หลินหยุนสำรวจไปโดยรอบทั้งสี่ทิศ ก็ไม่พบว่ามีร่องรอยของค่ายกล ทุกสิ่งอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
“ไม่เห็นมีร่องรอยของค่ายกลที่ได้จัดวางขึ้น ช่างหาได้ยากจริง ๆ”
“หลินหยุนเริ่มเดินขึ้นบนเขา”
ทั้งเกาะตงไหล ที่จริงแล้วก็คือภูเขาลูกหนึ่ง ภูเขาลูกนี้ไม่สูงนัก แต่มีพื้นที่กว้างใหญ่
ลักษณะภายนอกของภูเขา ก็เหมือนกับถุงดินขนาดเล็กสิบกว่าถุงที่มาวางรวมกัน
ในจำนวนนี้มีถุงดินที่สูงที่สุด ซึ่งก็คือยอดภูเขาหลักของเกาะตงไหล เป็นที่พักอาศัยของนักพรต จื่อหยาง
เส้นทางถนนบนภูเขาทั้งขรุขระ และคดเคี้ยว ทอดยาวตรงไปยังยอดภูเขาหลัก
ถนนสายนี้หากว่าเป็นคนธรรมดาเดิน คงจะเดินกันยากลำบากอย่างแน่นอน แต่ว่า หลินหยุนกลับเดินได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งยังมองไม่ออกด้วยว่าหลินหยุนใช้แรงกำลังอะไร เส้นทางถนนที่ขรุขระนั้น เมื่ออยู่เบื้องหน้าของเขา ก็เหมือนกับพื้นดินที่ราบเรียบโดยใช้วิธีการเดินอย่างปกติ
ตอนที่หลินหยุนเดินขึ้นถึงยอดเขานั้น ท้องฟ้าก็มืดมิดลงแล้ว
บริเวณโดยรอบต่างก็ถูกจับจองที่นั่งกันหมดแล้ว โดยเหล่าผู้คนที่มาชมของการประลองยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่นี้กำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอย กลั้นหายใจ และตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก
“มาแล้ว! ”
“นี่ก็คือปรมาจารย์หลินใช่ไหม? อายุยังน้อยอยู่เลยจริง ๆ ด้วย! ”
“อย่าได้ตัดสินคนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก เขาก็คือผู้ที่ฆ่าฉิวเชียนซา”
“อาชูร่ามารโลหิตฉิวเชียนซา! นั่นเป็นถึงยอดฝีมือที่แข็งแกร่งระดับเดียวกันกับนักพรตจื่อหยางเลย! ”
สำหรับตำนานร่ำลือของหลินหยุน แต่ละเหตุการณ์ แต่ละเรื่องราวล้วนกระจายแพร่หลายไปทั่วในกลุ่มผู้คน
“หากเป็นเช่นนี้ ปรมาจารย์หลินที่อายุน้อยท่านนี้ กับนักพรตจื่อหยางที่โด่งดังในโลกบู๊เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ถือว่ามีพลังความสามารถที่สูสีกัน! ”
“ทว่า ปรมาจารย์หลินมาถึงแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่เห็นนักพรตจื่อหยางล่ะ? ”
“รีบดูเร็ว นักพรตจื่อหยางออกมาแล้ว! ”
ภายในบ้านไม้ที่ซอมซ่อ ชายวัยกลางคนในชุดนักพรตสีม่วง ค่อย ๆ เดินออกมา พร้อมกับสีหน้าท่าทางที่ยิ้มแย้ม
“ปรมาจารย์หลิน ชื่นชมท่านมานานแล้ว! ”
น้ำเสียงของนักพรตจื่อหยาง เหมือนกับว่าดังขึ้นมาจากท้องฟ้า แล้วกังวานอยู่ด้านบนของศีรษะของทุกคน ราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังกึกก้อง
“เกรงใจกันไปแล้ว” หลินหยุนกล่าวตอบ
จากนั้น ทั้งสองคนก็เดินมายังพื้นที่ว่างเปล่าที่อยู่ตรงกลาง แล้วก็หยุดลงพร้อมกันโดยที่ไม่มีการ นัดหมาย
“นั่นคือนักพรตจื่อหยางเหรอ? เป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้าได้ยินมาว่านักพรตจื่อหยางมีอายุมากแก่ชราภาพ เป็นไม้ไกล้ฝั่งแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้กลายเป็นชายวัยกลางคนไปได้ล่ะ? ”
“เกรงว่าการบำเพ็ญฝึกฝนของนักพรตจื่อหยาง จะเพิ่มมากขึ้นอีกไม่น้อย ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ปรมาจารย์หลินคงจะโชคร้ายเป็นแน่”
“ไม่เคยได้ยินเรื่องราวอัศจรรย์ที่เปลี่ยนจากวัยชรากลายเป็นวัยหนุ่มเช่นนี้มาก่อน นักพรต จื่อหยางช่างเก่งกาจยอดเยี่ยมเสียจริง เหมาะสมจริง ๆ กับการเป็นปรมาจารย์เวทมนตร์ที่เก่งกาจที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้! ”
“คาดหวังอย่างมากว่าการประลองยุทธ์ระหว่างสองคนนี้ คงจะดุเดือดเลือดพล่านมากเป็นแน่! ”
คนของตระกูลเจี่ยง มาถึงก่อนแล้ว โดยอยู่บริเวณรอบก้อนหินสีเขียว แล้วก็นั่งลงที่นั่น
เจี่ยงจิงเทียนมองไปยังนายท่านเจี่ยงที่มีสีหน้าท่าทางเฉยชา และถามขึ้นอย่างกังวลว่า: “ท่านพ่อ ท่านคิดว่านักพรตจื่อหยางจะสามารถเอาชนะได้ไหม? ”
เจี่ยงจงสือสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก: “สำหรับพลังความสามารถบู๊ พวกเราต่างก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ว่า พวกเราได้เตรียมแผนการล่วงหน้าเอาไว้แล้ว ต่อให้นักพรตจื่อหยางพ่ายแพ้ ปรมาจารย์หลินนั้นก็คงจะไม่กล้าทำอะไรที่เกินไป”
พูดจบ เจี่ยงจงสือก็มองไปยังบริเวณที่ไกลออกไปราวห้าเมตร แล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับผู้ว่าราชการเกาะหนันที่นั่งอยู่บนก้อนหิน
ผู้ว่าราชการเกาะหนันรีบยิ้มรับกลับให้ทันที โดยสถานะของตระกูลเจี่ยงในเกาะหนัน แม้ว่าจะเป็นถึงผู้ว่าราชการเกาะหนัน ก็ไม่กล้าที่จะไม่ให้เกียรติ
ไม่อย่างนั้น หากตระกูลเจี่ยงชูมือเรียกร้องขึ้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกาะหนันนี้จะฟังใครกันแน่
เจี่ยงจิงเทียนจึงเบาใจลงได้บ้าง: “มีผู้ว่าราชการเกาะหนันอยู่ รวมถึงยังมีเศรษฐีและผู้มีชื่อเสียงมากกว่าครึ่งของเกาะหนัน ต่างก็มากันหมดแล้ว ถึงแม้ปรมาจารย์หลินจะเป็นผู้ชนะ ก็คงจะไม่กล้าทำอะไรที่หลงระเริงเกินไปนัก! ”
“ใช่แล้วท่านพ่อ ข้าได้ส่งคนไปสร้างความสัมพันธ์กับเหล่านักบู๊ที่มากันแล้ว”
“คราวนี้ ข้าได้ให้ค่าตอบแทนมากกว่าครั้งก่อนหนึ่งเท่าตัว เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้รับทราบผล”
บนต้นไม้ต้นหนึ่งที่ไกลออกไป ชายหนุ่มคนหนึ่งและหญิงสาวคนหนึ่งในชุดซามูไรสีดำ กำลังจ้องมองมาที่หลินหยุน
หญิงสาวพูดบ่นพึมพำอย่างไม่ค่อยพอใจว่า: “ก็แค่เด็กหนุ่มที่อายุยังน้อย คิดไม่ถึงว่านายพลหงจะมีความระมัดระวังมากขนาดนี้ ยังต้องให้พวกเราสองคนมาเฝ้าสังเกตเขาด้วย! ”
“ไม่จำเป็น” หลินหยุนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
ทราบดีว่าการปะทะกันของยอดฝีมือ การคว้าโอกาสก่อนนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ว่า หลินหยุน กลับปฏิเสธความหวังดีของนักพรตจื่อหยาง
“ช่างเป็นชายหนุ่มที่หลงระเริงอย่างยิ่ง ข้าได้ให้โอกาสกับนายแล้ว แต่นายเองไม่ยอมที่จะหวงแหนเอาไว้ งั้นก็อย่าได้มากล่าวหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก”
นักพรตจื่อหยางก็ไม่เกรงใจแล้ว เริ่มลงมือทันที
มือซ้ายของเขาถือม้วนภาพวาด มือขวาวาดภาพอะไรอยู่กลางอากาศ
กี่วินาทีผ่านไป นักพรตจื่อหยางก็วาดภาพเสร็จ แล้วตะโกนเบา ๆ ขึ้น: “เริ่มได้! ”
บริเวณเท้าของหลินหยุน ก็พลันปรากฏตาข่ายขนาดใหญ่ขึ้น ตาข่ายนั้นทำมาจากเถาวัลย์ผูกประกอบเข้าด้วยกัน ดูเหมือนว่าจะมั่นคงแน่นหนาอย่างมาก เมื่อผูกมัดเข้ากับคนแล้ว ก็คงไม่สามารถที่จะดิ้นให้หลุดออกได้
หลินหยุนยืนอยู่กับที่ ปล่อยให้ตาข่ายนั้นปกคลุมร่างกายของตน และแอบพูดในใจว่า: “นี่ก็คือ เวทมนตร์ใช่ไหม? คิดไม่ถึงว่าจะคล้ายกับวิชาอาคมของผู้บำเพ็ญเซียนเลย”
“ดูเหมือนว่า วิชาเวทมนตร์นี้ คงจะได้รับการถ่ายทอดมาจากวิชาอาคมของผู้บำเพ็ญเซียน”
เห็นนักพรตจื่อหยางเรียกตาข่ายยักษ์ออกมา แล้วไม่นานก็ครอบคลุมทั้งร่างของหลินหยุน
ผู้ชมทุกคนโดยรอบ ต่างก็จ้องหน้าซึ่งกันและกัน
“ไม่นะ มันจะจบลงเพียงเท่านี้แล้วเหรอ? ”
“ปรมาจารย์หลินคนนี้คือตัวปลอมใช่ไหม! ”
“ความสามารถระดับนี้จะฆ่าฉิวเชียนซาได้อย่างไรกัน? ”
“ตัวปลอม ปรมาจารย์หลินคนนี้คือตัวปลอมอย่างแน่นอน”
เจี่ยงหลินหลินพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ: “คุณพ่อ นักพรตจื่อหยางชนะแล้วใช่ไหม? ”
เจี่ยงจิงเทียนส่ายศีรษะ: “ไม่ชัดเจน แต่ ดูแล้วว่านักพรตจื่อหยางกำลังได้เปรียบอยู่ ดูเหมือนพลังความสามารถของไอ้หนุ่มนั่น คงจะเป็นรองนักพรตจื่อหยาง”
เจี่ยงจงสือพูดขึ้นว่า: “นี่มันยังไม่แน่ เพิ่งจะเผชิญหน้าเข้าใส่กันเพียงครั้งเดียว ก็จะพูดว่าใครชนะใครแพ้แล้วไม่ได้ มันยังเร็วเกินไป”
“ดูกันไปก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ! เชื่อว่าปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน ไม่ใช่จะมีเพียงแค่ชื่อเสียงที่ร่ำลือเท่านั้น! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...