สตรีที่อยู่ในหอหญิงงามเมืองต่างพากันชะงัก บางคนที่มนไม่ได้ถึงกับเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง ไม่กล้ารับการทำความเคารพของเฟิงฉิ้นหว่าน
เฟิงฉิ้นหว่านสวมใส่ชุดยาวสีเงินที่มีลายสีเขียวอ่อน บริเวณเอวคาดเข็มขัดสีเดียวกันเอาไว้ ด้านขวาห้อยถุงหอมเอาไว้ ส่วนด้านซ้ายมีป้ายหยก ศีรษะประดับหมวกครอบผม มือกวัดแกว่งพัดเบาๆ ริมฝีปากแดงระเรื่อฟันขาวสะอาด และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกมาจากตัวของเขา
เมื่อเห็นท่าทางของนาง สตรีทุกนางต่างมีความคิดว่าท่านชายคนนี้จะต้องเป็นคนร่ำรวยที่ถูกเลี้ยงอยู่ในกรงทอง และกินนอนบนกองเงินกองทองอย่างแน่นอน และจะต้องไม่ใช่แขกเสเพลที่มาเที่ยวหอหญิงงามเมืองแน่
และดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะใช่ท่านชายทั่วๆ ไปกระมัง
แม่นางในที่นั้นต่างพากันสบตากันด้วยความประหลาดใจ พวกนางเป็นผู้หญิงที่เคยพบเจอบุรุษมามากที่สุด คนตรงหน้าผู้นี้จะต้องไม่ใช่ท่านชายน้อย แต่เป็นสาวน้อยคนหนึ่ง!
“ท่านชายน้อยเกรงใจเกินไปแล้ว......” นางโลมลี่ของหอหญิงงามเมืองก้าวออกมาแล้วส่งสายตาไปยังสตรีทุกคนในที่นั้นเป็นการเตือนว่า อย่าลืมกฎระเบียบ!
ภายในหอนางโลม คนที่มีเงินจ่ายคือนาย ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นท่านชายหรือคุณหนู แต่คนที่ทำให้ท่านฉินต้องวุ่นวายครึ่งคืนเพื่อมารอต้อนรับเช่นนี้ จะต้องเป็นคนร่ำรวยที่พวกนางไม่ควรยุ่งด้วย!
ฉินฮั๋วเหนียนกระแอมเบาๆ “นี่คือ......นี่คือท่านนายน้อย ต่อจากนี้พวกเจ้าก็เรียกท่านชายน้อยก็แล้วกัน คำสั่งทุกคำสั่งของท่านชายพวกเจ้าจะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
“ท่านฉินเจ้าคะ พวกเราเคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่านายท่านเป็นเศรษฐี เดิมทีก็ไม่เชื่อ ทว่าตอนนี้เมื่อได้เห็นหน้าตาท่าทางของท่านชายน้อยแล้วก็เข้าใจทันทีเลยว่าพวกเรานั้นโง่เขลา พวกเรามาทำความเคารพนายท่านน้อยเร็วเข้า!”
ท่านฉินเป็นเถ้าแก่ของหอหญิงงามเมือง แต่เหนือท่านฉินขึ้นไปยังมีเจ้าของตัวจริงอีกคน เพียงแต่พวกนางไม่มีวาสนาได้พบ และได้แต่คิดสงสัยมานานแล้ว วันนี้เมื่อได้เห็นนายท่านน้อย แถมนายท่านน้อยผู้นี้ยังเป็นสตรีอีก แต่กลับเข้าออกหอนางโลมอย่างไม่รู้สึกอะไร เป็นเรื่องที่น่าทอดถอนใจอย่างยิ่ง......
เหล่าสตรีในหอหญิงงามเมืองต่างก้าวขึ้นมาด้านหน้า และกล่าวพร้อมกันด้วยเสียงไพเราะสดใส “คารวะ ท่านนายน้อย”
“เจ้าน้าลี่ และแม่นางคนอื่นๆ ไม่ต้องมากพิธี เคยได้ยินมาหลายครั้งแล้วว่าหอหญิงงามเมืองที่ริมน้ำ มีของสวยงามซ่อนอยู่ วันนี้เมื่อได้มาเห็นพี่สาวทุกท่านด้วยตาของตัวเอง ก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่งว่าดวงตาของข้านั้นมีน้อยเกินไปไม่สามารถชื่นชมความงามของทุกคนได้อย่างเต็มที่”
เฟิงฉิ้นหว่านมีใบหน้างดงามมาแต่กำเนิด เวลายิ้มราวกับดอกไม้แรกแย้มในฤดูร้อน ที่ไม่สามารถบรรยายความงามบริสุทธิ์ออกมาได้
นางพูดออกมาด้วยใบหน้าจริงใจ แต่สตรีที่อยู่ในหอหญิงงามเมืองต่างรู้ดีว่านางกำลังพูดเกินจริง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจ
“หากท่านชายน้อยอยากเห็น ไปที่ห้องของข้าแล้วจุดไฟค่อยๆ ดูกันไปก็ได้นะเจ้าคะ” เห็นชัดๆ ว่านางเป็นสตรี เหตุใดถึงพูดจาได้น่าฟังเพียงนี้
ฉินฮั๋วเหนียนรีบถลึงตาใส่ สีหน้าของเขาเคร่งเครียด ทำอะไรน่ะ ก็บอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าให้แสดงออกต่อหน้าเขาอย่างผู้หญิงเรียบร้อยหน่อยไม่ใช่หรือ
สตรีทุกคนต่างพากันสำรวมสีหน้า ความดุดันของท่านฉินเป็นสิ่งที่พวกนางไม่กล้าท้าทาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ