ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 30

ตอนที่ 30 ไปด้วยกันกลับด้วยกัน

เมื่อเขาลงมาถึง ก็เห็นว่าชูเซี่ยนางกุมต้นหญ้าหลินเฉ่าไว้ในมือ ตะโกนกู่ร้องออกมาอย่างดีใจ สีหน้าปิติยินดีของนาง ทำให้เขาคลายความกังวลก่อนหน้านี้ลง ดวงตาคมมองนางอย่างชื่นชม

แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงขึ้นมาเหนือศีรษะของพวกเขาทั้งสอง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเศษหินร่วงหล่นลงมาทางพวกเขา “หลบเข้าด้านข้างเร็วเข้า!”

เขาใช้วิชาตัวเบาหลบได้อย่างทันท่วงที แต่มองตามก้อนหินที่กำลังกลิ้งหล่นมาทางนางก็ถลาไปช่วย แต่ช้าเพียงก้าวเดียว ก้อนหินกระแทกเข้ากับร่างของนางก่อนจะตกลงไปในสายน้ำไหลเชี่ยวข้างล่าง หายไปอย่างไร้ร่องรอย

หลี่เฉินเย่นทะยานลงจากหน้าผาอย่างรวดเร็ว เขากระโดดหลบหินที่กลิ้งลงมาเป็นระยะ พร้อมสอดส่องสายตามองหาร่างของนางไปด้วย ในที่สุดเขาก็ลงมาถึงพื้นดิน ชายหนุ่มไม่เสียเวลาคิดอันใด กระโจนลงน้ำเพื่อตามหานางทันที

ภายในน้ำเย็นเฉียบถึงกระดูก น้ำลึกมาก เขาว่ายน้ำอย่างคล่องแคล่ว กวาดตามองไปรอบๆเพื่อตามหานาง ความกลัวจู่โจมจิตใจของเขาอย่าบ้าคลั่ง เขารู้ว่านางจะตกจมอยู่ใต้กองก้อนหินที่ตกลงมาจากบนนั้นเป็นแน่ ยิ่งเขาดำลงไปลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งมืดมากขึ้นเท่านั้น จนชายหนุ่มเริ่มมองอะไรมิเห็น เขาพยายามคลำทางไปเรื่อยๆ ในน้ำมีแรงลอยตัวสูง ทำให้เขามิอาจยกก้อนหินขึ้นได้

ภายในใจของหลี่เฉินเย่นร้อนรนจนแทบเสียสติ เขายังคงพยายามกลั้นใจคลำทางหาร่างของนางต่อในสายน้ำที่มืดมิดแห่งนี้ ในใจก็นึกถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเป็นไปได้ ถูกหินร่วงตกลงมาใส่ร่าง ตกลงมาในน้ำที่มีกระแสไหลเชี่ยวเช่นนี้ ต่อให้เป็นตัวเขาเองก็ยังยากที่จะเอาตัวรอด แต่ว่าอยู่ก็ต้องพบคน ตายก็ต้องพบศพ เขาเป็นผู้นางมา ก็ต้องเป็นผู้พานางกลับไป แต่เกรงว่ายามนี้จะเหลือแค่เพียงร่างไร้วิญญาณเท่านั้น

เขาผุดกายขึ้นมาเหนือน้ำ เพื่อกักเก็บลมหายใจก่อนจะดำน้ำลงไปอีกครั้ง แต่หางตาก็เห็นบางสิ่งบางอย่างเข้าเสียก่อน เป็นหัวคนที่ลอยอยู่เหนือน้ำอีกด้าน

เขาดีใจมาก รีบว่ายน้ำเข้าไปหา ก่อนจะรวบร่างบางของนางไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพาขึ้นฝั่ง

ชูเซี่ยแม้จะมิได้สติไปแต่มือน้อยๆของนางยังคงกำหญ้าหลินเฉ่าไว้ในมือแน่นมิยอมปล่อย ใบหน้าและหน้าผากของนางมีรอยแผลถลอกค่อนข้างหนัก เลือกถูกน้ำชำระล้างไปจนหมดแล้ว อีกทั้งน้ำเย็นมากทำให้เลือกบริเวณปากแผลหยุดไหล หน้าท้องของนางโป่งนูนขึ้นมา คงเป็นเพราะมีน้ำเข้าไปในนั้นมาก เขาตรวจไม่พบชีพจรของนาง ไม่มีลมหายใจ หัวใจหยุดเต้นเสียแล้ว

หลี่เฉินเย่นพยุงร่างของนางขึ้น สองขาตั้งท่าขัดสมาธิ ตั้งใจจะถ่ายทอดพลังลมปราณให้แก่นาง

แต่ชูเซี่ยในยามนี้หมดสติไม่สามารถนั่งด้วยตนเองได้จึงได้แต่เอนกลายซบลงแนบกายของหลี่เฉินเย่น เขาจึงได้แต่มือหนึ่งพยุงนางไว้อีกมือหนึ่งคอนถ่ายหลังเข้าสู่ร่างของนาง

เพียงแค่ถ่ายทอดพลังลมปราณชั่วครู่เท่านั้น เสื้อผ้าของชูเซี่ยก็แห้งสนิท เข้าใช้พลังไปแล้วถึงสิบส่วนของพลังทั้งหมด แต่ก็มิได้สนใจ ขอเพียงให้นางสามารถรับพลังลมปราณเหล่านั้นและฟื้นคืนมาได้ จะให้เขาสูญเสียพลังลมปราณไปอีกท่าใดก็ยอม

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ในที่สุดชูเซี่ยก็สำลักน้ำออกมาจนหมด แต่ร่างกายของกลับยังไม่มีสัญญาณชีวิตคืนกลับมาเลยแม้แต่น้อย

หลี่เฉินเย่นใช้พลังของตนมากเกินไป แต่ก็ยังดึงดันจะใช้พลังลมปราณของตนต่อไปอย่างไม่รู้จักห่วงตนเองจนลำคอรู้สึกถึงกลิ่นคาวหวาน ก่อนจะกระอักเลือดออกมาคำโต

หลี่เฉินเย่นล้มลงบนพื้น ดวงตาของเขาพร่าบอด โลกทั้งใบหมุน เขาทราบดีว่ายามนี้ร่างกายของเขาถูกธาตุไฟเข้าแทรก ไม่สามารถถ่ายพลังให้นางได้อีกต่อไป ยามนี้ร่างกายของเขาเองก็ยากจะรักษาชีวิตของตน

ชูเซี่ยยังคงนอนสลบไสลอยู่ข้างกายของเขา เขาจับมือเย็นเยียบของนางไว้ ในหัวนึกถึงภาพยามที่เขาจับจูงสองมือน้อยคู่นี้เข้าวัง มือของนางนวลผ่องราวกับพระจันทร์ แต่ละก้าวที่เดินทางไปยังตำหนักของไทเฮา มือของนางช่างนุ่มลื่นให้ความรู้สึกสบายยิ่ง เขาอยากจะบอกกับนางว่าเขาชอบมือคู่นี้ของนางมากมายเพียงใด ขอเพียงแค่นางฟื้นขึ้นมาเท่านั้น จากนี้ไปเขาจะไม่รังแก นางอีก จะไม่ทำสิ่งใดให้นางต้องขุ่นข้องหมองใจเป็นอันขาด

ชูเซี่ยตกอยู่ในความมืดมิดไม่มีที่สิ้นสุด นางรู้สึกเหนื่อย นางเจ็บมาก ร่างกายของนางปวดไปหมด นางอยากหลับอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หลับอย่างนี้ไปตลอดกาล

จู่ๆก็มีหนึ่งดังก้องขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด เป็นเสียงที่หนักแน่นมั่นคง“ชูเซี่ย ชูเซี่ย เจ้าจงฟังคำของเราไว้ ในชีวิตของเจ้ามีเคราะห์กรรมมากมาย แต่ชีวิตเจ้ายังมิถึงคราวตาย การที่เจ้าได้เกิดใหม่ครั้งแรกและสามารถเกิดใหม่ได้อีกในครั้งที่สอง ล้วนเป็นเพราะบุญวาสนาที่เจ้าได้สั่งสมมาในชาติที่แล้ว ในชีวิตของเจ้าช่วยเหลือมามากมายนับไม่ถ้วน เจ้าจึงได้รับอภิสิทธิ์นี้ แต่จงจำไว้ ย่าได้ละเลยอุดมการณ์ของตนเอง เจ้าเป็นหมอ แม้ว่าจะเป็นในยุคโบราณ เจ้าก็ต้องรู้จักหมั่นศึกษาและเรียนรู้เพื่อรักษาชีวิตของคน เราให้เจ้า...” จู่ๆเสียงก็ค่อยๆขาดหายไป ชูเซี่ยพยายามตั้งใจจะฟัง แต่ก็มิได้ยินอะไรอีกแล้ว แต่ความรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายกลับค่อยๆหายไป พร้อมกับแสงสว่างที่แยงเข้ามาในตาของนาง

นางรู้สึกมวนท้องอย่างหนัก ก่อนจะผุดกายลุกขึ้นแล้วก้มลงอาเจียนออกมา

น้ำที่ยังหลงเหลืออยู่ในท้องถูกอาเจียนออกมาจนหมด นางอาเจียนจนน้ำตาคลดเบ้าและลำคอรู้สึกได้ถึงรสชาติเปรี้ยว

หลังจากอาเจียนจนสบายตัวขึ้นแล้วนางก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นอย่างอ่อนแรง ก่อนจะสะดุ้งหันกายกลับไปมองยังร่างที่คุ้นตาข้างกายนางอีกครั้ง หลี่เฉินเย่นหมดสติอยู่ข้างกายนาง

ชูเซี่ยร้อนใจรีบนำนิ้วอังใต้จมูกของเขาทันที โชคดียิ่ง ยังมีลมหายใจ

จู่ๆก็มีภาพเหตุการณ์บางอย่างไหลทะลักเข้ามาในหัวของนาง ตอนนางตกลงไปในน้ำ เป็นเขาที่ช่วยนางขึ้นมา เขาพยายามถ่ายพลังลมปราณให้นางจนร่างกายของเขาทนมิไหว ภาพเรื่องราวก่อนหน้าฉายชัดอยู่ประทับอยู่ในใจของนาง

นางซาบซึ้งจนรู้สึกแสบร้อนตรงจมูก ก่อนจะเอื้มมือไปเช็ดเศษใบไม้เศษดินที่เปื้อนบนใบหน้าของเขา“ท่านเป็นคนดี แต่เสียดายปากอย่างใจอย่าง!”

นางนั่งอยู่บนพื้น รู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังนั่งทับอะไรอยู่ก็เอื้อมมือไปหยิบของสิ่งนั้นออกมาดู พบว่าเป็นตำราเล่มหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า