เมื่อส่งอานผิงอ๋อง ไปแล้ว เฟิงฉิ้นหว่านผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
เสิ่นเยว่นั่งลงที่ข้างกายของนางด้วยความเป็นห่วง: “ฉิ้นหว่าน ที่เจ้าเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่เป็นความจริงหรือไม่?”
เฟิงฉิ้นหว่านพิงไปที่ไหล่ของเสิ่นเยว่ หาวออกมาเบาๆ: “เป็นความจริง”
เสินเยว่ขมวดหว่างคิ้วแน่น: “ฉิ้นหว่าน เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าใหญ่โตเกินไปหรอกหรือ?”
อานผิงอ๋อง มาจากประเทศตงเหว้ย เบื้องหลังตระกูลหยุนพัวพันกับองค์ชาย หากมีความไม่ระมัดระวังแม้แต่นิดเดียว ถ้าเช่นนั้นไม่ใช่ว่าพลาดก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดานเรียบร้อยแล้ว แต่เป็นร่างที่ถูกบดขยี้กระดูกที่แตกสลาย
“ท่านแม่ เหตุใดวันนี้ท่านจึงมาที่ห้องรับแขกในสวนดอกไม้กัน?”
“เรื่องราวที่เจ้ากำลังทำในหมู่นี้ ข้าก็เข้าใจไม่มากก็น้อย อานผิงอ๋อง ท่านนั้นมาเยี่ยมถึงที่บ้านอย่างกะทันหัน ยังคิดว่าเขามาหาเรื่องทำให้เจ้าไม่สบายใจ ฉะนั้นจึงอยากจะมาขวางแทนเจ้าก่อน” เสิ่นเยว่เม้มริมฝีปาก
“ท่านแม่ ถ้าหากว่าข้าเกิดเรื่องละก็ ท่านแม่ยินยอมสู้สุดชีวิตเพื่อข้าหรือไม่?”
“โง่ไปแล้วใช่หรือไม่? ถ้าหากท่านแม่ยังแข็งแรงอยู่ จะมองดูเจ้าเกิดเรื่องได้อย่างไร? ทันทีที่เจ้าเกิดเรื่องขึ้น จะต้องเป็นเพราะท่านแม่ต้านทานเอาไว้ไม่อยู่แล้วเป็นแน่ ถ้าหากว่าข้ายังมีลมหายใจเหลืออยู่อีกเฮือกหนึ่ง จะต้องพยายามปกป้องเจ้าให้ปลอดภัยอย่างสุดความสามารถเป็นแน่ ถึงแม่ว่าข้าไม่ใช่ท่านแม่ผู้ให้กำเนิดเข้า แต่ความรักความผูกพันที่มีต่อเข้าเป็นเรื่องจริง”
“ข้าทราบดี” ชาติที่แล้วท่านแม่ก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน
เฟิงฉิ้นหว่านกอดแขนของเซินเยว่เอาไว้ แล้วถูไปถูมาที่หัวไหล่ของนาง: “จิตใจที่อานผิงอ๋อง ท่านนั้นที่มีต่อบุตรชายของเขาเป็นเช่นเดียวกันกับจิตใจของท่านแม่ที่มีต่อข้า ก่อนหน้านี้เขาไม่รู้ ไม่มีการป้องกันก็เท่านั้น ในตอนนี้ถ้าหากว่าใครคิดจะสอดมือเข้ามา เขาจะต้องกลายร่างเป็นหมาป่าสันโดษเป็นแน่ ถึงแม้จะตายก็จะต้องกัดลำคอของฝ่ายตรงข้ามจนหัก”
“เห็นน้ำเสียงที่พูดไปพูดมาของเขาในวันนี้ ความรักและทะนุถนอมที่เขามีต่อบุตรชายนั้นเป็นที่สุดอย่างแท้จริง”
“ท่านแม่ ข้าไปขอพึ่งพาอาศัยท่านชายฟู่ ก่อนหน้านี้ยังทำลายแผนการขององค์ชายสาม ประกอบกับสาเหตุการตายของท่านพ่อ ด้วยเงื่อนไขต่างๆนาๆล้วนไม่อนุญาตให้ข้าแสวงหาได้อย่างปลอดภัย การช่วยเหลืออานผิงอ๋อง ในครั้งนี้มีอันตรายมากมายจริงๆ แต่ทว่าก็กระโดดเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่เหยียบหลุมพรางนี้เรียบเสมอแล้ว ก็จะออกไปไม่ได้”
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะต้องระมัดระวังให้มากๆ ถ้าหากไม่ไหวจริงๆแล้วละก็ ให้รีบขอความช่วยเหลือจากท่านชายฟู่ท่านนั้นทันที ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็เป็นบุตรเอกชินอ๋อง ความสามารถแข็งแกร่งกว่าเจ้ามากมายนัก”
“ข้าทราบดี ในเมื่อเขากลายเป็นนายท่านของข้าแล้ว ถ้าเช่นนั้นตำแหน่งนายท่านนี้จะให้เสียเปล่าไม่ได้”
สิ่งของจะต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด นายท่านก็เช่นเดียวกัน!
“ใช่แล้ว ท่านแม่ให้เจ้าส่งของขวัญไป เจ้าได้ส่งไปหรือไม่?”
“ให้คนนำโสมคนต้นหนึ่งส่งไปแล้ว โสมคนต้นนั้นมีรูปร่างเป็นคนลางๆแล้ว เวลาที่ร่างกายอ่อนแอสามารถใช้บำรุงรักษาได้ เวลาที่ถึงจุดเป็นจุดตายยังสามารถยื้อชีวิตได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว”
“ยังมีอีกหรือไม่?” เซินเยว่พยักหน้า ของขวัญชิ้นนี้ก็นับว่าเหมาะสม
“ไม่มีแล้ว” เฟิ่งฉิ้นหว่านกะพริบตาปริบๆอย่างใสซื่อ
“นอกจากโสมคนกล่องนั้นแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นแล้วงั้นหรือ?”
“นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วัน ไม่จำเป็นต้องมุมานะบากบั่นเช่นนั้นก็ได้กระมัง?”
“ยังไงเจ้าก็ควรรอบคอบหน่อย ในวันธรรมดาก็ไปมาหาสู่กันให้มาก เมื่อถึงเวลาที่สำคัญจะได้ตามหาคนเพื่อช่วยชีวิตได้ง่ายหน่อย! ถึงอย่างไรทำอะไรก็ต้องเกรงใจ ไว้หน้าเขาบ้าง เมื่อรับของขวัญของเจ้าไปแล้ว จะไม่สนใจไยดีเจ้าก็ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ดี”
เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เข้าใจได้ในทันที: “ถ้าเช่นนั้นข้าเข้าใจแล้ว อีกประเดี๋ยวจัดเตรียมของขวัญเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้เหว้ยหลันมอบหมายคนให้ส่งไป”
“อืม”
เฟิงฉิ้นหว่านกลับไปยังห้องของตนเอง คิดไปคิดมาก็ยังไม่รู้ว่าควรจะต้องจัดเตรียมของขวัญอะไร สุดท้ายก็คิดออกว่าเมื่อตอนที่ฟู่ลั่วเฉินจะจากไปได้ให้นางถักพู่ห้อยพัดอันนั้น มีความคิดใหม่แล้ว
ถึงอย่างไรข่าวลือก็แพร่กระจายออกไปไม่น้อยแล้ว ไม่ส่งของขวัญจากบ้านหญิงสาวออกไปเสียหน่อยดูเหมือนว่าไม่ค่อยยุติธรรม
“เหว้ยหลัน เจ้าไปหาแม่นมโจวขอด้ายไหมมาจำนวนหนึ่ง บอกว่าข้าอยากจะปักถุงหอม”
เหว้ยหลันดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย: “คุณหนูปักถุงหอมเพื่อใช้ห้อยเอง หรือว่ามอบให้ผู้ใดเจ้าคะ? บ่าวจะไปขอด้ายไหมสีที่เหมาะสมกับลวดลายของดอกไม้ตามที่คุณหนูจะปัก จากแม่นมโจว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ