สรุปตอน บทที่ 1847 แดนทางช้างเผือก – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1847 แดนทางช้างเผือก ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเนตรสวรรค์ที่จื่อหวนพูด หลินหยุนย่อมรู้เรื่อง
จำนวนเฉพาะของเนตรสวรรค์ คือได้รับการออกแบบตามดาราศาสตร์ มีทั้งหมดสิบห้าตำแหน่ง
เนตรสวรรค์แต่ตำแหน่ง ก็รองรับผู้บำเพ็ญเซียนท่านเดียวเท่านั้น
ปีนั้นตอนที่หลินหยุนมาที่นี่ เคยได้สังเกตอย่างรอบคอบ นั่นน่าจะสามารถที่จะจัดวางค่ายกลสงครามได้แห่งหนึ่ง
ค่ายกลสงครามทรงพลังอย่างยิ่ง
ใช้มาพึ่งพาความสูงชันของทางช้างเผือก มาต้านทานการโจมตีของเทพปีศาจนอกขอบเขต
ที่ตั้งของเนตรสวรรค์นั้น ก็เป็นสถานที่เดียวที่สามารถต้านทานพลังกระแสน้ำขึ้นน้ำลงได้
ตราบใดที่มันสามารถครอบครองหนึ่งในเนตรฟ้าสามร้อยสิบหกดวงได้ งั้นก็สามารถที่จะหลบหนีจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลงได้ และก็สามารถที่จะไปตามกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่ซัดมาได้ในทันที ตั้งแต่ที่ช่วงเวลาที่กระแสน้ำขึ้นน้ำลงเพิ่งจะเปิดทางช้างเผือกก็ตรงเข้าสู่ในนั้น
ส่วนนอกเหนือจากผู้ที่ครอบครองเนตรสวรรค์สามร้อยหกสิบห้า จะเข้าไปได้อย่างไร งั้นก็ทำได้เพียงแค่รอคอย และลองเสี่ยงโชคเท่านั้น
รอตอนที่พลังกระแสน้ำขึ้นน้ำลงเกิดขึ้น หลังจากที่รีบตามกระแสน้ำขึ้นน้ำลง ไปทางใต้
ด้วยแบบนี้ อันตรายจะเพิ่มขึ้นมากเกินไป
แต่ทุกครั้งตอนที่เกิดกระแสน้ำขึ้นน้ำลง ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนมากมายก็เลือกทำแบบนี้
แม้ว่าจะอันตรายเป็นอย่างมาก ก็ไม่ยอมแพ้
ตอนนี้ผู้บำเพ็ญเซียนของสุดหล้าทะเลจำนวนมากเช่นนี้ ทยอยไปที่ตั้งของทางช้างเผือก ก็ต้องการครอบครองตำแหน่งของเนตรสวรรค์
แน่นอนว่า ในท้ายที่สุดใครได้ครองครอบเนตรสวรรค์นั้น ยังต้องมองว่าหมัดใครใหญ่กว่า
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง หลินหยุนมองไปทางจื่อหวนพูดขึ้นมาว่า “งั้นที่ตั้งของทางช้างเผือก แน่ใจว่าเป็นหนึ่งในพระราชวงศ์บรรพกาล?”
จื่อหวนพูดขึ้นมาว่า “ผู้คนมากมายก็เชื่อว่าเป็นแบบนั้น! เป็นหนึ่งในพระราชวงศ์บรรพกาลจริงๆ แต่ว่า ก็มีหลายคนที่มีความคิดเห็นคัดค้าน มีคนบอกว่ามันเป็นวัตถุโบราณ แต่ขาดหลักฐานที่แท้จริง”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นมาว่า “จื่อหวนไม่อยากไปเหรอ?”
จื่อหวนนิ่งไป ตามด้วยพยักหน้าเล็กน้อย และพูดขึ้นมาว่า “คุณชายพูดเป็นเล่นไป สถานที่แบบนั้น ไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถไปได้ หอปราบทะเลนี้ ก็เป็นบ้านของฉัน ตลอดชีวิตนี้ของฉัน ก็ทำได้เพียงแค่นี้!”
หลินหยุนสายตาสั่นไหว และพูดขึ้นมาว่า “ทำไมต้องมองโลกในแง่ร้ายเช่นนี้ด้วย? เท่าที่ฉันรู้ ภายในจักรวาลนี้ อัจฉริยะของกองกำลังใหญ่มากมาย ก็ตกหลุมหลงรักจื่อหวน…….”
จื่อหวนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายพูดถึงคนอย่างวูหยางน่ะเหรอ? นั่นก็เป็นเพียงแค่คนไม่เอาไหนเท่านั้นเอง คำว่าอัจฉริยะแบบนี้ พวกเขาไม่คู่ควร!”
หลินหยุนพูดขึ้นมาว่า “ตัวเองเป็นคนเดินทางของตัวเอง ถ้าหากตอนที่จื่อหวนอยากจะเปลี่ยนใจ ลองบอกฉันก็ได้นะ กองกำลังเบื้องหลังของคุณก็ต้องให้เกียรติโลกชางฉองของฉันบาง!”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดเช่นนี้ จื่อหวนรีบพูดขึ้นว่า “ขอบคุณมากๆคุณชาย คุณชายพูดแบบนี้ได้ ก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับจื่อหวนแล้ว!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้นมาว่า “จื่อหวนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ฉันคิดว่าคุณเป็นเพื่อนของฉัน สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร ง่ายจนแทบไม่ต้องออกแรงเท่านั้นเอง!”
จื่อหวนพยักหน้า และพูดขึ้นมาว่า “ถ้าคุณชายไปที่ทางช้างเผือก ฉันจะช่วยคุณชายติดตามข่าวคราวขององค์หญิง!”
หลินหยุนพูดขึ้นมาว่า “งั้นก็ขอบคุณมากๆ!”
จื่อหวนพูดขึ้นมาว่า “คุณชายตั้งใจว่าจะออกเดินทางเมื่อไหร่ ช่วงนี้จักรวาลมีลมกางเยือกเย็น กระแสน้ำขึ้นน้ำลงก็ใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว! ถ้าหากไม่รีบไปเร็วหน่อย ก็ไม่ทันที่จะได้ครอบครองที่ตั้งของเนตรสวรรค์ได้!”
“สองวันนี้ สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเหล่านั้นในเหนือแดนสู่ธรรมะ และแดนจ้าวแห่งเต๋า ก็ทยอยมุ่งหน้ามา!”
“ถ้าหากคุณชายแน่ใจว่าจะเข้าร่วมในนั้น รีบออกเดินทางให้เร็วที่สุดก็ดีเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้คนที่ทะลุมิติผ่านค่ายกลมากเกินไป”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สองวันนี้ฉันก็จะออกเดินทางแล้ว จื่อหวนคุณก็คิดดูได้นะ ถ้าหากต้องการไปด้วยกัน ก็ไปพร้อมกับฉันได้!”
จื่อหวนพยักหน้า ต่อจากนั้นบอกลากับหลินหยุน และหันหลังออกจากเขตแสงม่วง
ทางหลินหยุนนี้ กลับหยิบยันต์สื่อสารออกมา และถามไถ่การตัดสินใจของจูอวิ๋นซาน
ในเมื่อรับปากจูอวิ๋นซานแล้ว งั้นหลินหยุนก็ไม่มีทางผิดสัญญา ส่วนอีกฝ่ายสามารถที่จะมีชีวิตออกมาได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูความโชคดีของอีกฝ่าย
เพิ่งจะส่งข้อความไป จูอวิ๋นซานก็ตอบกลับในทันที พวกเขาสองสามีภรรยาก็ตัดสินใจไปด้วยกัน
มีเพียงตอนที่กระแสน้ำขึ้นน้ำลงซัดมา ถึงจะพัดพาแสงสีดำเหล่านี้ไปได้ชั่วครู่
เผยให้เห็นหน้าตาของทางช้างเผือก
และพัดกระพือทางช้างเผือกมาอีกครั้ง ให้ทุกคนมีโอกาสใช้ประโยชน์จากโอกาสพัดกระพือ ที่จะเข้าไปในนั้น
และมีเพียงทะลุผ่านจากในทางช้างเผือกได้สำเร็จ ถึงสามารถที่จะถึงที่ตั้งของพระราชวงศ์ได้อย่างแท้จริง
ตอนที่หลินหยุนพาจูอวิ๋นซานพวกเขาสองสามีภรรยามาถึง ในสถานที่นี้ก็มีผู้บำเพ็ญเซียนอยู่มากมายซึ่งผลการฝึกตนก็ระดับทั่วไป มีทั้งแดนจิตปฐม มีแดนดั่งเทพ มีแดนสู่ธรรมะ แดนเหนือสู่ธรรมะ ยังมีผู้แข็งแกร่งจ้าวแห่งเต๋าจำนวนเล็กน้อย
หลินหยุนกวาดสายตามองไปแวบหนึ่ง น่าจะมีประมาณสองสามพันกว่าคน
เมื่อเห็นแบบนี้ จูอวิ๋นซานก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นผู้แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้มาก่อนจริงๆ
พลังนี้ ถ้าหากรวมอยู่ด้วยกัน คงน่ากลัวจนไม่สามารถที่จะจินตนาการได้จริงๆ
แน่นอนว่า ยังขาดผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่แท้จริง
หลินหยุนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ พบว่าก็อยู่ด้านล่าง อยู่ห่างจากโลกมืดข้างหน้าออกไปประมาณหนึ่งร้อยถึงพันไมล์ ห่างออกไประยะหนึ่ง ก็มีแท่นบูชาโบราณเรียบง่ายอยู่ไกลๆ
และในเวลานี้ แท่นบูชาทุกอันของโดยรอบ ก็อยู่รอบๆผู้บำเพ็ญเซียนมากมาย
แท่นบูชาเหล่านี้ เรียงตามลำดับ มีที่นั่งสามร้อยหกสิบห้าที่นั่งพอดี
หลินหยุนสายตาสั่นไหว พูดกับจูอวิ๋นซานสองสามีภรรยาว่า “แท่นบูชาด้านล่างเหล่านั้น ก็คือที่ตั้งของเนตรสวรรค์”
“แท่นบูชาทุกอัน ก็เพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถยืนบนแท่นได้ และมีเพียงผู้ที่ยืนอยู่บนแท่นบูชาเท่านั้น ที่จะต้านทานกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่พัดผ่านมาได้”
“ดังนั้น หน้าที่ต่อไปพวกนายก็คือต่างคนต่างแย่งชิงแท่นบูชาแท่นหนึ่ง!”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดเช่นนี้ จูอวิ๋นซานและภรรยาก็มองหน้ากันด้วยสีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...