ได้ยินคำที่ฟู่ลั่วเฉินกล่าว เฟิงฉิ้นหว่านก็ได้พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “สิ่งที่ท่านชายคือใช่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านชายเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่ท่านข้าคงจะตายในเพลิงไฟเสียแล้ว”
“แล้วยังไงต่อ” มือของฟู่ลั่วเฉินที่อยู่บริเวณแขนเสื้อนั้นได้ประสานกันเบาๆ ด้วยร่องรอยความตื่นเต้นที่ท่านไม่ได้สังเกต
“ฉะนั้นท่านชายไว้ใจได้ อนาคตข้างหน้าไม่ว่าท่านชายจะมีคำสั่งอย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นที่ที่ทุกข์ยากอันตราย ฉิ้นหว่านก็จะไม่ลังเลที่จะไปทำ”
ฟู่ลั่วเฉินสูบหายใจเข้าออกเบาๆ “เจ้าเป็นข้าน้อยของข้า ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่ควร แต่ข้าไม่ได้ดูแลใส่ใจข้าน้อยทุกคนเหมือนกับที่ข้าดูแลเจ้า”
ในเมื่อตลอดทางตั้งใจแน่วแน่ถึงสิ่งที่ข้าต้องการ ดังนั้นฟู่ลั่วเฉินจึงไม่อยากที่จะรอช้าและฝืนทน เกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดเพิ่มมากขึ้น
เฟิงฉิ้นหว่านเม้มรีมฝีปากเบาๆ มีความรู้สึกประหม่าใจ “ตามความคิดของท่านชายแล้ว อยากให้ข้าตอบแทนอย่างไร?”
“ขึ้นชื่อว่าการตอบแทน ต้องดูที่ใจเจ้าอยากทำสิ่งใด ถ้าหากข้าบอกเจ้าแล้ว จะมีประโยชน์อะไรอีก?”
เฟิงฉิ้นหว่านกัดปลายลิ้นเบาๆ ความรู้สึกเจ็บจี๊ดดันเข้ามาในหัวใจ ทำให้ความคิดของนางมีความชัดเจนยิ่งขึ้น “ท่านชายช่วยชีวิตข้าไว้ พูดได้เลยว่าเป็นผู้มีพระคุณในการสร้างชีวิตใหม่ให้ข้า ข้าก็จะตอบแทนท่านชายด้วยชีวิตของข้าเอง”
“ข้าจะเอาชีวิตเจ้าทำไม?”
ท่านชายจะเอาเฟิงฉิ้นหว่านต่างหากละ!
“ชีวิตยังสามารถตอบแทนให้กับท่านชายได้ จากนี้ไปอะไรที่เป็นของข้า ทั้งหมดถูกได้รับอนุญาตให้แก่ท่านชายได้ใช้”
ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ขยับไปด้านหน้าเพื่อไกล้ชิดเฟิงฉิ้นหว่าน สายตามองตรงไปยังตาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจประโยคที่ข้ากล่าวไปเมื่อสักครู่หรือ?”
เฟิงฉิ้นหว่านใจเต้นแรงขึ้น สีหน้ายังคงเป็นเหมือนเดิม “ฉิ้นหว่านผู้ไม่รู้อะไร ขอท่านชายกล่าวอย่างชัดเจนเถอะ”
“เจ้าต้องการที่จะให้ข้ากล่าวอย่างชัดเจน ถ้าอย่างนั้นข้าก็ถามตรงๆเลย ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ สิ่งที่ควรคิดที่สุดก็คือการมอบตัวเจ้าให้กับข้ามิใช่หรือ?”
รูม่านตาของเฟิงฉิ้นหว่านสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้นได้หัวเราะเยาะ “ท่านชายอย่าเอาฉิ้นหว่านมาล้อเล่นเลย ปัจจุบันทั่วหลินผิง ไม่มีใครไม่ทราบว่าตลอดทั้งวันข้าเข้าออกหอหญิงงามเมือง ถึงแม้จะโดดลงแม่น้ำหลิน ชื่อเสียงอันอัปยศนี้ก็ไม่สามารถล้างออกได้เลย ในฐานะที่มีชื่อเสียงอันย่ำแย่แบบนี้ไม่กล้าที่จะไปทำลายฐานะชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของท่านชาย”
ฟู่ลั่วเฉินขยับเข้าไกล้มากยิ่งขึ้น “เจ้าคิดว่าข้ายังมีชื่อเสียงอันบริสุทธิ์สิ่งนี้เหลืออยู่หรือ?”
ท่านผู้เป็นคนไม่ชอบถูกจำกัดแต่ดื้อรั้น ไร้มารยาทและเที่ยวสาวชื่อเสียงเหล่านี้ยังแพร่กระจายไปทั่วไปพอหรือ? หรือว่าองค์ชายสามไม่ได้พยายามอย่างที่ท่านชายคิด จึงได้ทำให้เฟิงฉิ้นหว่านรับรู้ถึงชื่อเสียงเสียหายอันแพร่กระจายอย่างรุนแรงของท่าน?
“ท่านชายสามารถใช้ชีวิตเหมือนเล่นทั่วโลกมนุษย์ได้ ผ่านทุ่งดอก ก็ไม่มีใบไม้ติดมาด้วย ในสายตาคนนอกนั้นท่านชายถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้มีเกียรติ ได้กระทำแบบนี้ก็สามารถถูกให้อภัยได้ แต่ข้าก็แตกต่างแล้วสิ ตั้งแต่ขณะที่ข้าก้าวเท้าเข้าสู่หอหญิงงามเมือง ถูกกำหนดไว้ให้ใช้ชีวิตด้วยการโดนดูถูกเยอะเย้ยทุกรูปแบบตลอดทั้งชีวิต
“พูดไปเรื่อย!” ฟู่ลั่วเฉินได้มีสายตาอันจะตรวจสอบอย่างละเอียด “เจ้ากล้าที่จะก้าวเข้าสู่หอหญิงงามเมือง แสดงว่าจะไม่ใส่ใจสายตาผู้อื่น เจ้าอย่าเอาเหตุผลเหล่านี้มาอ้าง”
“ท่านชาย ข้าพูดนั้นเป็นความจริงหมด” เฟิงฉิ้นหว่านก้มหน้าลง นำเล็บแทงตรงฝ่ามืออย่างแรง
ฟู่ลั่วเฉินหายไวเข้าลึกๆ คาดไม่ถึงว่าหน้าอกจะเจ็บปวดอย่างแรง ทันใดนั้นไอไม่หยุด
เฟิงฉิ้นหว่านรีบจับแขนของท่าน ช่วยท่านนวดหลังเพื่อให้ระบบไหลเวียนได้ดี
“ท่านชาย……”
ฟู่ลั่วเฉินสักพักถึงจะฟื้นตัวปกติได้ ขณะนี้รู้สึกจริงๆเลยว่าอาการเริ่มแย่ “เจ้า……”
เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆหลบสายตาของฟู่ลั่วเฉิน
“เจ้าไปเถอะ”
เฟิงฉิ้นหว่านตกตะลึงในใจ ทันใดนั้นรู้สึกว่าหนาวไปทั้งตัว เพราะว่าตัวเองได้ปฏิเสธฟู่ลั่วเฉิน ฉะนั้นถึงแม้จะเป็นฐานะข้าน้อยก็ยังไม่มีสิทธิ์เลยหรือ?
“ท่านชาย ดูแลตัวเองดีๆ”
เฟิงฉิ้นหว่านค่อยๆลุกขึ้น ดวงตาที่เปียกชื้นคล้ำลงจางๆ นางโค้งคำนับอย่างเคร่งขรึม จากนั้นหันหลังค่อยๆเดินออกจากไป เมื่อตะกี้ที่ผ่านมาได้เพ้อฝันว่าจะช่วยฟู่ลั่วเฉินเก็บรวบเงินทองทั่วแผ่นดินโลก เพื่อที่ท่านจะได้ควบคุมสำนักวังได้อย่างเชี่ยวชาญ พริบตาเดียว ความหวังได้สลายไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ