จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 869

ความเข้าใจของฉินโส่วที่มีต่อหลินหยุนนั้น ก็รู้เพียงแค่ว่าหลินหยุนก็คือปรมาจารย์หลิน

ส่วนหลินหยุนมีอิทธิพลความสามารถมากแค่ไหนนั้น เขาไม่รู้ไม่ทราบอะไรเลย

ที่จริงแล้ว เรื่องอิทธิพลความสามารถของหลินหยุนนั้น แม้แต่ตระกูลหวางก็ทราบไม่มากเท่าไรนัก

ขนาดที่ว่า แม้กระทั่งทางการของจีน ก็ยังไม่รู้ไม่เข้าใจอย่างชัดเจนเช่นกัน

ตระกูลฉินก็มีรายชื่ออยู่ในการเชิญของชางฉองกรุ๊ป ซึ่งเดิมทีตามลักษณะนิสัยของหลินหยุนแล้ว จะไม่นำอิทธิพลอำนาจของเพื่อนตนเองมารวบรวมอยู่ภายใต้อิทธิพลอำนาจของตน

แต่ว่า ตอนนี้ตระกูลฉินกำลังประสบกับวิกฤต จึงต้องรวบรวมเข้ากับชางฉองกรุ๊ป ซึ่งถือเป็น

วิธีการเดียวที่จะสามารถดำเนินต่อไปได้

ข่าวสารที่หลินหยุนก่อตั้งชางฉองกรุ๊ปนั้น ครั้งนี้ไม่ได้มีการปกปิด แต่กลับมีการป่าวประกาศ กันอย่างใหญ่โต

สื่อมวลชน และช่องโทรทัศน์แต่ละสำนัก ต่างก็พากันประกาศข่าวกันอย่างครึกโครม

ภายในคืนเดียว ชื่อของชางฉองกรุ๊ป ต่างก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

แต่ว่า นอกจากชื่อแล้ว เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชางฉองกรุ๊ป ต่างก็ยังคงเป็นปริศนา

ไม่มีผู้ใดทราบว่าชางฉองกรุ๊ปดำเนินกิจการด้านเครื่องสำอางค์ หรือว่าอาหาร หรือว่า

อสังหาริมทรัพย์

และก็ไม่มีผู้ใดทราบว่า เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังชางฉองกรุ๊ปคือใคร

ชางฉองกรุ๊ปก็เหมือนกับบริษัทที่ผุดขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่า

ดังนั้น ชางฉองกรุ๊ปที่ทุกคนได้ยินกันนั้น ยิ่งดูเหมือนว่าเป็นบริษัทที่มีเพียงแค่ชื่อแต่ไม่มี

ความสามารถโดยรอเพียงที่จะจับเสือมือเปล่า

หลายคนต่างก็คิดว่าชางฉองกรุ๊ปเป็นบริษัทขายตรง จึงไม่ได้ให้ความสนใจอะไร

นอกจากผู้มีอิทธิพลที่ยอมศิโรราบต่อหลินหยุนที่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการชางฉองกรุ๊ป แล้ว พวกผู้มีอิทธิพลที่เป็นปรปักษ์กับหลินหยุน ก็ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการชางฉองกรุ๊ป

ด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำสั่งของหลินหยุน แต่ว่า ในบัตรเชิญไม่มีการเปิดเผยชื่อของ

บุคคลใด โดยอาศัยเพียงแค่นามของชางฉองกรุ๊ปเป็นผู้เชิญ

ตระกูลไป๋ที่เจียงหนาน

ไป๋จ่านถังนั่งอยู่กลางห้องโถง มองดูบัตรเชิญที่อยู่ในมือ แล้วก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาเป็นระยะ

เมื่อดูเสร็จ ไป๋จ่านถังก็หยิบบัตรเชิญที่ทำจากกระดาษเคลือบฟอยล์ทองพรีเมี่ยมแผ่นนั้น โยนทิ้งลงไปด้านข้าง

จากนั้น ไป๋จ่านถังก็กวาดสายตามองไปยังผู้บริหารระดับสูงของตระกูลไป๋ที่อยู่ด้านล่าง และ

ถามขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า: “พวกคุณมีใครเคยได้ยินชื่อชางฉองกรุ๊ปบ้างไหม? ”

ผู้อาวุโสด้านล่างคนหนึ่ง ถามขึ้นว่า: “ใช่บริษัทที่กำลังลงข่าวประชาสัมพันธ์โฆษณาอย่าง

ครึกโครมนั่นใช่ไหม? ”

ไป๋จ่านถังพยักหน้า: “คงน่าจะใช่บริษัทนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อตั้งขึ้น โดยคิดไม่ถึงว่าจะส่ง

บัตรเชิญมาให้กับฉันด้วย”

“ฉันไป๋จ่ายถัง เป็นผู้ที่พวกหมาหรือพวกแมวเปิดบริษัทขึ้น แล้วก็ส่งบัตรเชิญมาให้ไปร่วมงานง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ? ” ไป๋จ่านถังโมโหอย่างมาก รู้สึกว่าตนเองกำลังถูกดูหมิ่นในศักดิ์ศรี

ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดว่า: “โฆษณาของชางฉองกรุ๊ปนั้นฉันได้วิเคราะห์หลายรอบแล้ว สุดท้าย

นอกจากชื่อบริษัทแล้ว รายละเอียดอื่นใดก็ไม่สามารถรับรู้และเข้าใจได้ โดยไม่รู้จริง ๆ ว่าบริษัท

แห่งนี้ดำเนินกิจการประเภทไหน แม้แต่ข้อมูลเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้เปิดเผยเลย”

“ถ้าหากว่าเป็นโฆษณาของบริษัทปกติทั่วไป แน่นอนว่าอย่างแรกจะต้องเปิดตัวแนะนำสินค้า

ของตนเองให้กับทุกคนรู้จัก แต่ชางฉองกรุ๊ปกลับทำตรงกันข้าม นี่มันหมายความว่าอย่างไร? ”

“ฉันคิดว่า นี่คงเป็นเพียงแค่การจงใจสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเท่านั้น”

“โดยการสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาในเวลานี้ ฉันจึงคาดเดาว่า ชางฉองกรุ๊ปนี้ น่าจะมีความ

เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์หลิน”

ผู้อาวุโสคนนี้วิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุมีผล ผู้บริหารระดับสูงทุกคนของตระกูลไป๋ต่างก็อดไม่ได้ที่จะ

พยักหน้า แสดงว่าหลายคนต่างก็เห็นด้วยกับการคาดการณ์ของเขา

ไป๋จ่านถังเองก็พยักหน้า และพูดว่า: “อืม มีเหตุผล! เหมือนกับว่าปรมาจารย์หลินเป็นคนจัดการ

ให้เกิดขึ้น! ”

ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดที่อยู่ด้านล่างต่างก็พากันพยักหน้า แสดงความเห็นด้วยต่อความคิดของ ผู้อาวุโสนั้น

ไป๋จ่านถังถามขึ้นอีกว่า: “ถ้าอย่างนั้นชางฉองกรุ๊ปเชิญให้ฉันไปเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการของพวกเขา ฉันควรจะไปหรือไม่ไปดีล่ะ? ”

“ถ้าหากปรมาจารย์หลินเป็นคนจัดการจริง ๆ ไอ้แก่อีหยุ่นนั้น คงจะไปร่วมงานอย่างแน่นอน! ”

ผู้อาวุโสคนนั้นพูดว่า: “เจ้าบ้าน ฉันคิดว่าคุณควรที่จะไปเข้าร่วม! ”

“ข้อแรกสามารถที่จะตรวจสอบชางฉองกรุ๊ปว่าจริงหรือเท็จ ข้อสองถือโอกาสไปจงโจวสักครั้ง เพื่อไปหาคุณชายตระกูลหวางและสอบถาม หลังจากที่พวกเราเข้าซื้อกิจการตระกูลอีแล้ว ผลประโยชน์ส่วนนี้จะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร! ”

ไป๋จ่านถังแสดงสีหน้าเห็นด้วย พยักหน้าและพูดว่า: “มีเหตุผล สมควรที่จะไปหาคุณชายตระกูล

หวางเพื่อสอบถามเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าใกล้ที่จะจัดการทำลายตระกูลอีลงได้อย่างราบคาบแล้ว ซึ่งถ้าหากการจัดสรรผลประโยชน์ยังไม่ลงตัว แผนการยุแยงตะแคงรั่วของไอ้แก่อีหยุ่นนั้นก็คงจะ

สำเร็จผลแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์