลเพลิงพร้อมกันแล้ว

และหลังจากที่เพิ่งจะเข้าสู่ทะเลเพลิง อาการแสบร้อนโดยรอบ กลับว่าหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที

สิ่งที่ได้กลับมาแทนคือเห็น ดาวบำเพ็ญที่อยู่ใกล้ตรงหน้า

พวกพระราชาดาวจี๋หั่วหันหน้าทันที ค่ายกลใหญ่หายไปแล้ว!

ค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้ พวกเขาข้ามผ่านได้แล้วจริงๆ!

เพียงชั่วครู่หนึ่ง พระราชาดาวจี๋หั่วและพวกดีใจมาก ต่างก็หัวเราะอย่างเต็มที่ หลังจากนั้นก็มองไปยังพระราชวังที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่าหลายแห่งที่อยู่เหนือดาวหนานผิง พูดคำรามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “หนานผิง ตอนนี้แกมีอะไรจะพูดอีก ?แค่ค่ายกลม่านพลังก็เท่านั้น คิดว่าจะต้านทานฉันและพวกได้จริงๆหรือ?น่าขำชะมัด!”

คำพูดนี้เรียกได้ว่ามีเหตุผลเพียงพอก็สามารถพูดได้อย่างเต็มที่

เหมือนว่าสามารถเดินออกมาจากค่ายกลได้ ล้วนแต่เป็นคุณงามความดีของเขาทั้งหมดยังไงอย่างนั้น

หลินหยุนพูดเสียงเบาว่า “เหล่าสหายทั้งหลาย จะพูดอีกรอบหนึ่ง หลังจากสับฆ่าหนานผิง ฉันขอเพียงแค่รากทิพย์ห้าธาตุ นอกจากนี้จะไม่เอาสิ่งของใดๆไป!ส่วนอื่นๆ สหายแต่ละท่านแบ่งสันปันส่วนกันยังไง ก็ไม่เกี่ยวกับฉัน!”

จี๋หั่วอารมณ์ดีมาก รีบพยักหน้าทันที “สหายมู่ฉองวางใจ ในเมื่อฉันและพวกต่างก็ให้คำปฏิญาณต้าเต๋ากันแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางไม่รักษาคำพูด!เมื่อก่อนจี๋หั่วล่วงเกิดสหายที่นี่มากเพียงใด ยังหวังว่าสหายจะไม่ถือสา!”

“ฟังเข้าใจกันแล้วหรือยัง?”

กลุ่มคนได้ฟัง สีหน้าดูแย่ลงมากทั้งหมดเลย แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับ!

ผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะสามสิบท่าน หนึ่งในนั้นมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนต้น แดนสู่ธรรมะระยะกลางไม่น้อยเลย ส่วนผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะระยะหลัง มีเพียง5-6ท่าน

เป็นแบบนี้ยังต้องพัวพันจ้าวครองหนึ่งเต๋าทั้งห้าท่านไว้?

นี่……

ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตายเลย!

จ้าวครองหนึ่งเต๋าห้าท่านนั้น แม้ว่าไม่ได้กุมอำนาจความเป็นความตาย แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นการมีอยู่ของจ้าวแห่งเต๋าที่แท้จริงนะ!

แต่ว่าก็เหมือนกับพระราชาดาวหนานผิงพูด

ในวันธรรมดาทั่วไปล้วนแต่เป็นเขาที่สนับสนุนเลี้ยงดูพวกเขา ตอนนี้ ก็เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องสู้สุดชีวิตแล้ว

อย่างน้อยถ้าหากพระราชาดาวหนานผิงไม่ตายล่ะก็ พวกเขาก็ไม่กล้ามีความคิดอื่นๆ!

ส่วนทางหลินหยุน ถูกพระราชาดาวหนานผิงเพิกเฉยไปโดยปริยาย

จากผลฝึกตนของจ้าวครองสามเต๋าอย่างพระราชาดาวหนานผิง สามารถมองออกได้อย่างง่ายดายว่า ในบรรดาคนเหล่านี้มีเพียงผลฝึกจนของหลินหยุนที่อ่อนแอที่สุด เรียกว่าแค่ว่าเหนือแดนสู่ธรรมะก็เท่านั้น

แม้แต่จ้าวแห่งเต๋าก็ไม่ใช่

ไม่ใช่จ้าวแห่งเต๋า ในสายตาของเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับกับมด!

เพราะงั้น ถึงแม้ว่าหลินหยุนจะทลายค่ายกลเมฆหมอกหมื่นลี้ของเขาแล้ว แต่ว่าในเวลานี้พระราชาดาวหนานผิงก็ยังคงไม่มองอยู่ในสายตาอยู่ดี!

ไม่นานหลินหยุนและพวก11คนมาถึงนภาด้านบนของพระราชวังแล้ว ในเวลานี้ พระราชาดาวหนานผิงก็พาลูกสมุนอย่างกลุ่มยอดฝีมือมารออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์