จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 672

สายตาของนิ่งโหย่วหรง ก็ชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มองไปยังหลินหยุน

หลินหยุนก็กำลังหันมามองเธอพอดี

เวลาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้พบหน้ากันอีกครั้ง

ความงามของนิ่งโหย่วหรง ก็ยังคงงดงามเหมือนเดิม สามารถแข่งสู้กับอันซินได้เลย

“คุณก็คือหมอเทพหลินเหรอ?” น้ำเสียงของนิ่งโหย่วหรงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย เธอไม่เคยเห็นหมอเทพคนไหนที่อายุน้อยขนาดนี้เลย

แต่ว่า สายตาที่หลินหยุนมองเธอนั้น กลับทำให้นิ่งโหย่วหรงรู้สึกอุ่นใจมาก

สายตาของหลินหยุนที่มองเธอนั้น ล้วนมีแต่ความชื่นชมที่บริสุทธิ์เท่านั้น ไม่มีความรู้สึก ที่คุกคามแบบนั้นแม้แต่นิดเดียว

ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น ที่แทบจะอยากกลืนกินเธอลงไปในท้องถึงจะพอใจ

หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “พวกเขาก็เรียกผมอย่างนี้ทั้งนั้น”

นิ่งโหย่วหรงก็ไม่เกรงใจเลย ถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “งั้นคุณคิดว่าคุณคู่ควรกับฉายาที่เขาตั้งให้หรือเปล่าล่ะ?”

คำพูดนี้ก็ทำให้เกิดความรู้สึกที่ถูกจู่โจมอย่างรุนแรง

แต่ว่า เมื่อออกจากปากของนิ่งโหย่วหรงแล้ว กลับทำให้คนฟังไม่ได้รู้สึกว่ามีเจตนาร้ายอะไร ฟังดูเหมือนคำถามที่ใสซื่อบริสุทธิ์เท่านั้นเอง

แต่ว่า คำถามนี้กลับไม่ได้ตอบง่ายเลย

ถ้าหลินหยุนตอบว่าคู่ควรละก็ เผื่อว่าอีกประเดี๋ยวไม่สามารถรักษาโรคของนายท่านนิ่งให้หายได้ งั้นก็ไม่ขายขี้หน้าคนอื่นหรอกเหรอ?

ถ้าหลินหยุนบอกว่าไม่คู่ควร งั้นก็ยอมรับว่าฝีมือวิชาการแพทย์ของเขาไม่ได้เรื่องแล้วสิ

นิ่งเฟิ่งเซียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ไปต่อว่านิ่งโหย่วหรง เห็นได้ชัดว่าเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลินหยุนจะตอบว่าอย่างไร

โจวชิงเหอสีหน้าเคร่งขรึม คิดอยากพูดอะไรบ้าง แต่กลับถูกไอ้อ้วนหวางที่อยู่ข้างๆขัดขวางไว้ สุดท้ายจึงไม่ได้พูดอะไรเลย ได้แต่มองไปยังนิ่งโหย่วหรงด้วยความโกรธเล็กน้อย

หลินหยุนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังใบหน้าที่สะสวยของนิ่งโหย่วหรง กลับถาม อย่างเรียบๆว่า “แล้วคุณคิดยังไงล่ะ?”

ตอบได้อย่างแจ่มแจ๋วมาก ทำให้คำพูดจู่โจมของนิ่งโหย่วหรง สลายหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย

สีหน้าโจวชิงเหอรู้สึกโล่งอก ในใจคิดชื่นชมว่า “หมอเทพหลินไม่เพียงแต่ฝีมือวิชาการแพทย์สูงส่งแล้ว เทคนิคการพูดจาก็ยังล้ำเลิศอีกด้วย คราวนี้ก็โยนคำถามกลับคืนให้กับคุณหนูตระกูลนิ่งแล้ว ดูสิว่าเธอจะตอบว่ายังไง”

คำตอบของนิ่งโหย่วหรงง่ายดายมาก ดูเหมือนว่าจะแฝงด้วยการจู่โจมอยู่ตลอดเวลา “ต้องลองดูก่อนถึงจะรู้”

คราวนี้ นิ่งเฟิ่งเซียนก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาในที่สุด

“ลูกหรง อย่าได้เสียมารยาท!”

ในใจโจวชิงเหอรู้สึกเย้ยหยัน คำพูดนี้พูดช้าไปหรือเปล่า?

นิ่งเฟิ่งเซียนก็ยกมือทำท่าขอเชิญให้กับหลินหยุน “หมอเทพหลินครับ เชิญตรวจดูอาการป่วยของพ่อผมด้วย!”

สายตาของทุกคน ต่างก็มุ่งตรงไปยังชายชราที่กำลังนอนหลับอยู่บนเก้าอี้รถเข็น

คำสนทนาระหว่างหลินหยุนและนิ่งโหย่วหรงเมื่อครู่นั้น ไม่ได้ปลุกให้ชายชราตื่นขึ้นมาเลย แสดงให้เห็นว่า ปฏิกิริยาตอบโต้ของชายชราดูเหมือนค่อนข้างเชื่องช้าแล้ว

หลินหยุนเดินเข้าไปใกล้ แล้วสังเกตอาการของชายชราคนนั้นสักครู่หนึ่ง เห็นว่าการหายใจของชายชราเดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาว ดูราวกับว่าเพิ่งจะผ่านการออกกำลังกายที่หนักหน่วงมาเมื่อครู่นี่เอง

เห็นได้ชัดว่า สภาพร่างกายของเขาย่ำแย่มากแล้ว

“ช่วยปลุกให้เขาตื่นเถอะ!” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้น เขาเคยได้วิเคราะห์กับโจวชิงเหอแล้วว่า นายท่านนิ่งน่าจะป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ว่า ในขณะที่ยังไม่ทันได้เห็นตัวคนป่วยแล้ว ก็ยังไม่สามารถ ฟันธงได้

ส่วนหลังจากที่ได้เห็นนายท่านนิ่งตอนนี้แล้ว สภาพร่างกายของเขา ก็ค่อนข้างคล้ายกับอาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ว่า ยังจะต้องสอบถามอาการให้ชัดเจนมากกว่านี้

นิ่งเฟิ่งเซียนเดินเข้ามาใกล้ กำลังจะปลุกให้นายท่านนิ่งตื่น

นิ่งโหย่วหรงกลับขัดขวางทันที “อย่ารบกวนการพักผ่อนของคุณปู่ฉัน!”

เช่นนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก

ถ้าไม่ปลุกให้คนป่วยตื่น เพื่อสักถามอาการที่ชัดเจน แล้วจะวินิจฉัยโรคได้อย่างไรกัน?

โจวชิงเหอพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “คุณหนูนิ่ง หมอเทพหลินกำลังจะวินิจฉัยโรคของ นายท่านนิ่งอยู่นะ คุณก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยสิ”

สายตาของนิ่งโหย่วหรง แสดงออกถึงความดูถูกดูแคลน น้ำเสียงเย็นชา “หมอเทพที่แท้จริงแล้ว มีที่ไหนจะต้องให้คนป่วยให้ความร่วมมือด้วยล่ะ?”

พูดมาพูดไป ก็รู้ว่านิ่งโหย่วหรงยังคงเคลือบแคลงสงสัยในวิชาการแพทย์ของหลินหยุน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์