จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 358

เยนเป่ยเฟยแสดงท่าทางที่น่าเสียดายอยู่ด้านข้าง แล้วมองไปยังส้งหัวอันพ่อลูก ด้วยสีหน้าที่เหยียดหยาม

ทุกคนเป็นศัตรูกัน คุณทำแบบนี้ไม่ใช่เป็นการสร้างแรงปณิธานให้กับผู้อื่น ทำลายศักดิ์ศรีของตนเองงั้นเหรอ?

โม่จือมิ่งมองไปที่ส้งหัวอันด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังอย่างกะทันหัน: “คุณส้ง ข้าต้องการพบไอ้หนุ่มที่ชื่อหลินหยุนนั่นสักหน่อย! ”

นี่......

ส้งหัวอันมองไปที่โม่จือมิ่งด้วยความไม่เข้าใจ

พบเจอกันเพียงครั้งเดียวคงไม่เป็นไร แต่ทุกคนต่างก็คือศัตรูซึ่งกันและกัน พบเจอกันมันจะดีเหรอ?

เยนเป่ยเฟยถามขึ้นด้วยความโมโหว่า: “พี่จือมิ่ง ทำไมคุณถึงต้องการที่จะพบกับศัตรูด้วย? ”

โม่จือมิ่งมองไปที่เยนเป่ยเฟย และพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก: “ข้าต้องการทราบว่า ยาทิพย์ชั้นยอดนี้เขาเป็นคนกลั่นเองใช่ไหม? ”

เยนเป่ยเฟยมีสีหน้าที่ย่ำแย่ พูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า: “ถ้าหากว่าเขาเป็นคนกลั่นยาเองล่ะ? นายคิดจะทำอะไร? ”

โม่จือมิ่งไม่ได้ตอบ หันหลังแล้วก็เดินจากไป

เยนเป่ยเฟยมีสีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด ส่งเสียงฮึขึ้นอย่างเย็นชา แล้วก็หันหลังเดินจากไปเช่นกัน

ส้งอันหมิงมองไปที่ส้งหัวอันด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ: “คุณพ่อ พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป? ”

“โอ้ว รอกันไปก่อนแล้วกัน! ” ส้งหัวอันถอนหายใจ จนปัญญาที่จะทำอะไรได้อีก

ถ้าหากแม้แต่โม่จือมิ่งเองก็ยังไม่มีวิธีจัดการกับหลินหยุน ถ้าอย่างนั้นคนธรรมดาอย่างพวกเขา ก็คงจะยิ่งไม่มีวิธีการเข้าไปใหญ่

ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดก็คือรอ รอหลังจากที่โม่จือมิ่งได้พบกับหลินหยุนแล้ว มาดูกันว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

ช่วงค่ำ บนคูน้ำรอบเมืองในมณฑลจงโจว คนชรากับคนหนุ่มยืนประจันหน้า ซึ่งกันและกัน

หลินหยุนอยู่ในชุดสีดำ โม่จือมิ่งอยู่ในชุดเสื้อคลุมสีเทา เงาร่างของทั้งสองคน ถูกแสงไฟยามพลบค่ำสะท้อนจนกลายเป็นเงาร่างที่ยาวเหยียด

“คุณต้องการพบฉันเหรอ? ” หลินหยุนถามขึ้น ด้วยสีหน้าท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก

“ใช่” โม่จือมิ่งพยักหน้าด้วยสีหน้าท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึกเช่นกัน

“มีเรื่องอะไรเหรอ? ” หลินหยุนถามขึ้น

“ข้าต้องการที่จะทดสอบวิชากลั่นยาของนาย” โม่จือมิ่งพูดออกมาตรง ๆ

“ไม่น่าสนใจเลย” หลินหยุนพูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินจากไป

โม่จือมิ่งพูดขึ้นอย่างสงบนิ่ง: “ถ้าหากนายชนะ ข้าก็จะยอมวางมือ”

“แม้ว่านายจะใช้ยาทิพย์ชั้นเยี่ยม แต่ข้าก็มีวิธีอื่นที่จะมาประลองแข่งขันกับนาย หากว่านายต้องการที่จะกำจัดบริษัท หัวอัน กรุ๊ป เกรงว่าคงจะไม่ง่ายขนาดนั้น”

หลินหยุนหยุดก้าวเดินต่อ โดยไม่ได้ปฏิเสธ

โม่จือมิ่งพูดได้ถูกต้อง ยาทิพย์ชั้นยอดสำหรับผู้คนในโลกบู๊แล้ว มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แต่สำหรับคนทั่วไปแล้วนั้น ก็ไม่แตกต่างอะไรกับยาทิพย์ธรรมดาทั่วไป

ต่างกันก็ตรงที่สรรพคุณผลของการรักษาที่จะนานหรือสั้นเท่านั้นเอง

หากว่าโม่จือมิ่งนำยาทิพย์ชนิดอื่นออกมา เป็นไปได้ที่บริษัท หัวอัน กรุ๊ปจะสามารถรับมือกับการโจมตีของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปได้ ซึ่งคิดที่จะเอาชนะบริษัท หัวอัน กรุ๊ปนั้น ก็คงจะต้องพบกับความยากลำบากพอสมควร

“คุณคิดจะแข่งขันอย่างไร? ” หลินหยุนหันหลังกลับไปมองที่โม่จือมิ่ง เขามองออกว่า ผู้นี้คือนักกลั่นยาที่แท้จริง

เพราะว่า ตอนที่โม่จือมิ่งพูดถึงกลั่นยาสองคำนี้นั้น แววตาเผยออกมาถึงความเร่าร้อน ซึ่งไม่สามารถที่จะเสแสร้งได้อย่างแน่นอน

นั่นเป็นเพราะความชื่นชอบอย่างแท้จริง เป็นความชื่นชอบอย่างแรงกล้าที่ออกมาจากภายในจิตใจ!

โม่จือมิ่งพูดว่า: “สิบข้อห้ามของการกลั่นยา นายสามารถพูดออกมาได้กี่ข้อ? ”

หลินหยุนยิ้มอย่างเหยียดหยามเล็กน้อย: “สำหรับข้าแล้ว แต่ไหนแต่ไรการกลั่นยาไม่เคยมีข้อห้ามมาก่อน”

“หมายความว่าอย่างไรกัน? ” โม่จือมิ่งขมวดคิ้ว แสดงท่าทางสงสัย

“วิธีกลั่นยาคือสิ่งตายตัว ส่วนคนคือสิ่งมีชีวิต วัตถุดิบคือสิ่งตายตัว ส่วนคนคือสิ่งมีชีวิต ต่อให้เป็นยาสองชนิดที่มีผลขัดแย้งกัน ถ้าหากว่าปรุงแต่งอย่างเหมาะสมแล้ว ก็สามารถทำให้เกิดประสิทธิผลที่ดีเกินคาดก็เป็นได้”

“ที่คุณพูดว่าข้อห้ามสิบข้อนั้น มันไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน”

โม่จือมิ่งขมวดคิ้วครุ่นคิด คิ้วบางทีผ่อนคลาย บางทีก็ขมวดขึ้น เหมือนกับว่ากำลังพิจารณาคำพูดของหลินหยุนว่าถูกต้องหรือไม่

“เพียงคำพูดมันไร้หลักฐาน ต้องให้ข้าเห็นถึงความสามารถของนายก่อนจึงจะทราบได้! ”

พูดจบ โม่จือมิ่งก็ได้หยิบหม้อเล็กสามขา ออกมาจากกล่องที่ข้างกายของเขา โยนให้กับหลินหยุน

“ภายในนี้มีวัตถุดิบยาสมุนไพร พวกเราลองมากลั่น ‘ยารวมจิต’ กันสักกี่เม็ดดู” โมจือมิ่งจ้องเขม็งไปที่หลินหยุน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์