ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 173

สรุปบท ตอนที่ 173 ตายใจ: ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนที่ 173 ตายใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนนี้ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 173 ตายใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 173 ตายใจ

ในเช้าวันถัดมาเชียนซานก็กลับมาในวังหลวง เมื่อได้ยินข่าวดีจากหว่านเหนียงนางก็ดีใจเสียจนกระโดดโลดเต้น

หญิงสาววิ่งไปกอดชูเซี่ยไว้แน่น “ดีเหลือเกิน ดีจริงๆ ในที่สุดข้าก็จะได้มีนายน้อยแล้ว”

หว่านเหนียงยิ้มกับภาพตรงหน้า “ดูเจ้าสิ ดีใจอย่างกับเป็นผู้ตั้งครรภ์เสียเอง ถ้าอย่างไรข้าว่านายหญิงก็หาฤกษ์งามยามดีแล้วให้นางออกเรือนเถิดเจ้าค่ะ”

ใบหน้าของเชียนซานขึ้นสีแดงระเรื่อก่อนจะค้อนขวับใส่หว่านหนียง “พูดจาเหลวไหล ใครว่าข้าจะแต่งงานกับตาซื่อบื้อคนนั้นกัน เขายังไม่ผ่านมาตรฐานของข้าเสียหน่อย”

ชิงเอ๋อที่อยู่ข้างๆถึงกับยิ้มออกมา “ใครคือตาซื่อบื้อคนนั้นหรือ เมื่อครู่หว่านเหนียงกูกูไม่ได้กล่าวถึงตาซื่อบื้อนั่นสักคำ ไม่ทราบว่าคนซื่อบื้อของแม่นางเชียนซานคือใครกันเจ้าคะ”

คราวนี้ใบหน้าของเชียนซานกลายเป็นสีแดงเข้มทั้งหน้าก่อนจะเอ่ยโวยวายออกมา “พอแล้วพอแล้ว พวกเจ้าแต่ละคนเอาแต่ล้อข้า ข้าว่าหากจะมีใครสักคนสมควรออกเรือน คนผู้นั้นควรจะเป็นหว่านเหนียงจึงจะถูก นางอายุมากแล้วขืนยังไม่ยอมแต่งอีกเกรงว่าคงเป็นแม่ไข่ที่ไม่สามารถออกไข่ได้อีกแล้วล่ะ”

หว่านเหนียงหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะทุบนาง “นิสัยไม่ดีใหญ่แล้ว เจ้ากล้าว่าข้าหรือ!”

ชูเซี่ยอมยิ้มขณะมองพวกนางทะเลาะกัน ในตำหนักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครื้นเครง มือของนางวางทาบอยู่บนหน้าท้องจากนั้นความกังวลใจก็ถูกแทนที่ด้วยความสุข นางกำลังนึกถึงเด็กที่จะลืมตาดูโลกในภายภาคหน้า ลูกข้างนางกับหลี่เฉินเย่น

จนกระทั่งตกช่วงบ่ายก็มีข่าวจากตำหนักหยงหมิงว่าฝ่าบาททรงมีราชโองการแต่งตั้งฉ่ายเวินเป็นหวงกุ้ยเฟย

ข่าวแพร่กระจายมาจนถึงตำหนักฉ่ายเหว่ย ชูเซี่ยยังไม่ทันจะกล่าวอะไรเชียนซานก็โมโหเดือดดาลไปหมด นางชักดาบออกมาจากฝักก่อนจะเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “หากว่านางไม่ตายข้านี่ล่ะจะเป็นคนลงมือสังหารนางเอง ให้นางไปเสียจะได้ไม่มีโอกาสไปลงมือทำร้ายใครได้อีก!”

หว่านเหนียงถลาเข้าไปปรามนางไว้ “แม่นางที่แสนดีของข้า หากเจ้าบุกไปก่อเรื่องคนที่ลำบากก็ย่อมต้องเป็นนายหญิงของพวกเราไม่ใช่หรือ แล้วพระองค์จะมองนายหญิงเราอย่างไรเล่า อีกอย่าฃ ราชโองการก็ถูกร่างขึ้นแล้วจะให้ฝ่าบาทคืนคำก็คงไม่ได้อีก”

เชียนซานเอ่ยอย่างโมโห “ฝ่าบาททรงมีราชโองการให้นางเป็นองค์หญิง แต่พระองค์ก็เคยทรงตรัสว่าจะแต่งตั้งนายหญิงของเราเป็นฮองเฮาเหมือนกันไม่ใช่หรือ แล้วตอนนี้เล่า องค์หญิงกลายเป็นหวงกุ้ยเฟยเสียแล้ว แล้วตำแหน่งฮองเฮาเล่า?”

ชิงเอ๋อก็เข้ามาห้ามเชียนซานไว้อีกแรง “ฝ่าบาททรงมีรับสั่งเช่นนี้นั่นย่อมเท่ากับว่านางคงไม่มีโอกาสรอดแล้วไม่ใช่หรือ เราเองก็อย่าเพิ่งทำอะไรตอนนี้เลย ไม่เช่นนั้นจะเกิดเรื่องวุ่นวายเสียเปล่าๆ” ชิงเอ๋อกล่าวจบนางก็ส่งสายตาให้เชียนซานหันกลับไปมองชูเซี่ย

เมื่อเชียนซานหันกลับไปมองชูเซี่ยนางก็ใจเย็นลงมาบ้างและเก็บกระบี่คืนฝัก “นายหญิง ท่านอย่าได้เสียใจไปเลยเจ้าค่ะ ฝ่าบาทคงเห็นว่านางใกล้ตายแล้วจึงไดทำเช่นนี้ ตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยนั้นนางย่อมไร้วาสนาแน่นอนอยู่แล้ว!”

ชูเซี่ยส่งเสียงในลำคอ นางเริ่มอับจนคำพูด ผ่านไปสักพักนางจึงค่อยๆลุกขึ้นมาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า “ข้าอยากพักสักหน่อย พวกเจ้าห้ามตามเข้ามานะ!”

เชียนซานวางใจไม่ลง นางอยากตามเข้าไปในห้องด้วยแต่หว่านเหนียงกลับรั้งนางไว้ก่อนเอ่ยกระซิบเสียงแผ่ว “ให้นางพักอยู่คนเดียวเถิด!”

ดวงตาของเชียนซานเป็นประกายเย็นยะเยือกก่อนที่นางจะค่อยๆเอ่ยอย่างแค้นเคือง “หากว่านางไม่ตายข้านี่ล่ะจะเป็นคนจัดการนางเอง!”

ดวงตาของชิงเอ๋อฉายแววเจ็บปวด นางเดินหลบออกไปนั่งอยู่ที่ลานกว้างหน้าตำหนัก ในใจของนางรู้สึกทรมานและอึดอัดไปหมด ฉ่ายเวิน ดูท่าว่าแผนร้ายของหญิงสาวผู้นั้นจะประสบความสำเร็จแล้วสินะ แต่ทว่านางก็อยากไปพบศิษย์พี่แล้วเปิดเผย ความช่วยร้ายของหญิงผู้นั้นเหลือเกิน ศิษย์พี่ใส่ใจนางถึงเพียงนี้หากเขารู้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นสตรีที่เหี้ยมโหดอำมหิตถึงเพียงนี้เข้าจะผิดหวังเพียงใดนะ

ชูเซี่ยเอนกายลงบนเตียง หัวใจของนางเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน นางพยายามกล้ำกลืนน้ำตาที่ไหลเอ่อไม่ยอมให้มันไหลออกมา

ก็เป็นเสียแบบนี้ แม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่ได้รักใคร่ในตัวฉ่ายเวิน แต่ทว่าความรู้สึกที่เขามีต่อฉ่ายเวินก็นับว่าฝังลึกลงไปในจิตใจของเฉินเย่นอย่างยิ่ง มันลึกเสียจนแทบจะเทียบได้กับความรู้สึกที่เขามีต่อนางด้วยซ้ำ แม้ว่าความรู้สึกทั้งสองแบบจะไม่เหมือนกัน นางเองก็ไม่เคยคิดว่าความรู้สึกทั้งสองแบบนี้จะมาขัดแย้งกัน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันก็เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นมาแล้วจริงๆ

เขามีภรรยาใหม่อีกคนแล้ว ไม่ว่าเขาจะมีโหร่วยเฟย เฉินอวี่จู๋ ฉ่ายเวิน นางก็ไม่ยอมไปไหน ยังทนอยู่เคียงข้างเขาทั้งๆที่ไม่มีฐานะใดๆเลยด้วยซ้ำ แล้วท้ายที่สุดนางได้อะไรกลับมาบ้างเล่า ชูเซี่ยนึกถึงสีหน้าท่าทางของเขาในยามที่ชายหนุ่มโอบกอดร่างของฉ่ายเวินไว้ในอ้อมกอด ดวงตาของเขาฉายแววตำหนิและโกรธแค้นนาง เขาไม่เชื่อใจนางแม้แต่น้อย หรือว่าแท้จริงแล้วในใจของเฉินเย่นฉ่ายเวินสำคัญกว่านางมาตั้งแต่ต้นแล้วกันนะ

“ลูกจ๋า เจ้าช่างมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาเอาเสียเลย!” หญิงสาวหลับตาลงก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด นางปล่อยให้น้ำตาที่สะกดกลั้นไหลทะลักออกมาในที่สุด

ร้องไห้อยู่นานจนเหนื่อยนางก็ค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทรา

เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งนางก็พบว่าเวลาล่วงเลยมามากแล้ว

ที่ข้างเตียงมีร่างๆหนึ่งนั่งอยู่ เขามองมาที่นางนิ่งๆจนทำให้กระบอกตาของนางเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง

นางหายง่วงแทบจะเป็นปลิดทิ้ง “ฉ่ายเวินดีขึ้นหรือไม่”

หลี่เฉินเย่นหันกายกลับมามองนางด้วยดวงตาเย็นยะเยือกและแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาจ้องมองมาที่ชูเซี่ยนิ่งๆจากนั้นก็ยิ้มขมขื่น “เจ้าไม่น่าบีบบังคับนางถึงเพียงนี้ เจ้ากำลังทำร้ายนาง!”

หัวใจของชูเซี่ยคล้ายกลับถูกบีบแน่น นางรู้สึกเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก

สักพักนางจึงค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา “ข้าบีบบังคับนาง? ข้าทำร้ายนาง?”

หลี่เฉินเย่นจ้องเขม็งมาที่นาง “หรือเจ้าจะปฎิเสธเล่า หากเจ้าไม่บีบบังคับนางมีหรือว่าตอนนี้นางจะกลายเป็นเช่นนี้ อีกอย่างด้วยฝีมือของเจ้าหากนางจะฆ่าตัวตายเจ้าย่อมห้ามนางได้อยู่แล้ว ชูเซี่ย แท้จริงแล้วในใจลึกๆของเจ้าก็คงอยากให้นางตายอยู่แล้วใช่หรือไม่”

ชายหนุ่มเดินเข้าไปรวบร่างของนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะกระซิบเสียงเหี้ยม “ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยุ่ เจ้าตั้งใจจะไปจากข้าใช่หรือไม่ ข้าขอบอกเจ้าไว้เลยว่าเลิกล้มความคิดนี้เสีย ทั้งชีวิตของเจ้าอย่าได้คิดว่าจะไปจากข้าได้ ต่อให้ข้าเกลียดเจ้าข้าก็จะรั้งเจ้าไว้ข้างกายให้ข้าเกลียดตลอดไป”

ชูเซี่ยกอดชายหนุ่มตอบก่อนจะร้องไห้ออกมา นางเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด “หลี่เฉินเย่น ท่านไปเถิด ไปหาฉ่ายเวินเสีย อย่าได้มาที่นี่อีกเลย ท่านต้องดีกับนางให้มากๆ ไม่ว่านางจะทำอะไรลงไปทั้งหมดก็เพราะว่านางรักท่าน ในเมื่อท่านกล่าวแล้วว่าท่านสามารถให้อภัยนางได้ทั้งหมด เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไปแล้ว”

ชายหนุ่มก้มลงไปกัดบริเวณซอกคอของนางอย่างแรง เจ็บเสียจนชูเซี่ยต้องกัดริมฝีปากของตนไว้แน่น นางปล่อยให้เขาระบายความอัดอั้นออกมาก่อนจะค่อยๆกระซิบข้างๆใบหูของเขา “ท่านไม่เชื่อใจข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ ระหว่างเราพบเจอเรื่องราวด้วยกันมามากมายแต่ท่านกลับให้ไม่ได้แม้แต่ความเชื่อใจกลับข้าเชียวหรือ!”

หลี่เฉินเย่นคลายแรงกัดในที่สุดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนาง “ข้าไม่สนว่าที่ผ่านมาเจ้าจะทำอะไรลงไปบ้าง ต่อให้เจ้าจะทำให้เฉินอวี่จู๋ต้องตายหรือจะบีบบังคับให้ฉ่ายเวินต้องฆ่าตัวตายข้าก็ไม่สน ข้าสามารถให้อภัยฉ่ายเวินที่นางลอบวางยาเจ้าได้ ข้าก็สามารถอภัยความโหดร้ายของเจ้าได้เช่นกัน ชูเซี่ย แต่นี้เป็นต้นไปเจ้าอย่าได้ทำให้ข้าผิดหวังเสียใจอีกได้หรือไม่ พวกเราก้าวผ่านเรื่องนี้กันต่อไปเถิด!”

“พวกเราสามารถทำเช่นนี้ได้จริงๆงั้นหรือ ท่านเพิ่งมีราชโองการแต่งตั้งให้ฉ่ายเวินเป็นหวงกุ้ยเฟยไม่ใช่หรือ ท่านหมายความว่าจะให้ข้ากับนางใช้สามีร่วมกันใช่หรือไม่ ท่านคิดว่าข้าจะยอมได้เช่นนั้นหรือ” ชูเซี่ยมองเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวด ริมฝีปากของนางแย้มยิ้มขมขื่น

“หมอหลวงกล่าวว่านางอาจจะอยู่ไม่พ้นคืนนี้อยู่แล้ว!”

“ข้ามั่นใจอย่างยิ่งว่านางสามารถอยู่พ้นแน่ แผลนั้นไม่สามารถเอาชีวิตนางได้แน่ ข้าขอถามท่านหากว่านางสามารถรอดมาได้จริงๆท่านจะแต่งกับนางจริงๆใช่หรือไม่” ชูเซี่ยถามเขาตรงๆ นางถามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดไม่เปิดโอกาสให้เขาบ่ายเบี่ยงใดๆ

หลี่เฉินเย่นจ้องมาที่นาง “เจ้าก็น่าจะรู้ว่าในหัวใจของข้ามีเพียงเจ้าแค่เพียงผู้เดียว อีกอย่างเจ้าสามารถยอมรับโหร่วยเฟยได้ แต่เหตุใดจึงไม่อาจยอมรับฉ่ายเวินได้เล่า”

ชูเซี่ยตัดใจได้ในที่สุด นางค่อยๆเอื้อนเอ่ยคำพูดออกใส “ใช่แล้ว ในเมื่อข้าสามารถยอมรับโหร่วยเฟยได้แล้วเหตุใดไม่อาจยอมรับหวงกุ้ยเฟยได้อีกสักคนล่ะ แน่นอนว่าอีกหน่อยข้าก็คงต้องยอมรับนางสนมในวังหลังได้อีกมากมายนับไม่ถ้วนสินะ”

“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ดวงตาของหลี่เฉินเย่นเป็นประกายยะเยือก

“ไม่ว่าจะโหร่วยเฟย เฉินอวี่จู๋ ฉ่ายเวินข้าก็ล้วนต้องยอมรับ เช่นนั้นต่อไปข้ายังต้องยอมรับใครอีกบ้างเล่า หลี่เฉินเย่น ข้าจะบอกอะไรท่านไว้อย่างหนึ่ง หากวันใดที่ข้ายอมรับได้จริงๆนั่นก็เท่ากับว่าข้าคงหมดรักในตัวท่านแล้ว ข้าเองหากเลือกได้ก็อยากจะยอมรับได้เช่นกัน ตั้งแต่นี้ต่อไปข้าจะไม่สนใจท่านอีกต่อไปแล้ว ท่านไปเถิด กลับไปดูแลศิษย์น้องของท่านให้ดี ต่อจากนี้ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกแล้ว พวกเราไม่ต้องพบกันอีก!” ใบหน้าของชูเซี่ยเย็นชาจนลามไปถึงน้ำเสียงที่นางพูดออกไป

หลี่เฉินเย่นยืนขึ้น สายตมคมมองมาที่นางเหมือนมองคนแปลกหน้า “ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าแท้จริงแล้วเจ้าจะเป็นคนใจไม้ไส้ระกำถึงเพียงนี้ ฉ่ายเวินเคยวางยาเจ้าก็จริง แต่ทว่านางเองก็ยอมรับผิดแล้ว เจ้าเองก็ไม่ได้รับอันตรายอะไรไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้าจึงไม่ใจกว้างเสียหน่อยเล่า หรือว่าที่ผ่านมาตัวตนของเจ้าเป็นเพียงแค่เสแสร้งแกล้งทำงั้นหรือ”

ชูเซี่ยเอ่ยขึ้นอย่างเฉียบขาด “ท่านกล่าวมาได้ถูกต้อง เป็นข้าที่เสแสร้งออกมาทั้งสิ้น เป็นท่านที่โง่เองแต่ตอนนี้ท่านก็รู้ความจริงแล้วสินะ ข้าจะบอกอะไรให้นะ ยังมีอีกมากที่ท่านไม่รู้ ท่านคิดว่าแท้จริงแล้วข้ารักท่านมากนักหรือ ท่านผิดแล้วล่ะ ตั้งแต่แรกคนที่ข้ารักมีเพียงแค่จูเก๋อหมิงเท่านั้น แต่ก่อนข้าก็เคยชอบท่านแต่ทว่าคนที่ข้าอยากแต่งด้วยแท้จริงมีเพียงจูเก๋อหมิง...”

ชายหนุ่มตบหน้านางอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ออมแรงแม้แต่น้อย ใบหน้าของชูเซี่ยแดงเป็นปื้น นางพยายามกัดฟันข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้และหันไปมองสบสายตาของเขาที่จ้องมาอย่างเย็นชา

“ชูเซี่ย เจ้ามันนางปีศาจ!” หลี่เฉินเย่นกัดฟันพูดด้วยโทสะก่อนจะเดินจากไป!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า