หยุนซวนรีบวิ่งตามก้าวเดินของฟู่ลั่วเฉินอย่างรวดเร็ว คอยเดินถามอยู่ข้าง ๆ ไม่หยุดหย่อน “ท่านชาย ท่านจะบอกกับท่านอ๋องสักคำหรือไม่ จากนั้นค่อยกลับไปหลินผิง?”
“ใช่ จะกลับไปหลินผิง”
“บ่าวก็ว่าแล้ว ในตอนแรกไม่ว่าจะโน้มน้าวท่านอย่างไร ท่านก็ไม่ยอมพาแม่นางเฟิงมาด้วย ที่แท้ท่านก็ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่ที่เมืองหลวงนานนัก จะว่าไปหากแม่นางเฟิงมาที่เมืองหลวง ท่านอ๋องก็ต้องคอยจับตาดูตลอดเวลา ความกดดันในใจแม่นางเฟิงจะมากมายสักเพียงใดกัน? อีกทั้งอากาศที่เมืองหลวงก็ไม่ดีเหมือนเจียงหนาน แม่นางเฟิงเติบโตที่เจียงหนาน หากมาที่นี่ต้องไม่คุยเคยอย่างแน่นอน”
ฟู่ลั่วเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ “หุบปาก!”
“บ่าวมิได้พูดสิ่งใดผิด? ท่านชายกลับหลินผิง หรือว่าไม่ใช่เพื่อไปพบแม่นางเฟิง?” หยุนซวนด้านหนึ่งก็มองรังสีอาฆาตที่แผ่กระจายออกมาจากตัวท่านชายของตน ด้านหนึ่งก็พยายามทำใจให้สงบถึงที่สุด
เขาได้รับปากท่านอ๋องเอาไว้แล้ว ต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสืบหาความในใจที่ท่านชายมีต่อแม่นางเฟิงให้ได้ ดังนั้นในเวลาเช่นนี้จะมาขี้ขลาดไม่ได้
หยุนซวน ฝืนไว้! เอ็งทำได้!
เมื่อเห็นฟู่ลั่วเฉินไม่พูดต่อ หยุนซวนทำได้เพียงลองพูดต่อไปอีกครั้ง “ท่านชาย ท่านจะกลับไปครั้งนี้ ก็ต้องมีของขวัญไปฝากแม่นางเฟิงเสียหน่อยมิใช่? เจียงหนานถึงแม้จะดีเพียงใด แต่ว่าพวกผ้าทอ เครื่องประดับนั้นก็ยังมีส่วนที่แตกต่างอยู่ ช่วงนี้อากาศนับวันยิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เจียงหนานทางนั้นต้องร้อนเร็วยิ่งกว่าที่เมืองหลวงเป็นแน่ ที่ด้านนอกผ้าไหมหิมะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ว่ากันว่าแม่หญิงจะนำมาตัดเป็นชุดกระโปรง เมื่อสวมอยู่บนร่างกายก็จะทำให้รู้สึกเย็น ๆ สบายตัวเป็นที่สุด……”
“ครั้งนี้ เจ้าไม่อยากติดตามข้าไปที่หลินผิงแล้วใช่หรือไม่?” ฟู่ลั่วเฉินกวาดตาเย็นชาหันไปมอง
“ได้อย่างไรกัน? บ่าวต้องติดตามท่านชายอยู่แล้ว”
“เช่นนั้นก็หุบปากไปเสียดี ๆ!”
“เช่นนั้น ท่านชายก็บอกบ่าวสักคำ ท่านกลับไปที่หลินผิงเพื่อสิ่งใดกัน?”
“อานผิงอ๋อง มาเยือนมาเยือนถึงถิ่นราชวงศ์ใหญ่ หรือว่าไม่จำเป็นต้องให้คนที่มีฐานะเหมาะสมไปต้อนรับสักหน่อยหรือ?” ฟู่ลั่วเฉินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าที่งดงามนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมามากนัก เมื่อมองไปราวกับรูปสลักหยกที่เย็นเยียบ
“ก็คือจะไปต้อนรับอานผิงอ๋อง ?” หยุนซวนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย “เช่นนั้นผ้าไหมหิมะจะเอาไปสักสองพับหรือไม่? เมื่อหลายวันก่อนท่านอ๋องได้รับมาจากในวังหลวง ในนั้นมีสองพับที่สีสันสวยสวมโดดเด่นเป็นพิเศษ……”
นั่นเป็นสิ่งที่ท่านอ๋องตั้งใจคัดเลือกมาจากในวังหลวงเชียว หากครั้งนี้ท่านชายไม่เอาติดไปด้วย ท่านอ๋องก็ต้องแอบให้คนส่งไปยังหลินผิงด้วยตนเองแน่นอน
ฟู่ลั่วเฉินหยุดฝีเท้าลง “…… เอาไปด้วย”
หยุนซวนสีหน้าพลันชะงักไปในทันที “ท่านชายเอาไปคือเอาไปทำสิ่งใดหรือ?”
ท่านชายยังไม่ยอมรับ ผ้าไหมหิมะนั้นเหมาะสมกับแม่หญิงเป็นที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่น่าจะเอาของแบบนี้ไปมอบให้อานผิงอ๋อง มิใช่หรือ? แน่นอนว่าต้องเตรียมไว้เพื่อแม่นางเฟิงอยู่แล้ว
ฟู่ลั่วเฉินหันหน้ากลับมา สายตาแหลมคมดุลหงส์คู่นั้นเป็นประกายด้วยความเยือกเย็น “เอาบ่าวที่พูดไม่รู้ฟังไปแขวนคอเสีย”
หยุนซวนรีบหยุดลงกับที่ รีบยกมือขึ้นจับคอของตนเองด้วยตามสัญชาตญาณ “ท่านชาย บ่าวเชื่อฟังท่านที่สุดแล้ว”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
“บ่าวจะรีบไปเตรียมข้าวของเดี๋ยวนี้ นอกจากผ้าไหมหิมะแล้ว ยังจะเอาเครื่องประดับที่เป็นที่นิยมที่สุดในเวลานี้จากเมืองหลวงติดไปด้วย” หยุนซวนพูดจบ ก็รีบวิ่งจากไปด้วยความรวดเร็ว
ฟู่ลั่วเฉินยกมือขึ้นมานวดหัวตาเบา ๆ กลับมาที่จวนอ๋อง มีการสนับสนุนจากท่านพ่อของตน หยุนซวนนับวันยิ่งทำตัวไร้ความเกรงกลัวขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อมาถึงตำหนักหน้า ยู่ชินอ๋องเมื่อเห็นฟู่ลั่วเฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้ารำคาญใจ “เจ้ามาด้วยเหตุใดกัน?”
“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะกลับไปที่หลินผิงอีกครั้ง……”
ยู่ชินอ๋องรีบนั่งหลังตรงขึ้นมาทันที “กลับ! เดินทางวันนี้เลยหรือไม่? ข้าจะได้ให้พ่อบ้านฟู๋ไปเตรียมรถม้าให้เจ้า”
ฟู่ลั่วเฉินในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหมดหนทาง “ท่านพ่อ ครั้งนี้ข้ากลับไปจำเป็นต้องไปอย่างเป็นทางการ ไม่สามารถกลับไปชมนกชมไม้อย่างเมื่อก่อนเมื่อก่อนได้”
“เจ้าพูดมาก็มีเหตุผล ก่อนนี้เจ้าออกไปด้านนอก ก็ไปเพื่อชื่นชมหญิงงามเท่านั้น วันนี้มีแม่นางเฟิงแล้ว เหตุผลเช่นนี้ย่อมไม่สามารถเอามาใช้ได้อีก ไม่เช่นนั้นหากถูกนางเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร? เช่นนั้นเจ้าคิดดีหรือยังว่าจะอ้างเหตุผลเช่นไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ