ได้ยินคำพูดของฟู่ลั่วเฉิน จ้าวยี่รีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าพูดอะไร
“ใต้เท้าจ้าว ท่านเป็นคนที่ข้าไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่ง ดังนั้นคำพูดบาอย่างข้าไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงท่าน หลี่หยวนเป็นผู้ชายที่หยิ่งผยอง ปกติเขาจะแสดงตนว่าเป็นผู้ที่สุจริตสะอาดสะอ้าน แต่จริงๆแล้วเขาเก่งด้านการเลือกพรรค องค์ชายสามพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนให้เขามาเจียงหนาน ไม่ใช่แค่เพื่อตรวจสอบเรื่องหอเซียวเซียงจุ๋นง่ายๆอย่างเดียวแน่”
สีหน้าของจ้าวยี่เคร่งขรึม “ท่านชายกังวลว่าหลี่หยวนจะเป็นอันตรายต่อท่านโดยการใช้ประโยชน์จากความสับสนวุ่นวายในหลินผิงหรือขอรับ?”
“หลังจากที่ฝ่าบาทได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหลินผิงก็โมดหมาก รับสั่งให้สอบสวนผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังหอเซียวเซียงจุ๋น ตระกูลเกาเป็นเพียงหมากในมือขององค์ชายสามเท่านั้น แต่หมากตัวนี้มีแนวโน้มที่จะพูดเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อองค์ชายสามออกมา ดังนั้นองค์ชายสามถึงได้พยายามอย่างมากที่สุดเพื่อสนับสนุนหลี่หยวนให้มาที่นี่ หลี่หยวนเป็นคนสนิทขององค์ชายที่สาม เขาจะจัดการล้างเบาะแสทั้งหมดอย่างแน่นอน และให้คดีนี้วางอยู่บนร่างของตระกูลเกาและสมาคมการค้าหนานเจียง”
“ข้าน้อยจะให้คนใช้ระมัดระวังอย่างแน่นอน ก่อนที่จะแงะปากของพวกเกาหนาน จะไม่ให้พวกเขาเป็นอะไร”
“เหตุผลที่พวกเกาหนานไม่ยอมพูดอะไรก็เพื่อรอให้คนขององค์ชายสามมา คิดว่าจะช่วยพวกเขาออกไป เมื่อถึงเวลาก็ให้พวกเขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลี่หยวนและองค์ชายสาม”
“ขอรับ”
ฟู่ลั่วเฉินยกมือขึ้นและแตะคอเบา ๆ มีความเจ็บมาจากบาดแผลที่พันด้วยผ้าพันแผล
“ท่านชาย ช้าน้อยคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าหลี่หยวนต้องการเวลาในการทำเรื่องเล่านี้อย่างแน่นอน และเขาก็รู้ว่าข้าน้อยจะต้องระวังอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะเอาท่านชายมาสร้างปัญหา เพราะไม่ว่าอย่างไรไม่ใช่วันแรกที่องค์ชายสามเป็นศัตรูกับท่าน ท่านชายต้องระมัดระวังมากกว่านี้”
“ไม่เป็นไร ข้ากำลังรอให้เขาลงมือ” ดวงตาเรียวของฟู่ลั่วเฉินเย็นชาเล็กน้อย
ยื่นมือออกมาแล้วถึงจะมีโอกาสตัดทิ้ง!
จ้าวยี่อยากจะพูดอะไรต่อก็เห็นหยุนซวนวิ่งเข้ามาเหมือนลมกระโชกแรง “ท่านชาย!”
ฟู่ลั่วเฉินเงยหน้าขึ้น “เรื่องอะไรถึงรีบร้อนเช่นนี้?”
“แม่นางเฟิงมาแล้ว!”
ดวงตาของหยุนซวนเป็นประกาย เขาว่าแล้ว แม่นางเฟิงได้เชิญมาสองรอบแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่เชิญท่านชาย เพราะนางต้องการส่งมาด้วยตนเองนี่เอง!
ฟู่ลั่วเฉินขยับปลายนิ้วเล็กน้อย ดวงตาเหมือนมีอารมณ์บางอย่างผุดขึ้นมา “ใต้เท้าจ้าว ท่านกลับไปก่อน ข้าจะพบเฟิงฉิ้นหว่าน”
“ขอรับ”
ทันทีที่จ่าวยี่จากไป หยุนซวนก็หันหลังและวิ่งออกไป “ข้าไปเชิญแม่นางเฟิงเข้ามา”
เฟิงฉิ้นหว่านเดินตามหยุนซวนไปยังสวน สายตามองดูทิวทัศน์งดงามในสวน ชื่นชมด้วยรอยยิ้ม
“ข้าได้ยินมานานแล้วว่ามีหลินผิงมีสวนที่สร้างขึ้นมาอย่างสวยงามมาก หิน ดอกไม้ และต้นไม้ทั้งหมดที่วางไว้ในสวน ถูกส่งมาจากเมืองซูและเมืองหยางทางนั้น ก่อนหน้านี้ข้ายังอยากรู้ ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดที่สามารถอยู่ในสวนที่สวยแบบนี้ได้ แต่คาดไม่ถึงว่าจะชเป็นท่านชาย”
หยุนซวนมองสำรวจเฟิงฉิ้นหว่านอย่างเงียบ ๆ เมื่อคืนที่พบกัน เฟิงฉิ้นหว่านสวมชุดชาย ยกเว้นรูปร่างที่ผอมบางไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย
แต่วันนี้นางสวมชุดกระโปรง ทุกย่างก้าวคือความอ่อนโยนและความงามของหญิงสาว แม้แต่เสียงของนางก็อ่อนโยนจนเขาอดไม่ได้ที่จะหายใจแผ่วเบา
“แม่นางเฟิง ท่านคงไม่มีพี่ชายหรอกนะ?”
เฟิงฉิ้นหว่านอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มพร้อมส่ายหัว “ท่านพ่อของข้ามีเพียงข้าคนเดียว ทำไมผู้องครักษ์หยุนซวนถึงถามเช่นนี้?”
“เปล่า ไม่มีอะไร แค่อยากรู้”
เฟิงฉิ้นหว่านครุ่นคิด ชายที่ช่วยนางแก้น้ำเมากามารมณ์ก็เป็นลูกน้องของฟู่ลั่วเฉินด้วย ดังนั้นเมื่อคืนเขากลับไปแล้วอาจพูดอะไรกับหยุนซวนก็ได้
“แต่ข้ามองดูสีหน้าขององครักษ์หยุนซวน ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นคำถามธรรมดา ความอยากรู้ของท่านเกี่ยวกับอะไร?” เฟิงฉิ้นหว่านพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสดใสราวกับจะสามารถอ่านใจได้
“มันเป็นคำถามธรรมดาจริงๆ” จู่ ๆ หยุนซวนก็นึกถึงคำเตือนก่อนหน้านี้ของฟู่ลั่วเฉิน ฝ่ามือของเขามีเหงื่อออกเล็กน้อย เขาไม่ควรคุยกับเฟิงฉิ้นหว่านตัวต่อตัวจริง ๆ ตอนนี้เลยรู้สึกลำบากใจแบบนี้ไง?
“องครักษ์หยุนซวนไม่ยากพูด ดังนั้นให้ข้าเดาได้หรือไม่? ท่านถามข้าว่าข้ามีพี่ชายหรือน้องชายหรือไม่ หรือว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยเห็นผู้ชายที่หน้าตาคล้ายกับข้ามาก่อนใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่!” หยุนซวนปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ