หลินหยุนหันไปมอง ที่แท้ก็คือคุณชายหลี่และคุณชายเฉินที่เขาได้สั่งสอนในงานประชุมสุดยอดขนาดเล็กในวันนั้น
เหยียนรุ่ยเหวินยืนอยู่ข้างหลังเศรษฐีหนุ่มๆเหล่านี้ มองไปที่หลินหยุนด้วยใบหน้าที่เบิกบานใจ
คุณชายหลี่เดินตรงมาหาหลินหยุนอย่างสบายใจ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายเก่งในการต่อสู้ใช่ไหม? ครั้งนี้ฉันพายอดฝีมือมาโดยเฉพาะ เพื่อให้นายรู้ว่าเหนือคนยังมียอดคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า!”
“ลุงโจว ออกมาเถอะ!”
ชายชราในชุดลำลองสีดำ ตอบกลับทันที และมองหลินหยุนด้วยความดูหมิ่น
คุณชายหลี่ คุณให้ฉันมาที่นี่เพื่อมาจัดการกับเด็กที่อ่อนหัดไร้เรี่ยวแรงอย่างนี้เหรอ?”
คุณชายหลี่พูดด้วยความเคารพ “ลุงโจว คุณอย่าประมาทเขา เขาคนเดียวสามารถเอาชนะลูกน้องทั้งหกคนของเหยียนรุ่ยเหวินได้อย่างง่ายดาย เขามีแข็งแกร่งมาก!”
ลุงโจวกวาดสายตามองไปที่หลินหยุนและซูจื่อเหลียง และเขาไม่ได้รู้สึกถึงชี่แท้ในร่างกายของทั้งสองคน
“แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้เก่ง แต่ก็เป็นแค่คนธรรมดาที่เก่งกาจเล็กน้อย คุณขอร้องพ่อของคุณให้โทรเรียกฉันมา เพียงเพื่อให้ฉันมาจัดการกับไอ้เศษสวะทั้งสองนี้เหรอ?”
“เรื่องไร้สาระ!” ลุงโจวมองตัวเองสูงส่ง เดิมทีเขาเป็นบอดี้การ์ดของพ่อของคุณชายหลี่ และพ่อของคุณชายหลี่ก็เคารพนับถือเขามาก แม้แต่คุณชายหลี่ เขาก็ไม่เกรงใจ
เมื่อถูกลุงโจวตำหนิ คุณชายหลี่ผู้หยิ่งยโสไม่กล้าที่จะโกรธ เขากลับยิ้มอย่างประจบสอพลอ “ลุงโจว ฉันใช้ความพยายามอย่างมาก และพูดแต่สิ่งดีๆมากมาย ถึงขอท่านมาจากคุณพ่อ คุณอย่าทำให้ผมผิดหวัง!”
ลุงโจวทำตาเหลือกใส่คุณชายหลี่ ก้าวไปข้างหน้า เอามือไขว้หลัง ยืนอยู่ต่อหน้าหลินหยุนด้วยใบหน้าหยิ่งยโส
“ไอ้หนุ่ม ถึงแม้ให้ฉันจัดการกับนาย มันจะเหนือกว่า แต่ใครให้นายทำให้คุณชายหลี่ของฉันขุ่นเคือง?
“ฉันจะให้นายเลือกสองทาง ทางแรก คือคุกเข่าอ้อนวอนคุณชายหลี่ของฉัน ทางที่สอง คือฉันจะตีนายจนต้องคุกเข่าขอความเมตตา!”
“นายเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง!” ลุงโจวเชิดหน้าพูด ด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง โดยไม่เห็นหลินหยุนและซูจื่อเหลียงยู่ในสายของเขาเลย
คุณชายหลี่ที่อยู่ข้างๆเหลือบมองหลินหยุนอย่างมีความสุข “ไอ้หนุ่ม เย่อหยิ่งอีกสิ ลุงโจวลงมือจัดการ นายก็เตรียมตัวมาคุกเข่าลงเพื่อขอความเมตตาจากฉัน! ฮ่าๆ……”
คุณชายเฉินและคนอื่นต่างพากันมองด้วยความยินดี รอดูการแสดงละครมันๆ
หลินหยุนสังเกตเห็นลุงโจวมานานแล้ว บุคคลที่เพิ่งเข้าสู่นักบู๊พรสวรรค์
คาดว่าคงเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งเข้าสู่พรสวรรค์ ทัศนคติของเขาจึงหยิ่งผยองมาก และไม่เห็นคนในโลกมนุษย์อยู่ในสายตา
หลินหยุนเหลือบมองลุงโจว และพูดเบาๆว่า “ฉันก็จะให้คุณเลือกสองทาง ทางแรก คุณคลานออกจากที่นี่ ทางที่สอง ฉันตีจนคุณต้องคลานออกไป”
“คุณเลือกทางไหน”
วันนี้เป็นการประชุมสุดยอดจงโจว มีเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลของจงโจวและมณฑลใกล้เคียงมารวมกัน นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนมาที่นี่ ถ้าไม่ถึงจุดสุดๆ หลินหยุนไม่ต้องการใช้กำลังแก้ปัญหา
เพียงแต่ว่า นี่เป็นการหาเรื่องสำหรับคนธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าเป็นนักบู๊ที่กล้ามายั่วยุ หลินหยุนไม่ยอมออมมือแน่นอน
“ไอ้หนุ่ม อยู่ต่อหน้าลุงโจวนายยังหยิ่งผยองขนาดนี้ นายไม่รู้หรือว่าลุงโจวเก่งกาจขนาดไหน!” คุณชายหลี่พูดเย้ยหยัน
ลุงโจวโกรธมาก เขารู้สึกว่าตัวเองมีความเมตตามากเกินไป คิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนี่จะไม่เห็นคุณค่า!
ยิ่งกว่านั้น ยังกล้าทำให้ตัวเองอับอายขายหน้า
ตั้งแต่ลุงโจวได้ติดตามบอสหลี่มา ทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด และแม้ว่าจะมีศัตรูเขาก็จัดการได้อย่างง่ายดาย เขาไม่เคยได้รับความอับอายเช่นนี้มาก่อน?”
“ไอ้หนุ่ม ฉันให้โอกาสนายแล้ว นายโดนหาที่ตายเอง!”
ซูจื่อเหลียงเฝ้าดูสถานการณ์ด้วยสายตาที่เย็นชามาตลอดและก้าวไปข้างหน้า จ้องมองลุงโจวและพูดอย่างเย็นชา “ฆ่าไก่ไม่ต้องใช้มีดฆ่าวัว?แค่นักบู๊จิ๊บจ๊อยที่เพิ่งเข้าสู่พรสวรรค์ ยังกล้ามาโอหังที่นี่!”
จัดการกับคุณ ถ้าฉันต้องใช้สองกระบวนท่าถือว่าฉันแพ้!”
ตอนนี้ซูจื่อเหลียงเป็นปรมจารย์ระดับเล็กแล้ว เพราะตอนที่ฝึกฝนหลินหยุนได้ถ่ายทอดวิชาให้ เพราะฉะนั้นความแข็งแกร่งที่แท้จริงจึงเทียบได้กับนักบู๊ธรรมดาอย่างปรมจารย์ระดับใหญ่
ดังนั้น ทัศนคติของซูจื่อเหลียงจึงเย่อหยิ่งยิ่งกว่าลุงโจว!
“ฉันจะฆ่านาย!” ลุงโจวตะโกน และใช้ทักษะการบำเพ็ญทั้งหมดของเขาโดยตรง ทุบซูจื่อเหลียงด้วยหมัด
ความแข็งแกร่งของนักบู๊พรสวรรค์ ในสายตาของคนทั่วไป ความแข็งแกร่งเป็นการดำรงอยู่เหนือมนุษย์อย่างแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...