ได้ยินเฟิงฉิ้นหว่านพูดว่านางกับฟู่ลั่วเฉินมีความสัมพันธ์ระหว่างหุ้นส่วนกันเท่านั้น เสิ่นเยว่ที่แอบฟังอยู่ข้างนอกก็รู้สึกโล่งอก
นางว่าแล้วเชียว เมื่อก่อนเคยได้ยินฉิ้นหว่านพูดว่าจะไม่รู้สึกอะไรง่ายๆอีก แต่นี่แค่ไปพักที่สวนไม่กี่วันก็ใกล้ชิดกับท่านชายฟู่แล้ว แท้จริงแล้วเป็นแค่การแสดง
แม่นมโจวพยุงเสิ่นเยว่เดินไปข้างๆอย่างเงียบๆยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า:“ฮูหยินปล่อยวางได้แล้วนะเจ้าข้า เมื่อก่อนตอนที่อยู่บนดอยฮูหยินกังวลจนกินข้าวแทบไม่ได้
เสิ่นเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก:“จริงสิ ตอนที่อยู่บนดอยข้าคิดเพียงว่า หากหาสาเหตุไม่ได้ก็จะไปอ่านตำราหมอแดนม้งเหล่านั้น เพื่อหาว่าฟู่ลั่วเฉินทำคุณไสยใส่ฉิ้นหว่านหรือเปล่าถึงทำให้นางผิดไปจากเดิมอย่างนี้
ทั้งสองเพิ่งเดินออกมาได้ไม่ไกล ก็เห็นเหว้ยหลันเดินเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน:“น้อมพบฮูหยิน”
“ทำไมเจ้าลุกลี้ลุกลนแบบนี้หล่ะ?”
“กราบทูลฮูหยินเองครักษ์หยุนซวนมารออยู่หน้าประตูแล้วเจ้าข้า ทูลว่าเรียนเชิญท่านหญิงกลับเข้าไปในสวน เพื่อปรึกษาหารือเรื่องเส้นทางการค้ากับลุงฉีเจ้าข้า”
เสิ่นเยว่ยังไม่ทันได้ยิ้มอย่างเต็มริมฝีปาก ใบหน้าก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที
เฟิงฉิ้นหว่านได้ยินคำกราบทูลของเหว้ยหลันก็เก็บสิ่งของบางอย่างแล้วบอกลาเสิ่นเยว่อย่างรีบร้อน นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังสวนทันที
มองดูเงารถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป ใบหน้าของเสิ่นเยว่ก็เต็มไปด้วยความกังวลที่อธิบายไม่ออก
“แม่นมโจว เจ้าบอกว่าเป็นเพียงการแสดงใช่หรือไม่? ”
“บ่าว...บ่าวคิดว่าน่าจะใช่เจ้าข้า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี!”
“แต่ทุกเรื่องล้วนมีสิ่งที่ไม่คาดคิด...”
เสิ่นเยว่:“……”
ในสวนฟู่ลั่วเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้มองฉียุ่นเซิงที่หัวเราะไม่หยุดอย่างนิ่งสงบ:“ลุงฉีหัวเราะจบแล้วก็แสดงการควงดาบด้วยมือซ้ายให้ข้าชมเถอะ”
ฉียุ่นเซิงยกมือเช็ดน้ำตาจากการหัวเราะ ชักดาบจากเอวของหยุนซวนที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยใช้มือด้านซ้ายชักดาบเปลี่ยนเป็นช่อดอกไม้
“ในเมื่อท่านชายต้องการฝึกฝน จะไม่สามารถล้มเลิกกลางคันได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะไปร้องทุกข์กับแม่นางเฟิง
“ลุงฉีอย่าล้อข้าเล่นเลย” ในใจของฟู่ลั่วเฉินก็รู้สึกเงียบขรึม
เฟิงฉิ้นหว่านสังเกตจากการเดินของฉียุ่นเซิงน้ำหนักเท้าที่กระทบพื้นสามารถรู้ได้ว่าศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นแข็งแกร่งมาก และถ้าหากนางดูกระบี่เข้าใจหละ เรื่องที่เคยพูดล้อเล่นไปก็ไม่สำเร็จแล้วนะสิ
“ท่านชายมีความเชี่ยวชาญวิชากระบี่ เพียงแค่ให้มือซ้ายสื่อสารกับมือขวาได้ การฝึกกระบี่ด้วยมือซ้ายก็ไม่ใช่เรื่องยาก สองสามปีก็สามารถฝึกได้สำเร็จ” ฉียุ่นเซิงทนไม่ได้ที่จะขบขัน
“มีวิธีที่จะสำเร็จเร็วๆกว่านี้ไหม?”
“ท่านชาย การฝึกกระบี่ก็เหมือนกับตามจีบแม่นางที่แสนดี จะรีบร้อนไม่ได้ ต้องใช้เวลาในการทุ่มเท”
หยุนซวนฟังอยู่ข้างๆอย่างเหงื่อตก แล้วความคิดแย่ๆก็พุดขึ้นมา และรีบหาวิธีการแก้ไข
“ลุงฉีจีบแม่นางไม่ยากเช่นนั้น ลุงดูท่านชายในตระกูลเราสิ องค์ชายสามพยายามทำให้เขาเสียชื่อเสียง แต่สาวๆในเมืองหลวงก็ยังโห่ร้องร่ำไห้จะแต่งงานกับเขาไม่ใช่หรือ เพียงแค่ท่ายชายกวักมือเรียกแม่นางก็เดินตามเขามาเป็นแถวแล้ว!”
เพราะฉะนั้นการจีบแม่นางง่ายมากๆ ท่านชายไม่ต้องไปสนใจเขา ฮือฮือ
เฟิงฉิ้นหว่านกำลังจะเดินเข้าห้อง เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็หยุดชะงัก
เมื่อได้ยินฝีเท้านั้น ฟู่ลั่วเฉินก็หันศีรษะไปทันทีและสายตาก็มองไปทางเฟิงฉิ้นหว่านพอดี
เฟิงฉิ้นหว่านนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วตบมือให้กำลังใจ:“ท่านชายเก่งจริง!”
ดวงตาที่มีเสน่ห์ของฟู่ลั่วเฉินเย็นชาลง ความหนาวเย็นท่วมท้นพุ่งเข้าหาหยุนซวน
หยุนซวนที่มีใบหน้าแข็งอยู่แล้วก็ค่อยๆแตกออก:“ลุงฉีปีหน้าของวันนี้ อย่าลืมเผ่ากระดาษเงินกระดาษทองให้หยุนซวนผู้น่าส่งสารคนนี้ด้วยนะ
ฉียุ่นเซิงรีบพูดขึ้นเพื่อคลี่คลายบรรยากาศ:“แม่นางเฟิงมาแล้ว กำลังจะปรึกษาหารือเรื่องเส้นทางการค้าพอดีเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ