เฟิงฉิ้นหว่านกะพริบตาปริบๆ รอคำสั่งจากฟู่ลั่วเฉินเงียบๆ หลังจากรอครู่หนึ่ง ไม่เห็นเขาพูดอะไร
“ท่านชาย มีเรื่องใดยังคิดไม่ตกหรือเจ้าคะ?”
“ข่าวลือในเมืองหลวงมันเรื่องอะไรกัน?” ฟู่ลั่วเฉินเงยหน้าขึ้น
ไม่อาจตามใจหญิงสาวอยู่ร่ำไป ตอนนี้ไม่กลัวฟ้ากลัวดินแล้ว หากรู้ใจของตน เช่นนั้นก็จะยิ่งเหิมเกริมไม่ใช่หรือ?
รอยยิ้มที่มุมปากของเฟิงฉิ้นหว่านนิ่งค้าง ข้างานยุ่งจนโง่เขลาแล้ว จึงได้ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท นางเองก็ไม่คิดว่าฟู่ลั่วเฉินจะกลับหลินผิงเร็วเช่นนี้ ดูเล่า ยังไม่ทันได้เก็บงานอย่างดี ก็มีผู้ติดตามมากมาย
“ท่านชาย ข้าเพียงใช้บุญคุณที่ช่วยชีวิตที่ท่านบอกเพียงครู่หนึ่ง”
“ใช้เพียงครู่หนึ่ง?” ฟู่ลั่วเฉินเจตนาพูดเน้นคำว่าเพียงครู่หนึ่งสามพยางค์นี้
น้ำเสียงของเฟิงเคล้าไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ: “ตอนที่ข้าแพร่งพรายคำพูดออกไป บอกเพียงว่าข้าช่วยชีวิตท่านชาย แต่หลังจากนั้นข้าไม่ได้พูดอะไรอีก คิดไม่ถึงว่าข่าวลือจะยิ่งอยู่ยิ่งเกินจริง ทั้งยังมีคนส่งข่าวไปถึงเมืองหลวง ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้”
“เช่นนั้นเจ้าตั้งใจจะชดใช้อย่างไร?”
ฟู่ลั่วเฉินมองดวงตาใสซื่อของนางขณะพูดโกหก รู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะหยิกดวงแก้มขาวเนียนนั้น
“ท่านชาย ข้าได้ยินมาว่า สตรีมากมายในเมืองหลวงยินดีที่จะเกิด ยินดีที่จะตาย ยินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน ไม่ปฏิเสธแม้ต้องตายนับหมื่นครั้ง ข้าเพียงแพร่งพรายข่าวลือเล็กน้อย ความเป็นจริงคงไม่รุนแรงกระมังเจ้าคะ?” เฟิงฉิ้นหว่านถามหยั่งเชิง
“เจ้าพูดว่าอะไร?”
“คงไม่รุนแรงกระมังเจ้าคะ......”
“ประโยคก่อนหน้า?”
“ยินดีที่จะเกิด ยินดีที่จะตาย ยินดีที่จะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน ไม่ปฏิเสธแม้ต้องตายนับหมื่นครั้ง?”
ดวงตาคู่สวยของฟู่ลั่วเฉินฉายความจนปัญญา: “ได้ยินเรื่องเหลวไหลเช่นนี้จากที่ใด?”
“แม้จะกล่าวว่าเมืองหลวงอยู่ไกลจากหลินผิง แต่พ่อค้าแม่ค้ามากมายมักจะเดินทางมาที่นี่ ข่าวลือใดบ้างที่จะไม่มาด้วย?”
เฟิงฉิ้นหว่านสังเกตสีหน้าฟู่ลั่วเฉินอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าแววตาของเขาไม่มีความขุ่นเคือง นางจึงลอบพิจารณาในใจ:
ได้ยินตนพูดเช่นนี้ ฟู่ลั่วเฉินก็หายโมโหแล้ว หรือว่าเขาชอบที่สตรีเหล่านั้นบ้าคลั่งเพื่อเขา? ดูเหมือนว่าท่านชายของตนไม่เพียงแต่อารมณ์แปรปรวน ใจแคบ ทั้งยังหลงตัวเอง ชอบให้ผู้อื่นประจบ
“คราวหน้าฟังเรื่องพวกนี้น้อยๆ ลงหน่อย ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน
“จะทำได้อย่างไรเจ้าคะ? แม้ไม่มองที่ฐานันดรศักดิ์สูงส่งของท่านชาย แค่เพียงใบหน้างดงามของท่าน รูปร่างสูงโปร่ง ความสง่าผ่าเผย สตรีในใต้หล้าทุกคนล้วนยอมจำนนให้ท่านชาย”
“สตรีในใต้หล้า?”
เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้าหนักแน่น: “เจ้าค่ะ”
ในเมื่อท่านชายของตนชอบฟังคำสรรเสริญเยินยอ เช่นนั้นครั้งนี้ลองทดสอบระดับความชอบฟังคำเยินยอของเขา หากเขารู้สึกว่าการพูดเช่นนี้เกินจริง คราวหน้ายามตนประจบจะได้เพลาๆ ลงหน่อย จะได้ไม่ถูกเข้าใจว่ากำลังประจบสอพลอ
ฟู่ลั่วเฉินเงยหน้าขึ้น ตอนที่แววตาของเขามองมาทางเฟิงฉิ้นหว่าน ยากจะคาดการณ์ : “เจ้ามั่นใจหรือ?”
“มั่นใจเจ้าค่ะ!” เฟิงฉิ้นหว่านพูดเสียงหนักแน่น
“เข้าใจแล้ว” ฟู่ลั่วเฉินยกมุมปากขึ้น แม้จะยกขึ้นเพียงเล็กน้อย ทว่ารอยยิ้มเปี่ยมล้นในแววตาของเขา
สตรีในใต้หล้ารวมถึงนางด้วยไม่ใช่หรือ?
หัวใจของเฟิงฉิ้นหว่านสั่นเทาเล็กน้อย รู้สึกว่าภาพลักษณ์ยากจะคาดการณ์ของฟู่ลั่วเฉิน พังทลายลงเล็กน้อย:
ท่านชายของตนไม่เพียงชอบฟังผู้อื่นเยินยอ ทั้งยังชอบฟังคำเยินยอที่เกินจริง ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ยามตนพูดต้องพูดเกินจริงเข้าไว้
“ท่านชาย เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านชายไม่คิดบัญชีกับข้าแล้วใช่หรือไม่?”
“จดบันทึกเอาไว้ก่อน”
“ยังต้องจดบันทึกอีกหรือเจ้าคะ ที่จริงนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ท่านชายจดบันทึกเอาไว้ก็เปลืองแรงเปล่า สู้ลืมไปดีกว่าเจ้าคะ?”
จดบันทึกเอาไว้ก็หมายความว่ายังต้องคิดบัญชีไม่ใช่หรือ? ยืมไปเลยยังจะดีเสียกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ