จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 966

สรุปบท บทที่ 966 สิบสองนักรบ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 966 สิบสองนักรบ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 966 สิบสองนักรบ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“รูปปั้นแกะสลักนี้เอาต้นแบบมาจากใครกัน? คนคนนี้จะต้องอัปลักษณ์สิ้นดีเลยทีเดียว” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย

เผ่าโลหิตเป็นชนเผ่าที่แสวงหาแต่สิ่งสวยงามอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาชื่นชอบสิ่งที่สวยงามสดใส รังเกียจสิ่งที่อัปลักษณ์น่าเกลียด

อาจจะพูดได้ว่าพวกเขาเป็นพวกที่คลั่งไคล้ความสวยงามของรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสุดขั้ว

หลินหยุนก็ไม่แน่ใจว่าต้นแบบของรูปปั้นแกะสลักพวกนี้เป็นใครเช่นกัน

แต่ว่าเขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเทพจันทรา

หรือไม่ เธออาจจะเป็นลูกน้องของเทพจันทราก็ได้

“อย่าเพิ่งไปสนใจที่มาของผู้หญิงคนนี้เลย พวกเราเข้าไปดูในพระราชวังนั้นก่อน ฉันรู้สึกว่า ประกาศิตของเทพธิดาแห่งชีวิตที่ทิ้งไว้นั้นจะต้องอยู่ภายในพระราชพระราชวังนี้อย่างแน่นอน”

คาร์นอตวิลเลียมพูดจบก็มุ่งหน้าเดินไปยังพระราชวังหลังนั้น

“ระวังนะ” หลินหยุนก็พูดเตือน

ในขณะที่คาร์นอตวิลเลียมย่างก้าวเข้าไปลานกว้างนั้น รูปน้ำแข็งแกะสลักทั้งสิบสองตัวนั้นถึงกับค่อยๆละลายลง แล้วปรากฏนักรบที่สวมชุดเกราะโบราณพร้อมด้วยกระบี่ด้ามยาวแนบเอวจำนวนสิบสองคน

หลินหยุนพูดอย่างตื่นตกใจว่า “ถึงกับเป็นแค่หุ่นเชิด!”

ที่ทำให้หลินหยุนรู้สึกเซอร์ไพรส์มากก็คือ น้ำแข็งแกะสลักทั้งสิบสองตัวนั้น ล้วนแต่มีพลังฝึกฝนในแดนปรมาจารย์สูงสุดทั้งนั้น

“เทพแห่งสว่างที่สูงควรตาย รูปปั้นแกะสลักพวกนี้ถึงกับฟื้นคืนชีพได้!” คาร์นอตวิลเลียมตกใจ รีบถอยกลับมาอย่างทุลักทุเล

หลังจากที่คาร์นอตวิลเลียมถอยออกจากนอกเขตลานกว้างนั้นไปแล้ว รูปปั้นน้ำแข็งแกะสลักทั้งสิบสองตัวนั้นก็ถอยกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมทันที เพื่อเฝ้าปกป้องบริเวณรอบๆรูปปั้นผู้หญิงอัปลักษณ์ที่อยู่ตรงกลางนั้น

เมื่อหลินหยุนเห็นจุดนี้แล้ว แต่ว่าก็ยังไม่เพียงพอที่จะฟันธงได้

ดังนั้น จึงพูดกับคาร์นอตวิลเลียมว่า “คุณลองเดินเข้าไปในเขตลานกว้างดูหน่อยซิ”

“อ๋อ?” คาร์นอตวิลเลียมมองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าตกตะลึง “ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ?”

ถึงแม้ปากก็ถามว่าทำไม แต่ขาของคาร์นอตวิลเลียมก็ก้าวเข้าไปเหยียบบนแผ่นศิลาสีเขียวบนลานกว้างนั้น

ทันใดนั้น นักรบทั้งสิบสองนั้น ก็ทยอยก้าวเดินเข้ามาหาคานอตวิลเลียมทันที

“ถอยกลับมา” หลินหยุนพูด

คาร์นอตวิลเลียมก็รีบถอยกลับมา

นักรบทั้งสิบสองนั้นก็ทยอยเดินกลับไปยังตำแหน่งเดิมของตัวเอง

หลินหยุนพูดว่า “นักรบพวกนี้จะจู่โจมแต่เฉพาะคนที่ก้าวเท้าเหยียบเข้าไปภายในบริเวณลานกว้างเท่านั้น”

คาร์นอตวิลเลียมคิดอยู่สักครู่แล้วพูดว่า “งั้นขอเพียงแต่พวกเราไม่ต้องเหยียบบนลานกว้างนี้ พวกเขาก็จะไม่โจมตีพวกเราอย่างงั้นเหรอ?”

“นี่ก็ง่ายนิดเดียว เหาะข้ามไปก็ได้แล้ว”

คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างดีอกดีใจ

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเข้มว่า “มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น”

“คุณลองเหาะข้ามไปดูซิ”

คาร์นอตวิลเลียมสีหน้าแสดงความสงสัย กระโดดตัวขึ้นไปยังท้องฟ้า

แต่ว่าร่างกายของเขาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ฉันถึงกับไม่สามารถบินได้แล้ว!”

หลินหยุนมองดูท้องฟ้าที่ขาวโพลน ทุกอย่างบนท้องฟ้าล้วนสีขาวโพลนไปหมด

“ที่นี่มีค่ายกลสกัดการเหาะเหิน”

คาร์นอตวิลเลียมถามด้วยความสงสัยว่า “งั้นสามารถจะทำลายค่ายกลไหม?”

“หลินหยุนพูดว่า “เกรงว่าจะไม่ได้”

ค่ายกลสกัดการเหาะเหิน โดยทั่วไปแล้วมีเพียงแต่ผู้บำเพ็ญเซียนในแดนจิตปฐมขึ้นไปจึงจะสามารถจัดวางได้ ด้วยพลังความสามารถของหลินหยุนตอนนี้แล้ว ยังไม่สามารถทำลาย ค่ายกลสกัดการเหาะเหินที่ผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมวางไว้ได้เลย

อย่างน้อยที่สุดค่ายกลสกัดการเหาะเหินไม่เหมือนกับค่ายกลแบบจู่โจมอย่างอื่น เพียงแค่เป็นชนิดสกัดกั้นอย่างหนึ่งเท่านั้น

ส่วนในโลกบำเพ็ญเซียนนั้น ค่ายกลชนิดที่ทำลายยากที่สุดก็คือชนิดสกัดกั้นพวกนั้น

“แต่ว่าฉันเห็นคุณอยู่ข้างนอก สามารถทำลายแนวป้องกันข้างนอกได้อย่างสบายเลย” คาร์นอตวิลเลียมถามด้วยความสงสัย

หลินหยุนไม่ได้ตอบ ที่เขาสามารถทำลายแนวป้องกันได้อย่างง่ายดายนั้นเป็นเพราะว่า กุญแจที่ไขแนวป้องกันการเข้าออก ก็คือวิทยายุทธ์ในการฝึกฝนวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งนั่นเอง

เขาเพียงแต่ฝึกฝนวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งเท่านั้น ก็สามารถเหนี่ยวนำให้แนวป้องกันเปิดออกได้

เท่ากับว่าหลินหยุนมีกุญแจแล้ว ต่อให้กลอนล็อกที่แข็งแกร่งกว่านี้ ก็ย่อมสามารถเปิดออกได้อย่างแน่นอน

คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างหมดหนทางว่า “งั้นพวกเราก็คงต้องสู้กับสัตว์ประหลาดทั้งสิบสองตัวนี้แล้ว”

“ลุยเลยสิ!”

มีห้องจำนวนมากมายที่เป็นห้องธรรมดาทั่วไป ข้างในมีร่องรอยของคนเคยอาศัยอยู่

อีกอย่าง เมื่อดูจากกระจกทองเหลืองและหวีไม้ที่เหลืออยู่ในห้องนั้น คนที่เคยเป็นเจ้าของพระราชวังแห่งนี้ น่าจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

แต่ว่า ทั้งสองคนก็ไปค้นหาทั่วทุกห้องแล้ว ก็ไม่ได้พบสิ่งของอะไรที่ใช้ประโยชน์เลย

มีแต่ในห้องที่คล้ายห้องหนังสือห้องหนึ่ง ได้พบกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดากล่องหนึ่ง

“แปลกจัง ประกาศิตของเทพธิดาแห่งชีวิตอยู่ที่ไหนกันแน่นะ?” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความสงสัย

“ตามที่บันทึกไว้ ก็น่าจะอยู่ที่ไม่ผิดแน่ แล้วทำไมไม่มีล่ะ?”

หลินหยุนเพียงแต่มองดูกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “คุณไม่รู้สึกเลยเหรอว่า กล่องไม้นี้แลดูแปลกๆ”

คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย ก็แค่กล่องไม้กล่องหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”

“แต่ว่า มันกลับเป็นสิ่งของที่ทำจากไม้เพียงชิ้นเดียวในบรรดาสิ่งของที่พวกเราได้จับต้องทั้งหมดในที่นี่ ที่ไม่แตกละเอียดเป็นเถ้าถ่านเลย” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ

คาร์นอตวิลเลียมสะดุ้งตกใจ จากนั้นก็พูดด้วยความดีใจว่า “หรือว่านี่ก็คือประกาศิตที่เทพธิดาแห่งชีวิตเหลือไว้!”

“รีบเปิดดูเร็ว!”

หลินหยุนก็ลองเปิดดู แต่ว่ากล่องไม้กลับไม่ขยับเขยื้อนเลย

“มีการสกัดกั้น” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ

คาร์นอตวิลเลียมถอนหายใจเฮือกทันที “คนจีนพวกคุณแปลกจริงๆเลยนะ ของอะไรก็ชอบใช้วิธีการสกัดกั้นไว้”

“ในเมื่อเหลือไว้ให้คนอื่นดู งั้นก็ตรงไปตรงมาไม่ได้เหรอไง? ทำไมยังจะต้องมาสกัดกั้นให้คนอื่นเขาลำบากอีกล่ะ” คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างตำหนิ

“นี่เพราะคุณยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมของคนจีนเลย” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ

“ประเทศจีนในสมัยโบราณ มีเทคโนโลยีล้ำลึกที่น่าทึ่งมากมาย แต่ว่า พอมาถึงยุคหลัง ส่วนใหญ่ก็หายสาบสูญไปหมดแล้ว”

“คุณรู้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร?” หลินหยุนถาม

คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “นั่นน่ะสิ ประเทศจีนเป็นชนเผ่าที่มีประวัติศาสตร์อารยธรรมยาวนานมากกว่าห้าพันปีมาแล้ว ประเทศจีนในอดีตเคยยืนตระหง่านอยู่จุดสูงสุดในโลกอย่างน่าภาคภูมิใจ เทคโนโลยีด้านต่างๆล้วนนับว่าสุดยอดทั้งนั้น”

“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันรู้สึกประทับใจมากที่สุด ก็คือในสมัยจ้านกั๋ว ประเทศจีนเคยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกได้ประดิษฐ์นกบินได้ด้วยกลไกแบบหนึ่ง สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าทั้งวันทั้งคืนได้ โดยไม่มีแหล่งกำเนิดพลังงานอะไรคอยสนับสนุนเลย”

“นี่นับได้ว่ายังร้ายกาจกว่าเครื่องบินรุ่นแรกตอนนั้นถึงสิบเท่าเสียอีก!”

“แต่ว่าตอนหลัง ของพวกนี้ก็ได้หายสาบสูญไปหมดแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์