เช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงฉิ้นหว่านตื่นแต่เช้าตรู่
ร่างกายของฟู่ลั่วเฉินนับวันก็ยิ่งจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น เฟิงฉิ้นหว่านก็จึงไปพักอยู่ที่ห้องหับข้างๆ
เดิมทีนางตั้งใจจะกลับตระกูลเฟิง แต่ถูกฟู่ลั่วเฉินเอาเรื่องสัญญามาเป็นข้ออ้าง และปฏิเสธไป
เฟิงฉิ้นหว่านเปลี่ยนสวมเสื้อผ้าที่เรียบง่าย และมายังประตูหน้าห้องของฟู่ลั่วเฉิน กำลังจะเคาะประตู ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน
“ท่านชาย นี่ท่าน……”
ฟู่ลั่วเฉินสวมเสื้อคลุมผ้าเรียบๆสีขาวพระจันทร์นวล ที่ปกคอเสื้อ แขนเสื้อ และหัวไหล่ปักลายเมฆาละเอียด ที่เอวมีหินหยกห้อยอยู่ บนศีรษะมีกวานสวมประดับ ในมือถือพัด ที่หางพัดมีด้ายแดงที่ทำเป็นพู่อย่างเรียบง่ายผูกติดอยู่ เป็นฝีมือนางที่ถักขึ้นเมื่อครั้งก่อน
นัยน์ตาเรียวสุกใส เป็นประกายระยิบระยับ
มือที่วางอยู่ข้างลำตัวของฟู่ลั่วเฉินยกขึ้นมา ยื่นพัดหยกใบกลมในมือไปที่มือของเฟิงฉิ้นหว่าน ที่ส่วนหางของพัด มีพู่ที่ถักขึ้นจากด้านแดงผูกติดอยู่
พัดคลี่พับได้กับพัดใบกลม พู่แบบเดียวกัน ดูๆไปแล้วเป็นอะไรที่น่าชวนมองอย่างยิ่ง
“เอาไป ”
เฟิงฉิ้นหว่านรับมันมา มึนงงสับสนไปชั่วขณะ
ฟู่ลั่วเฉินกลับสาวเท้าเดินออกไป“ยังไม่รีบตามมาอีก ? อย่าให้ฮูหยินท่านรอนาน”
เฟิงฉิ้นหว่านได้สติ ตอบกลับอย่างใจลอย“เจ้าค่ะ ท่านชาย”
เท้าของฟู่ลั่วเฉินชะงัก หันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง “น้ำเสียงไม่ถูกต้อง”
ดวงตาเฟิงฉิ้นหว่านกะพริบปริบๆ “ครั้งหน้าข้าจะระวังเจ้าค่ะ ”
“ครั้งนี้จะยกเว้นให้ครั้งหน้าไม่ได้อีกแล้วนะ”
“เจ้าค่ะ”
หยุนซวนที่อยู่ตรงประตูเดินเข้ามาต้อนรับ แอบขยิบตาให้ฟู่ลั่วเฉิน “ท่านชาย รถม้าเตรียมพร้อมไว้แล้วขอรับ ”
เขาทำตามเนื้อความในหนังสือ ภายในรถม้าจัดแต่งอย่างโอ่อ่าตระการตา และยังรมเครื่องหอมอีกด้วย รับประกันได้ว่าท่านชายกับแม่นางเฟิงต้องนั่งกันอย่างสุขสบาย และอบอวลไปด้วยความชื่นมื่นเบิกบานใจแน่
เฟิงฉิ้นหว่านกำลังจะตามฟู่ลั่วเฉินขึ้นไปบนรถม้า แต่ก็เห็นรถม้าของตระกูลเฟิงวิ่งตรงเข้ามา
เสิ่นเยว่เปิดผ้าม่านออก มองมายังเฟิงฉิ้นหว่านแล้วกวักมือเรียก“ฉิ้นหว่าน ท่านแม่มารับเจ้า”
ดวงตาของเฟิงฉิ้นหว่านมีประกายรอยยิ้ม“ท่านชาย ข้าจะไปกับท่านแม่ ท่านตามมาแล้วกัน”
พูดจบ ไม่รอให้ฟู่ลั่วเฉินได้ตอบตกลง ขึ้นรถม้าของเสิ่นเยว่ไปในทันใด
มือที่ถือพัดอยู่ของฟู่ลั่วเฉินกระชับแน่น จากนั้นก็ขึ้นรถม้าไปอย่างเงียบๆ
“ท่านชาย ท่านไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่ ?”
“คิดคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ไปกันเถิด ”ดวงตาที่หลุบลงของฟู่ลั่วเฉินมีความวูบไหวเล็กน้อย
เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าเอาชนะเสิ่นเยว่ไม่ได้ ต่อให้มีสัญญาก็ทำอะไรไม่ได้ แค่รู้สึกผิดหวังเท่านั้น
“หยุนซวน ทางฝั่งวัดอานหลิงจัดการเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ?”
“ตามคำสั่งของท่านชาย ข้าน้อยได้แจ้งไปยังเจ้าอาวาสของทางวัดอานหลิงแล้ว ทางนั้นได้เตรียมการเอาไว้พร้อมแล้วขอรับ”
“อืม”
ตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเทศกาล ภายในวัดอานหลิงก็จึงไม่มีควันธูปเทียนอีกทั้งผู้แสวงบุญมากสักเท่าไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ