อ่านสรุป บทที่ 1838 ใครมาก่อนได้ก่อน จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 1838 ใครมาก่อนได้ก่อน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ทางฝั่งเผ่ามนุษย์ จ้าวครองห้าเต๋าคนนั้นครุ่นคิดอยู่สักพัก กล่าว “เผ่ามนุษย์ของฉัน ไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว ต้องการจะบีบบังคับโลกครุฑทองไปถึงขั้นไหน!”
“ตอนนั้นสาเหตุที่กำหนดกฎเกณฑ์ข้อนั้น นั่นก็เป็นเพราะสภาพในตอนนั้นบีบบังคับ กษัตริย์ครุฑทองสมัยก่อนริเริ่มที่จะเสนอ!”
“แต่ว่า ในเมื่อเป็นกฎเกณฑ์ งั้นก็ต้องเคารพ!”
“ครั้งนี้เขาบรรพชนโลกครุฑทองตื่นขึ้น ปรากฏตัวแปร สรุปว่าทำตามกฎก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือเป็นไปตามที่นั้นกษัตริย์ครุฑทองกล่าวไว้ มันเป็นเรื่องของโลกครุฑทอง ดังนั้นจำเป็นต้องปรึกษากันใหม่แล้ว!”
“อย่างเช่น ถ้าไม่นับการตื่นในครั้งนี้ เวลาตื่นครั้งต่อไป ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึงสี่ร้อยปี!”
“การตื่นในครั้งนี้ สี่ร้อยปีต่อมา หากไม่มีการตื่นจะเป็นอย่างไร?”
“”สิ่งเหล่านี้จะต้องมีข้อบังคับสักข้อ”
“ไม่รู้ว่ากษัตริย์ครุฑทอง จะยินดีด้วยไหม?”
ตรงทางเข้า ยังคงไม่พบเงาร่างของกษัตริย์
ทุกร่างของกษัตริย์ต่างก็ไม่อาจคาดเดาได้
ได้ยินเพียงเสียงของกษัตริย์ครุฑทองดังขึ้นมาอีกครั้ง “ครั้งนี้แม้ว่าโลกครุฑทองของฉันจะปิดผนึกโลกไป แต่ว่า เผ่ามนุษย์อย่างคุณก็ใช่ว่าไม่ได้รับผลประโยชน์ ท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวจากปกติก็คือ เผ่ามนุษย์ในโลกครั้งนี้ ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ของกองกำลังเหนือชั้นทั้งห้าทิศของคุณก็เท่านั้นเอง”
ได้ยินกษัตริย์พูดเช่นนี้ ทันใดนั้น รวมถึงผู้บำเพ็ญเซียนทางฝั่งเผ่ามนุษย์ และยังมีโลกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่เป็นผู้นำผู้บำเพ็ญเซียนเผ่าอื่นๆ ทั้งหมดเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ
ทั้งด้านนอกทางเข้าโลกครุฑทอง และเริ่มเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังทันที
โลกครุฑทองปิดโลกครั้งนี้ กะทันหันสุดๆ
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
เดิมทีไม่มียอดฝีมือคนไหนเข้าไปเลย
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ก็ไม่อาจเข้าไปโลกเผ่าอื่นๆได้อย่างไม่มีสาเหตุหรอก
เนื่องจากโลกเผ่าอื่นๆ ไม่ใช่จักรวาล
และไม่ใช่โลกของเผ่ามนุษย์
ในโลก มีพลังยับยั้งพรสวรรค์ดำรงอยู่
แม้ว่าเป็นกษัตริย์ ก็ไม่สามารถละเลยพลังยับยั้งเช่นนี้ได้
ดังนั้น การดำรงอยู่ของขอบเขตการบำเพ็ญตนที่สูงขึ้น ก็จะยิ่งจะเลือกเข้าสู่โลกเล็กๆอย่างระมัดระวัง
ส่วนหลินหยุนเข้าสู่โลกเขาทองแล้ว
นั่นก็ไม่เหมือนกันอีก
โลกเขาทองเดิมทีเป็นของโลกใบเล็กของเผ่าอื่นๆ และก็มีพลังยับยั้งอยู่
แต่ท่ามกลางโลกเขาทองเดิมทีเผ่าเล็กๆถูกทำลายไปเป็นเวลานาน ดังนั้นพลังในการยับยั้งจึงค่อยๆ หมดไป
ดังนั้น ก่อนปิดผนึกโลก ท่ามกลางโลกครุฑทอง แม้ว่าบางทีอาจจะมียอดฝีมือบ้าง แต่ก็มีไม่เยอะแน่นอน
และยังมีอีกอย่าง
ใครก็ตามที่สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการปลุกพลังของเขาบรรพชน มันคงต้องเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากๆ งั้นจะต้องสามารถพูดคุยกับโลกครุฑทองได้
ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าเผ่ามนุษย์คนไหนก็ตาม ต่างก็สามารถเข้าร่วมได้ทั้งนั้น?
นี่มันเป็นไปไม่ได้!
ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังที่มีกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะเป็นจ้าวครองสิบเต๋าต่อหน้ากษัตริย์ครุฑทอง ก็ไม่มีคุณสมบัติในการพูดคุยอย่างแน่นอน
เช่นอยู่ตรงหน้านี้ แม้ว่าเป็นเพียงแค่จ้าวครองห้าเต๋าคนหนึ่ง แต่ก็มีคุณสมบัติในการได้พูดคุยกับกษัตริย์ครุฑทอง
นี่ก็คือเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมากพอ!
สีหน้าของจ้าวครองห้าเต๋าคนนั้นเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ขอถามกษัตริย์ครุฑทอง เป็นกองกำลังฝ่ายไหนของเผ่ามนุษย์?”
ถ้าหากที่กษัตริย์ครุฑทองพูดเป็นความจริง งั้นคุณสมบัติก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย
แต่โดยรวมแล้ว ยอดฝีมือเผ่าอื่นๆเยอะขึ้นมาหน่อย
ในเวลานี้ หลังจากที่หลินหยุนติดตามแดนธรรมะกลุ่มหนึ่ง เข้าไปยังโลกครุฑทองแล้ว
ป้ายหยกในมือของหลินหยุนสาดส่องไม่หยุด
กลุ่มโจรดวงดาว ครั้งนี้เข้าสู่ธรรมะทั้งหมด 11 คน ส่วนยอดฝีมือแดนจ้าวแห่งเต๋าของเหนือสู่ธรรมะ จะต้องมีแน่นอน เพียงแต่ว่าป้ายหยกของหลินหยุน ก็จะไม่แสดงถึงการมีอยู่ของแดนจ้าวแห่งเต๋า
เมื่อเพิ่งเข้ามาในโลก หลินหยุนก็รู้สึกถึงพลังยับยั้งที่ล่องหนทันที
การบำเพ็ญตนของเขาก็ตกลงโดยพลัน
เขาที่เดิมทีมีเพียงการบำเพ็ญตนดั่งเทพตอนปลาย แต่ในตอนนี้ การบำเพ็ญตนของเขาได้มาถึงดั่งเทพตอนกลาง
นี่กลายเป็นว่าไม่มีอะไรเลย
กุญแจสำคัญคือ พลังของต้าเต๋าที่เขาสามารถใช้ต่างก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนหน้านี้หลินหยุน สามารถต่อสู้กับจ้าวครองหนึ่งเต๋าได้ ถ้าเป็นตอนนี้ ต่อสู้ก็น่าจะต่อสู้ได้ แต่มันก็เป็นเพียงแค่พลังป้องกันตัวเองเท่านั้น!
ตรงหน้า ยอดฝีมือสู่ธรรมะมากมายต่างก็สีหน้าเปลี่ยน หนึ่งในนั้นเอ่ยปากพูดว่า “พลังยับยั้งของโลกใบเล็กนี่แข็งแกร่งจริงๆ! แดนได้ลดระดับลงขั้นหนึ่ง!”
ผู้บำเพ็ญเซียนวัยกลางคนอีกคนหนึ่งกล่าว “นี่มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ดังนั้นนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเผ่ามนุษย์ถึงมีเงื่อนไข มีพลัง ไม่มีเหตุผลที่จะทำลายล้างหัวใจของเผ่าอื่นๆ!”
“อีกอย่าง ยิ่งโลกเผ่าอื่นๆแข็งแกร่งมาก การปราบปรามก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นด้วย!”
“ตอนนั้นฉันเคยไปเยือนที่โลกมังกรครั้งหนึ่ง การปราบปรามแบบนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ!”
นั่นไม่ใช่การปราบปรามแดนเล็กๆ แต่เป็นแดนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!
ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ผู้คนไม่น้อยต่างกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ “ พลังยับยั้งของโลกมังกรน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ? พวกเราแดนสู่ธรรมะ หรือว่าหลังจากที่เข้าไปแล้ว ก็จะถูกปราบปรามจนกลายเป็นแดนดั่งเทพงั้นเหรอ?”
คนๆนั้นยิ้มและพยักหน้า กล่าว “ถูกต้อง เป็นเช่นนี้ และเป็นเพราะเผ่าที่แข็งแกร่งเผ่าอื่นๆ พลังปราบปรามนั้นน่ากลัวมากจนยืนอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอยู่ยงคงกระพัน! "
หลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ไม่ได้สนใจอะไร และเปลี่ยนทิศทางทันที และจากไปคนเดียวตามลำพัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...