บนลานกว้าง หมอกควันและฝุ่นละอองสลายไปจนหมดสิ้น
พื้นดินเป็นหลุมเป็นบ่อ โดยถูกระเบิดกับจรวดมิสไซล์ระเบิดทำลายจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
ในจำนวนหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง เงาร่างของหลินหยุนยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อย
ถึงขนาดที่ว่า แม้แต่เสื้อผ้าบนร่างกายของเขาก็ไม่มีความเสียหายเลย หรือแม้แต่ฝุ่นละอองก็ไม่เปรอะเปื้อนเลยสักนิด
“เป็นไปได้อย่างไร! ” ปู่รองเติ้งมีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง เมื่อครู่พลังการยิงที่รุนแรงขนาดนั้น ต่อให้เป็นเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้
“ไอ้หนุ่มนี้ มีวิชาความสามารถพอตัวเลย! ”
กองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคนนั้น ยิ่งมีสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนก พวกเขาต่างก็เป็นนักบู๊ โดยที่พลังอานุภาพของระเบิดและจรวดมิสไซล์เหล่านี้ ก็มีความเข้าใจชัดแจ้งเป็นอย่างดี
พวกเขาแม้แต่กระสุนปืนทั่วไปก็ยังต้านทานไม่ได้ แต่ว่าหลินหยุนกลับสามารถต้านทานจรวดมิสไซล์ได้อย่างซึ่ง ๆ หน้า!
“เขา เขายังเป็นคนอยู่อีกหรือไม่? พลังความสามารถของเขาตกลงอยู่ในระดับขั้นไหนกันแน่? ต่อให้เป็นปรมาจารย์นักบู๊ก็คงจะต้องถูกระเบิดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสบ้างล่ะ! ”
“หรือว่า พลังความสามารถของเขาจะเกินกว่าระดับปรมาจารย์ไปแล้ว! ”
นักบู๊เหล่านี้ ส่วนมากต่างอยู่ในระดับขั้นพรแสวงต่ำสุด พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนฝึกฝนกันอย่างกระจัดกระจาย ไม่มีสำนัก ดังนั้น นักบู๊ระดับสูงสุดที่พวกเขารับรู้นั้น ก็คือปรมาจารย์
สำหรับ ระดับขั้นที่สูงกว่าปรมาจารย์ แม้ว่าพวกเขาจะมีการคาดเดาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยชัดเจน
ในหลุมหลบภัยใต้ดิน ใบหน้าของพ่อลูกตระกูลเติ้งก็เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ
“ถึงขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ตาย! ไอ้หนุ่มนี้ตกลงยังเป็นคนอยู่อีกหรือไม่? ” เติ้งเจียหลุนมีสีหน้าหวาดกลัว ขณะเดียวกัน สายตาก็เผยถึงความโกรธแค้นออกมา
แม้ว่าพวกเขาตระกูลเติ้งจะใช้เวลาหลายสิบปีในการก่อตั้งกองทัพทหารนักบู๊ แต่การแสวงหาทักษะการต่อสู้สำหรับตนเองแล้ว ทุกคนต่างก็มีความคาดหวังกันทั้งนั้น
เหมือนกับหลินหยุน ที่ตนเองมีพลังความสามารถอันแข็งแกร่งสามารถสู้รบต้านทานกองทัพทหารนักบู๊ได้ เติ้งเจียหลุนแค่ในความฝันก็อยากที่จะมีแบบนี้บ้าง
แต่น่าเสียดาย เพราะเขาก็เคยได้ฝึกฝนพลังบู๊กับปู่รองเติ้ง แต่ว่าแม้แต่ระดับพื้นฐานก็ยังไม่สามารถฝึกฝนได้
ยิ่งตงไหลกับคนอื่น ๆ สีหน้าท่าทางต่างก็เผยให้เห็นถึงอาการตกตะลึง
“ปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน ช่างสมกับคำเล่าลือจริง ๆ! ”
“เกรงว่าพลังความสามารถของเขา คงจะเหนือกว่าเจียงร่อโจ๋เทพแห่งสงครามของเมืองหลวงแล้ว! ”
“ถ้าหากคนผู้นี้สามารถมารับใช้ทางการจีนได้ คงจะกลายเป็นเจียงร่อโจ๋คนที่สองเป็นแน่! ”
ยิ่งตงไหลยังไม่ทันพ้นขีดอันตราย ก็กลับเริ่มคิดที่จะชักชวนหลินหยุนเข้ามาเป็นพวกแล้ว
หลินหยุนเดินออกมาจากหลุม สีหน้าเฉยชา: “ยังมีอีกไหม? ”
คำถามธรรมดาเพียงคำเดียว กลับทำให้กองทัพทหารนักบู๊ทั้งห้าสิบคน ก้าวถอยหลังโดยพร้อมเพรียงกัน
ทุกคน มองไปที่หลินหยุนเหมือนกับว่าเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น และมีสีหน้าท่าทางหวาดกลัว
“ถ้าหากไม่มี อย่างงั้นก็จบสิ้นกันเถอะ! ”
หลินหยุนพูดจบ เงาร่างก็หายแวบไป พุ่งตรงเข้าใส่ใจกลางกองทัพทหารนักบู๊ทั้งห้าสิบคนอย่างรวดเร็ว
ปู่รองเติ้งตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อน: “โจมตี! ”
“อย่าให้เขาเข้าใกล้ประชิดตัวเป็นอันขาด! ”
แต่ว่า หลินหยุนนั้นรวดเร็วอย่างมาก พวกเขามองเห็นเพียงแค่เศษเงา จากนั้นยังไม่ทันที่จะยิงปืน ก็ถูกหลินหยุนชกกระเด็นลอยไปไกล
แม้ว่าจะเป็นการบุกโจมตีในแบบกะทันหัน จรวดมิสไซล์เหล่านั้นก็ยังยิงไม่โดนหลินหยุน แต่กลับร่วงตกที่ด้านข้างของคนอื่น โดยมีนักบู๊บางคนที่หลบหลีกไม่ทัน จึงถูกระเบิดจนร่างกายพิการ
กองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคน ไม่มีสักคนที่จะสามารถต่อกรกับหลินหยุนได้
ผ่านไปหนึ่งนาที ทั้งหมดถูกหมัดชกลงไปกองกับพื้น
ปู่รองเติ้งสีหน้าเคร่งเครียด จ้องมองไปที่หลินหยุน: “แข็งแกร่งมาก ต่อให้เป็นข้า ก็ไม่มีทางที่จะทำได้ ซึ่งในเวลาอันสั้นสามารถที่จะจัดการกับกองทัพทหารนักบู๊ห้าสิบคนจนราบเป็นหน้ากลอง! ”
“ไอ้หนุ่มน้อยผู้นี้ตกลงมีพลังความสามารถระดับไหนกันแน่? ”
ภายในหลุมหลบภัยใต้ดิน เงียบสงัดเป็นอย่างมาก
พ่อลูกตระกูลเติ้งกับยิ่งตงไหล ทั้งหมดต่างจ้องมองจอภาพจากกล้องสังเกตการณ์ด้วยความงุนงง โดยที่ไม่พูดไม่จาอยู่เป็นเวลานาน
“ช่างน่าตกตะลึง ช่างแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก! ”
“กองทัพทหารนักบู๊ที่มีอาวุธปืนครบมือทั้งห้าสิบคน ถูกปรมาจารย์หลินจัดการจนราบคาบภายในเวลาเพียงหนึ่งนาที! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...