ควีนจินมองไปที่หวางซูเฟิน น้อมคำนับและพูดว่า: “ประธานกรรมการหวางมีชื่อเสียงโด่งดัง ฉันได้ยินและเลื่อมใสมานานแล้ว วันนี้ได้พบเจอ สมดั่งคำเล่าลือจริง ๆ! ”
หวางซูเฟินมีสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก และรีบคำนับกลับไป: “คุณท่านจินกล่าวชมเกินไปแล้ว คือฉันต่างหากที่เลื่อมใสในตัวท่าน เชิญนั่งลงก่อน! ”
สำหรับชื่อเสียงที่โด่งดังของควีนจินหลิงหนานแล้ว หวางซูเฟินก็เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้ว และทราบดีว่าควีนจินจะเรียกขานตนเองกับบุคคลอื่นว่าคุณท่านจิน
เธอต้องการที่จะทำความรู้จักกับควีนจินมาตั้งนานแล้ว แต่ว่าสถานะของควีนจินนั้นสูงส่งยิ่งนัก ต่อให้เธอมีใจต้องการที่จะทำความรู้จัก ก็คงยากที่จะแสวงหาช่องทางที่จะเข้าถึงตัวได้
แต่คิดไม่ถึงว่าในตอนนี้ ควีนจินกลับที่จะต้องการทำความรู้จักสานสัมพันธ์กับเธอเอง!
หวางซูเฟินตื่นเต้นจนหน้าแดง
แต่ เธอชัดเจนดีว่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะไอ้หนุ่มน้อยแปลกประหลาดหลินหยุนผู้นั้น!
ชั่วครู่เดียว หลินหยุนในจิตใจของหวางซูเฟิน ก็เลื่อนขึ้นสู่ระดับบุคคลผู้ที่สำคัญแล้ว!
แน่นอนว่า ถ้าหากให้หวางซูเฟินทราบว่าหลินหยุนคือลูกชายของเธอ เมื่อถึงเวลานั้นหญิงแกร่งผู้นี้จะทำอย่างไรบ้าง เกรงว่าแม้แต่หลินหยุนเองก็คงคาดเดาไม่ออกเช่นกัน
คุณชายหลี่กับพวกลูกเศรษฐีทั้งหลาย ต่างก็ตะลึงงันไปกันหมดแล้ว!
“หลิงหนาน......ควีนจิน! ”
“มาขออภัยโทษไอ้หนุ่มนั่นด้วยตัวเธอเอง! ”
“พระเจ้าของข้า ท่านรีบบันดาลให้เกิดฟ้าผ่าลงมาหน่อย ผ่าลงมาที่ตัวข้าให้ตายไปเลย! ”
คุณชายหลี่ร้องคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้!
เหยียนรุ่ยเหวินก็มีสีหน้าที่สุดอึ้ง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“มิน่าล่ะในการประชุมสุดยอดขนาดเล็ก เขามีสีหน้าท่าทางที่หยิ่งยโส ไม่ให้เกียรติใครไม่สนใจใคร แม้ขนาดส้งอันหมิงก็ยังไม่อยู่ในสายตาเลย”
“ที่จริงแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีอิทธิพลอำนาจได้ขนาดนี้! ”
เหยียนต้าวหมิงพ่อของเหยียนรุ่ยเหวิน รวมถึงประธานหูกับคนอื่นที่ทรยศจากบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ซึ่งสายตาของแต่ละคนที่มองไปยังหลินหยุนนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!
ประธานหูยิ้มอย่างขมขื่น: “มิน่าล่ะเขาถึงกล้าที่จะล่วงเกินหยู่ลั่วจินไซ แม้แต่หลู่ฉางหลินก็ยังมาคารวะเขาด้วยตนเอง แม้กระทั่งควีนจินก็ยังต้องขออภัยโทษจากเขา แล้วเขาเองทำไมจะต้องไปสนใจกับหยู่ลั่วจินไซด้วยล่ะ! ”
“น่าขันมากที่ก่อนหน้านี้เขาล่วงเกินหยู่ลั่วจินไซแล้วพวกเรานั้น ก็ต่อว่าข่มเหงเขา! และยังจะบีบบังคับให้เขาอธิบายอย่างกระจ่างชัดจนพวกเราพอใจอีกด้วย! ”
“การอธิบายครั้งนี้ ทำให้ทุกคนพึงพอใจเป็นอย่างมากจริง ๆ! ”
ประธานหูและคนอื่น ๆ รู้สึกทันทีว่าตนเองเหมือนกับตัวตลกที่เต้นแร้งเต้นกา อยู่เบื้องหน้าของ หลินหยุน
เมื่อครู่ตอนที่หลินหยุนเห็นสภาพของพวกเขานั้น คงน่าจะดีอกดีใจยกใหญ่ไปตั้งนานแล้ว!
หวางซูเฟินมองไปที่ส้งหัวอัน ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ส้งหัวอัน ครั้งนี้ฉันจะดูว่านายจะมีความสามารถอะไรนอกเหนือจากนี้อีก! ”
ส้งหัวอันทอดถอนหายใจ อีกทั้งยังมีความรู้สึกเสียดายบ้างเล็กน้อย: “มันช่างยอดเยี่ยมเสียจริง! ”
“ประธานกรรมการหวาง ถ้าหากครั้งนี้มีเพียงพวกเราตระกูลส้งที่ต้องการจะจัดการกับพวกคุณแล้ว เกรงว่าคงจะไม่มีทางทำอะไรพวกคุณได้เป็นแน่! ”
“แต่น่าเสียดาย ที่ครั้งนี้ผู้ที่ต้องการจะจัดการกับพวกคุณนั้น กลับไม่ใช่พวกเราตระกูลส้ง! ”
ทันใดนั้นส้งหัวอันก็คำนับแสดงความเคารพไปยังด้านข้าง และพูดขึ้นว่า: “พี่หวาง ตัวข้าไร้ความสามารถ ซึ่งจำต้องรบกวนท่านออกหน้าด้วยตัวเองแล้ว! ”
ทุกคนต่างตกตะลึงกันอย่างพร้อมเพรียง!
จนถึงเวลานี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าตระกูลส้งยังคงมีไพ่เด็ดใบสุดท้ายอยู่อีก!
หวางซูเฟินกับฉินหลันก็มีสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็น ตระกูลส้งจะยังมีไพ่เด็ดใบสุดท้ายอะไรอีก?
หรืออาจจะ เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ข่มขวัญเท่านั้น?
แม้แต่หลินหยุน ก็ยังมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้างและได้มองไปตามทิศทางที่สายตาของ ส้งหัวอันมองอยู่
สถานการณ์ในตอนนี้ ไม่มีความเกี่ยวพันอันใดกับชาติที่แล้วเลยแม้แต่น้อย การประชุมสุดยอดจงโจวในชาติที่แล้ว หลังจากที่ประธานหลี่ของบริษัท ฉางเหอ กรุ๊ปปรากฏตัวขึ้น การประชุมก็ได้สิ้นสุดลง
ตอนนี้ การประชุมสุดยอดจงโจวได้หลุดพ้นจากวิถีแห่งประวัติศาสตร์ของชาติที่แล้วโดยสิ้นเชิง
ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าซีดขาว ท่าทางหม่นหมองคนหนึ่ง ค่อย ๆ เดินเข้ามา แล้วยืนอยู่บนเวที
ชายผู้นั้นมองไปยังส้งหัวอันอย่างเย็นชา และพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า: “ไม่กล่าวโทษนาย ขนาดข้าเองก็ยังคิดไม่ถึงเช่นกัน นึกไม่ถึงว่าอยู่ดี ๆ ก็จะปรากฏเด็กหนุ่มที่แปลกประหลาดคนนี้ขึ้นมา! แต่พอดีที่ว่า อิทธิพลความสามารถของไอ้หนุ่มผู้นี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งใหญ่จนน่าตกตะลึง! ”
ถึงแม้ชายวัยกลางคนพูดว่าจะไม่กล่าวโทษส้งหัวอัน แต่ ไม่ว่าผู้ใดต่างก็ฟังออกได้ว่าน้ำเสียงที่พูดของเขาแฝงไปด้วยการตำหนิติเตียน
และที่ยิ่งทำให้ทุกคนนั้นตะลึงงันขึ้นไปอีกก็คือ ผู้มีอิทธิพลอำนาจ ปกครองจงโจวแบบเบ็ดเสร็จ อย่างส้งหัวอันนั้น กลับไม่มีท่าทีโมโหแม้แต่น้อย และยังจะคำนับต่อชายวัยกลางคนผู้นั้น ด้วยท่าทางที่เคารพพร้อมกับพูดว่า: “ขอบคุณมากที่พี่หวางใจกว้างมีเมตตา! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...