สรุปตอน บทที่ 61 เสี่ยวดาว – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 61 เสี่ยวดาว ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 61 เสี่ยวดาว
อันซื่อเอินร้อนรนมาก
“หลินหยุน นายอย่าอวดดีขนาดนี้ได้ไหม? รีบขอโทษพี่เฉียงซะ! พี่เฉียงไม่ถือสาเด็กหรอก”
อันซินก็พูดกล่อมด้วยความเป็นห่วง “พี่หลินหยุน ฟังที่พ่อฉันพูดเถอะ ขอโทษเขา เรื่องนี้พี่ไม่ต้องสนใจแล้ว!”
หวางชิ่งเซิงกลับชมด้วยความดีใจ “ไอ้หนุ่ม ดีมาก กล้าดี!”
ความจริงแล้ว สิ่งที่หวางชิ่งเซิงคิดก็คือ “ไอ้หนุ่ม ต่อให้ฉันไม่จัดการกับแก ก็จะมีคนจัดการแกแทนฉันเอง”
ไอ้หน้าบากเฉียงยิ้มอย่างเย็นยะเยือก “ขอโทษ? สายไปแล้ว!”
“วันนี้ ถ้าฉันไม่สั่งสอนมันสักที ต่อไปคงต้องโดนเพื่อนๆ หัวเราะเยาะแน่!”
“ไปจัดการมัน อย่าตีให้มันตายก็พอ!”
ไอ้หัวทองรีบเสนอตัวทันที “พี่เฉียง แค่ไอ้หมอนี่ ผมคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว ให้ผมจัดการก่อน!”
“ได้!”
ไอ้หัวทองเป็นคนเฉียบขาดรวดเร็ว ก้าวเท้ายาวเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พุ่งหมัดหนักเข้าไปหาหลินหยุนอย่างรวดเร็ว
อันซินตะโกนร้องด้วยความตกใจ “หลินหยุน รีบหลบไป!”
อันซื่อเอินและหลี่นีรีบปิดตาสนิท ไม่อาจจะทนดูได้
“เฮ้อ เด็กคนนี้ ทำไมถึงได้หัวแข็งขนาดนี้? แค่เงินไม่เท่าไหร่ ทำไมต้องเอาตัวเองเข้าไปลำบากด้วย!” หลีนีแอบถอนหายใจ
แต่ว่า ผ่านไปไม่นาน กลับไม่ได้ยินเสียงทุบตีบนร่างกายใครแต่อย่างใด และไม่ได้ยินเสียงหลินหยุนร้องโอดโอยเลยแม้แต่คำเดียว
อันซื่อเอินและภรรยาลืมตาขึ้นมา พวกเขาต้องพากันตกใจจนอ้าปากค้าง
หลินหยุนใช้มือเดียวจับล็อกกำปั้นของไอ้หัวทองไว้แน่น อีกมือไขว้หลัง สีหน้าราบเรียบไม่มีความรู้สึกใดๆ
ซึ่งต่างจากไอ้หัวทองในตอนนี้ ใบหน้าบอกเล่าได้ถึงความเจ็บปวด อยากร้องตะโกนระบายออกมาแต่ก็ไม่กล้า
“ไสหัวไป!”
หลินหยุดสะบัดมือออก จนตัวไอ้หัวทองกระเด็นออกไป
หวางชิ่งเซิงกุมขยับตัวเอง “โอ้ย ฉันลืมไปได้ไงว่าไอ้หมอนี่มันเก่งเรื่องการชกต่อยขนาดไหน เมื่อกี้น่าจะเตือนไอ้หน้าบากเฉียงสักหน่อย!”
ไอ้หัวทองล้มกองลงไปกับพื้น มืออีกข้างยกไม่ขึ้นอีกเลย
“ไอ้หัวทอง แกเป็นไงบ้าง?” ไอ้หน้าบากเฉียงถามด้วยความตกใจ
ไอ้หัวทองอดทนกับความเจ็บ แล้วพูดตอบไปว่า “พี่เฉียงระวัง ไอ้หมอนี่มันเป็นกังฟู!”
ไอ้หน้าบากเฉียงเข้าใจขึ้นมาในทันที “ถึงว่าทำไมมันถึงได้กล้าออกตัวมา ที่แท้ก็เห็นว่าตัวเองมีความสามารถนี่เอง แต่แกชนะไอ้หัวทองแค่คนเดียว คิดว่าจะสู้กับเพื่อนของฉันตั้งหลายคนขนาดนี้ได้เหรอ?”
“ไปด้วยกัน!” ไอ้หน้าบากเฉียงตะโกนขึ้น
“หลินหยุน ระวัง!” อันซินร้องตะโกนขึ้นด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าเมื่อครู่เธอจะเห็นถึงความสามารถของหลินหยุน แต่นั่นมันแค่ไอ้หัวทองคนเดียว ตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เยอะขนาดนี้ เขาจะชนะได้หรือ?
“วางใจเถอะ” หลินหยุนยังมีเวลาที่จะตอบเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม จากนั้นก็เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกนั้นด้วยความไม่รีบร้อน
หมัดละคน นักเลงที่พุ่งเข้ามาพวกนั้น ไม่ถึงหนึ่งนาที โดนต่อยล้มลงไปกองกันบนพื้นจนหมด พร้อมกุมท้องร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
พวกมัน แม้แต่ชายเสื้อของหลินหยุนก็ยังไม่ทันได้เอื้อมถึง
“นี่มัน...เป็นไปได้ยังไงกัน!” ไอ้หน้าบากเฉียงในตอนนี้ตกตะลึงไปแล้ว เพื่อนของเขาเหล่านี้ถึงจะไม่ใช่คนที่มีฝีมือสูงอะไรขนาดนั้น แต่คนเหล่านี้ก็ผ่านอะไรมากับเขาตลอด มีเรื่องชกต่อยนับไม่ถ้วน
ถ้าต่อสู้กับคนทั่วไป 1 ต่อ 3 ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ตอนนี้กลับโดนนักศึกษาอายุแค่ 20 ต้นๆ จัดการไม่กี่หมัดก็เอาอยู่เสียแล้ว!
ถ้าหากไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ต่อให้บอกว่าคนคนนี้เป็นคนที่เก่งกาจขนาดไหน ไอ้หน้าบอกเฉียงก็ไม่มีทางเชื่อ
คนอื่นๆ ต่างก็มองหลินหยุนด้วยความตกใจกันทั้งนั้น
หลินหยุนเพียงแค่อยากถือโอกาสนี้จัดการกับนักเลงพวกนี้ หลีกเลี่ยงไม่ให้บ้านอันซินมีปัญหาตามมาภายหลัง ไม่เช่นนั้นเขาเองก็คงไม่ให้โอกาสไอ้หน้าบากเฉียงได้โทรศัพท์
ถ้าหากเขาทายไม่ผิด ชาติที่แล้วการที่บ้านของอันซินต้องย้ายออกไปจากหลินโจว ก็เพราะไปทำให้พวกเลงพวกนี้ไม่พอใจ ถึงได้จำใจต้องย้ายออกไป
ชาตินี้ หลินหยุนก็เลยอยากที่จะช่วยพวกเขาแก้ปัญหาให้จบสิ้น
ไม่นาน ชายหนุ่มที่ไว้ผมถักเปียคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับนำลูกน้องมาด้วยอีก 5 คน
ดูท่าคนพวกนี้น่าจะอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมหลานเทียนมากนัก
เมื่อเห็นชายหนุ่มถักเปียคนนั้นเดินเข้ามา ไอ้หน้าบากเฉียงก็ราวกับเห็นผู้ช่วยชีวิตตนเองมาถึง
“พี่ดาว พี่มาสักที!” ท่าทางอวดศักดาอาวุธของไอ้หน้าบากเฉียงเมื่อครู่หายไปอย่างไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว ท่าทางกลายเป็นหมาพันธุ์ปั๊กทันที
พี่ดาวมองไอ้หน้าบากเฉียงด้วยสายตาเหยียดหยาม แววตาคู่นั้นทำให้คนรู้สึกตัวสั่นไม่น้อย
“ใครตีแก?” พี่ดาวถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อันซื่อเอินเริ่มเครียด จบกัน คนของท่านเจี่ยงมาแล้ว คราวนี้เงินแค่ 5 หมื่นคงจะแก้ไขปัญหาไม่ได้แล้ว
ไอ้หน้าบากเฉียงชี้ไปที่หลินหยุน พร้อมพูดว่า “พี่ดาว ไอ้หมอนั่น”
“คนตั้งเยอะขนาดนี้จัดการไม่ได้แม้แต่คนคนเดียว พวกแก...” พี่ดาวพูดได้ครึ่งเดียว ก็หยุดพูดทันที ปากอ้าค้าง เหมือนว่ากำลังเจอผีอยู่ก็ไม่ปาน
“พี่ดาว ไอ้หมอนี่มันเป็นกังฟู พี่ระวังหน่อยนะ แก้แค้นให้พวกน้องๆ นะพี่!” ไอ้หน้าบากเฉียงพูดด้วยความเจ็บใจ
เมื่อเห็นว่าพี่ดาวไม่ขยับเขยื้อน ไอ้หน้าบากเฉียงก็ถามด้วยสงสัย “พี่ดาว พี่เป็นอะไรไป? ทำไมไม่ขยับแล้วล่ะ หรือว่าไอ้หมอนี่มันจะมีเวทมนตร์ด้วยเหรอ?”
พี่ดาวมองไปที่หลินหยุน ผ่านไปหลายนาทีเขาถึงได้ดึงสติตัวเองกลับมา
จากนั้น พี่ดาวก็ก้าวยาวเข้าไปหาหลินหยุนท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของผู้คนที่อยู่ตรงนั้น พร้อมกับโค้งคำนับทำความเคารพ “คุณหลิน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ครับ ผมเสี่ยวดาวลูกน้องของท่านเจี่ยง ขอทำความเคารพครับ!”
ประโยคเดียว ทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นพากันเงียบกริบ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...