เมื่อต้องเผชิญกับสายตาดูถูกของคนรอบๆ เซี่ยหยู่เวยรู้สึกเหมือนกับมีลูกธนูที่แหลมคม กำลังยิงมาหาตัวเอง
โดนลูกธนูปัดทั้งตัว จนร่างกายแตกสลาย
แต่ว่า ผู้ชายที่ตัวเองคิดว่าเป็นสมบัติล้ำค่ามาโดยตลอด ในเวลานี้กลับเอาแต่ก้มหน้า นั่งอยู่ข้างๆตัวเอง ไม่ได้สนใจไยดีตัวเอง ราวกับเป็นเต่าหัวหด!
ในเวลานั้น อยู่ๆเซี่ยหยู่เวยก็นึกถึงผู้ชายอีกคน คนที่ตัวเองเคยทอดทิ้ง ผู้ชายที่ตัวเองคิดว่าเป็นคนไร้ค่ามาโดยตลอด
ผู้ชายที่ตัวเองเอาแต่ทำร้ายเขามาโดยตลอด แต่กลับเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองกับครอบครัวมาโดยตลอด สิ่งที่น่าขำก็คือตัวเองไม่สนใจไยดี คิดว่านั้นเป็นสิ่งที่เขาสมควรทำ
ตอนนี้ ตอนที่เธอสูญเสียผู้ชายแบบนั้นไป เซี่ยหยู่เวยถึงได้เข้าใจ ที่แท้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำดีกับตัวเอง และไม่หวังผลตอบแทนเหมือนกับเขา!
ผู้ชาย ที่ถูกเธอดูถูกมาโดยตลอดต่างหาก ที่ปฏิบัติกับเธอด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง
ถ้าเกิดสามารถย้อนเวลากลับไปได้ มันจะดีขนาดไหนกัน!
แต่น่าเสียดาย เวลาไม่มีทางหวงกลับ บนโลกนี้ไม่มียาสำนึกผิด
ก็เหมือนกับประโยคที่หลินหยุนเคยบอก ทุกคนต่างก็ต้องรับผิดชอบกับหนทางที่ตัวเองเลือก
เซี่ยหยู่เวยได้ชดใช้แล้ว แต่ว่าการชดใช้นี้ กลับทำให้เธอเจ็บปวดจนรับแทบไม่ไหว
จู่ๆเซี่ยหยู่เวยก็ยืนขึ้นมาอย่างเงียบๆ ลุกขึ้นจากที่นั่ง ราวกับซากศพที่กำลังเดินอยู่
ไปดีกว่า หนีไปซะก็ดี อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องทนรับสายตาที่ทิ่มแทงราวกับใบมีดแบบนั้น
ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เธอ ไม่มีใครห้าม ยังดีที่หวางเสี่ยวซีที่อยู่โต๊ะข้างๆวิ่งเข้ามา ห้ามเธอเอาไว้ แล้วลากไปนั่งโต๊ะของตัวเอง
ไม่ไกลนับ หลินหยุนแค่มองเธออยู่เงียบๆ จากนั้นก็หันไปทางอื่น
ในชาตินี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเขาตั้งนานแล้ว
นับตั้งแต่นี้ ต่างคนต่างเดิน
หลินหยุนเดินไปยังโต๊ะของแขกถัดไป คนบนโต๊ะนี้เต็มไปด้วยคนคุ้นหน้าคุ้นตา จางเหมิง เถียนชุ่ยชุ่ย เสิ่นหย่ง แล้วก็หวางหยู่หัน ล้วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาแล้วก็ครอบครัวของพวกเขา
ความจริงแล้ว ด้วยฐานะของพวกเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงที่เจี่ยงสงจัดขึ้นด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นงานเลี้ยงของปรมาจารย์หลินยิ่งแล้วใหญ่
แต่ว่า เพื่อที่จะให้น้ำชี่ทิพย์โด่งดังได้ในทันที คนที่เจี่ยงสงต้องเชิญมาในงานเองก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย เพราะงั้นพ่อของพวกจางหมิงกับเสิ่นหย่ง ถึงได้มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยง
พอเห็นเจี่ยงสงและหลินหยุนเดินมาทางนี้ พออยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เมตร ทุกคนต่างก็รีบลุกขึ้นมา แล้วทำความเคารพ ราวกับทหารยามที่กำลังโดนตรวจสอบอยู่
พวกจางหมิงเอง ก็รีบลุกขึ้นมา เอาแต่ก้มหน้า ไม่กล้ามองหน้าของหลินหยุน
โดยเฉพาะเหยียนเสวเหวิน ที่หวาดกลัวจนหน้าขาวซีด กลัวว่าหลินหยุนจะคิดบัญชีกับเขา
“ขอคารวะปรมาจารย์หลิน ขอคารวะท่านเจี่ยง!”
พ่อของเสิ่นหย่ง เสิ่นยู่หงเป็นคนนำคนพวกนี้ ทำความเคารพทั้งสองคน
“ลุกขึ้นเถอะ!” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ จากนั้นก็ถือแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมา แล้วดื่มมัน
ทุกคนต่างก็รีบดื่มตาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
พ่อของจางหมิง หลังจากที่ดื่มจนหมด ก็เทใส่แก้วตัวเองอีกหนึ่งแก้ว ประสานมือทั้งสองข้าง พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “ปรมาจารย์หลิน ท่านเจี่ยง ขอบคุณความช่วยเหลือจากท่านทั้งสอง!”
พอพูดจบ พ่อของจางหมิงก็ดื่มหมดในอึดเดียว
จากนั้น ก็เทให้ตัวเองอีกหนึ่งแก้ว
“ปรมาจารย์หลิน ก่อนหน้านี้ลูกสาวของผมมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ถึงได้สร้างปัญหาให้กับท่าน ท่านได้โปรดอย่าใส่ใจ!”
“ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบๆ ไม่ได้หันไปมองจางหมิงด้วยซ้ำ
ข้างๆ เสิ่นหย่งใช้โอกาสนี้ รีบลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า “หลินหยุน ก่อนหน้านี้เป็นความผิดของผมเอง ผมหวังว่าในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกันกับท่าน ท่านจะให้อภัยผม!”
“ท่านสบายใจได้ ระหว่างผมกับเถียนชุ่ยชุ่ยเราไม่เคยมีอะไรกัน ตอนนี้ผมจะอยู่ห่างจากเธอเดี๋ยวนี้ จากนี้ไปจะไม่คุยกับเธอแม้แต่คำเดียว!”
เถียนชุ่ยชุ่ยหน้าขาวซีด จ้องมองเสิ่นหย่งด้วยใบหน้าที่โกรธแค้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...