ขณะที่ทุกคนเข้าใจว่าหลินซื่อเฉิงใกล้แพ้
จู่ๆ หลินซื่อเฉิงแผดเสียงออกมา “อ๊าก!”
ประสิทธิภาพของยาวิเศษที่เคยใช้ พวกยาปฐมภูมิและยาสร้างกระดูกยังหลงเหลืออยู่ ภายใต้การกดดันภายนอก ในที่สุดก็ดูดซับเอาไว้ทั้งหมด
พลังเดิมของหลินซื่อเฉิง แบ่งตามเกณฑ์ของนักบู๊ น่าจะอยู่ในแดนระดับปรมาจารย์ใหญ่
ส่วนพละกำลังของเจ้าสำนักหยุน เป็นปรมาจารย์แดนขั้นสูงสุด
แต่วิชาที่หลินซื่อเฉิงฝึกฝน เป็นของผู้บำเพ็ญเซียน พลังทิพย์ในร่างกายแข็งแกร่งกว่าชี่แท้มาก ถึงเจอกับปรมาจารย์แดนขั้นสูงสุดที่เหนือกว่าเขา ก็สามารถต้านทานได้ระยะเวลาหนึ่ง
ตอนนี้ดูดซับประสิทธิภาพของยาที่หลงเหลือในร่างกาย ถึงไม่สามารถช่วยให้หลินซื่อเฉิง ยกระดับแดนได้ แต่กลับทำให้พลังของหลินซื่อเฉิง เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลทันที
พลั่ก!
เสียงอันน่าตกใจ ดังสนั่นขึ้นในห้องโถง
เจ้าสำนักหยุนส่งเสียงออกมา ถูกพลังมหาศาลกระแทกออกมา
หลินซื่อเฉิงก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น เหงื่อไหลเหมือนฝน
“นี่มันอะไรกัน ใครชนะ”
ทุกคนมองภาพตรงหน้า ด้วยสีหน้าสงสัย
“ปู่ไม่เป็นไรใช่ไหม” สีหน้าของหลินโร่สุ่ยกับหลินโล่เฉิน เต็มไปด้วยความกังวล และหันไปหาหลินหยุน ด้วยใบหน้าสงสัย
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบ “วางใจเถอะ การต่อสู้ครั้งนี้ ปู่ไม่เพียงแต่จะไม่บาดเจ็บ อีกทั้งยังได้ประโยชน์มากมายด้วย”
หลินโร่สุ่ยกับหลินโล่เฉิน ไม่รู้ว่าที่หลินหยุนพูดว่าได้ประโยชน์มากมาย นั่นหมายถึงด้านไหน แต่ก็พอเข้าใจเหตุผลภายในนั้น
เจ้าสำนักหยุนลงสู่พื้น มองหลินซื่อเฉิงด้วยแววตาเป็นประกาย
“นายมีฝีมือตามคาด ดูเหมือนว่าเมื่อก่อน นายต้องใช้ยาวิเศษชั้นยอดแน่นอน ประสิทธิภาพของยาพวกนั้น อยู่ในตัวของนาย ตอนนี้ได้รับความกดดัน ประสิทธิภาพของยาพวกนั้น กลับโดนนายดูดซับเอาไว้หมด”
“เมื่อพูดเช่นนี้ เวลาในการฝึกฝนของนาย ไม่ได้นาน ไม่งั้นประสิทธิภาพของยาพวกนั้น คงเปล่าประโยชน์ไปนานแล้ว”
“ตอนนี้ ฉันอยากรู้มากว่าอาจารย์ของนายคือใคร”
“ถึงบ่มเพาะให้คนอายุแบบนาย กลายเป็นปรมาจารย์ได้ อาจารย์ของนายต้องเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สุดยอดแน่นอน!”
หลินซื่อเฉิงไม่ค่อยเข้าใจอาการในร่างกายของตัวเอง แต่เมื่อพูดถึงยาวิเศษ เขานึกถึงโอสถพวกนั้น ที่หลินหยุนให้เขากิน
ดูเหมือนว่าจะเป็นของดี ขนาดเจ้าสำนักหยุนยังอิจฉา
เมื่อได้ยินเจ้าสำนักหยุนพูดถึงอาจารย์ของตัวเอง หลินซื่อเฉิงอดมองหลินหยุนไม่ได้
เมื่อหันกลับมา หลินซื่อเฉิงหัวเราะ แล้วพูดว่า “อยากรู้ว่าอาจารย์ฉันเป็นใคร เอาชนะฉันให้ได้ก่อน แล้วค่อยคุยกัน”
เจ้าสำนักหยุนแสยะยิ้ม “นายคิดว่า ร่างกายดูดซับพลังในยาวิเศษพวกนั้น ก็จะท้าประลองฉันได้เหรอ”
“นายประเมินตัวเองสูงไปแล้ว”
“บางที ให้เวลานายสักไม่กี่ปี นายสามารถยกระดับจนถึงแดนปรมาจารย์สูงสุด อาจสู้กับฉันได้”
“แต่ตอนนี้ ถึงพละกำลังของนายเพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี”
“ตอนนี้ฉันจะทำให้นายรู้ว่า อะไรคือความแตกต่างระหว่างแดน”
เจ้าสำนักหยุนยกมือทั้งสองข้างขึ้นช้าๆ ราวกับเทพลงมายังโลกมนุษย์ แผดเสียงออกมาว่า “ขุมเย็นน้ำแข็ง!”
อากาศอันสุดแสนหนาวเหน็บ ปกคลุมไปทั่วห้องโถงทันที
หลินหยุนขมวดคิ้วเบาๆ “ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด สามารถตระหนักถึงกฎส่วนหนึ่งของโลก ดูเหมือนว่า พละกำลังของเขา เข้าใกล้แดนเทพแล้ว”
“ครั้งนี้ ปู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้”
หลินโร่สุ่ยมองหลินหยุนอย่างหวาดกลัว “งั้นพี่ก็รีบช่วยปู่สิ!”
“วางใจเถอะ ไม่เป็นไร” หลินหยุนพูดปลอบ
สีหน้าของหลินซื่อเฉิงเปลี่ยนไป เขาพบว่าจู่ๆ เหมือนตัวเองมายังอุโมงค์น้ำแข็ง ความหนาวเย็นเข้ากระดูก ทำให้เขาหนาวไปทั้งตัว
อีกทั้งเขาพบว่าตัวเองอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง พลังทิพย์ในตัวโดนจำกัดไว้
ถ้าก่อนหน้านี้หลินซื่อเฉิงสามารถใช้พลังได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้อย่างมากก็ใช้ได้แค่เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เจ้าสำนักหยุนหัวเราะร่า แล้วพูดว่า “อยู่ในขุมเย็นน้ำแข็งของฉัน ฉันคือผู้ครอบงำโลก!”
“ฉันคือเทพ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...