สรุปตอน ตอนที่ 174 ในใจรู้สึกผิด – จากเรื่อง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
ตอน ตอนที่ 174 ในใจรู้สึกผิด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 174 ในใจรู้สึกผิด
หลังจากที่หลี่เฉินเย่นกลับออกไปหว่านเหนียงก็วิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้อง
เชียนซานมองชูเซี่ยด้วยความสงสารเห็นใจ “นายหญิง เหตุใดท่านจึงต้องกล่าวออกไปเช่นนั้น ฝ่าบาทจะต้องคิดว่าท่านเป็นคนทำร้ายเฉินอวี่จู๋จริงๆแน่”
หว่านเหนียงเองก็พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้วเจ้าค่ะ เมื่อครู่ฝ่าบาททรงพิโรธหนักมาเหลือเกิน พวกเราจะทำเช่นไรกันดี”
ชิงเอ๋อที่เยือกเย็นกว่าใครเพื่อนเอ่ยขึ้นมา “ข้ากลับคิดว่าเรื่องที่นายหญิงทำลงไปไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย หากง่าข้าทายไม่ผิดพรุ่งนี้เช้าจะต้องมีข่าวแพร่กระจายออกมาจากตำหนักหยงหมิงว่าฉ่ายเวินพ้นขีดอันตรายแล้วเป็นแน่ ในยามนี้นายหญิงตั้งครรภ์อยู่ การปกปิดเรื่องนี้ไว้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด หากว่าหญิงผู้นั้นทราบเรื่องที่นายหญิงตั้งครรภ์ของฝ่าบาทนางย่อมไม่มีทางปล่อยท่านไปง่ายๆแน่นอนเจ้าค่ะ”
ชูเซี่ยมองไปที่ชิงเอ๋อ ดวงตาของนางยังคงเปียกชื้น “มีเพียงเจ้าที่เข้าใจข้า ใช่ว่าข้าอยากทำเช่นนี้เสียเมื่อไหร่ หากว่าเขามีความไว้เนื้อเชื่อใจให้ข้าสักนิด เขาย่อมไม่มีทางมองว่าข้าเป็นคนผิดโดยเด็ดขาด ในยามนี้เขาเชื่อคำพูดของฉ่ายเวินหมดทั้งใจไม่มีทางที่จะกางแขนปกป้องข้าอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้าคิดก็มีเพียงทำอย่างไรจึงจะป้องป้องลูกในท้องของข้าเอาไว้ให้ได้”
เชียนซานเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ข้าก็บอกแต่แรกแล้วว่าควรสังหารผู้หญิงคนนั้นเสีย ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า นางมีอำนาจอยู่ในมือแล้วกลายเป็นว่าเราต่างก็ต้องหวาดกลัวนาง”
ชูเซี่ยหันมามองเชียนซาน “เจ้าอย่าได้ใจร้อนถึงเพียงนี้เชียว ต่อให้เจ้าไม่คิดแทนข้าเจ้าก็ควรคิดแทนเด็กทารกในครรภ์ของข้าบ้าง จิตใจของฉ่ายเวินล้ำลึกนัก ทั้งยังมีนิสัยใจคออำมหิตผิดมนุษย์มนา ความคิดความอ่านของนางไม่ได้อ่านได้ง่ายๆเหมือนคนทั่วไปอีกทั้งวิชาด้นาพิษของนางก็ร้ายกาจเหลือเกิน พวกเราไม่ควรประมาทแม้แต่น้อยต้องระวังให้มากหน่อยจึงจะดี!”
“ถ้าเช่นนั้นเรายังต้องรออีกจนถึงเมื่อใดกันเจ้าคะ” เชียนซานถามอย่างขัดใจ
ชูเซี่ยปรายตาไปที่ชิงเอ๋อ “อดทนรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม!”
ชิงเอ๋อไม่ได้หลบสายตาของชูเซี่ย ดวงตาของนางฉายแววกระดาก นางรู้ดีอยู่แก่ใจว่าชูเซี่ยอยากให้นางแสดงตัวและแฉเรื่องทั้งหมดของฉ่ายเวิน แต่ว่าต่อให้นางพูดออกไปศิษย์พี่จะเชื่อนางจริงๆหรือ อีกอย่างหากว่าเขารู้ว่าฉ่ายเวินทำร้ายนางถึงเพียงนี้ เขาจะทนรับได้หรือไม่นะ?
เรื่องราวไม่ผิดจากที่ชูเซี่ยคาดไว้แม้แต้น้อย ในเช้าวันถัดมาก็มีข่าวว่าฉ่ายเวินฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ
เชียนซานยิ้มเย็น “สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของนางจริงๆ!”
ชูเซี่ยเองก็ยิ้มอย่างเฉยชา “ใจเย็นหน่อยเถิด นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราจะต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวให้ถึงที่สุด ห้ามไปมีปัญหากับคนในตำหนักหยงหมิงเด็ดขาด!”
“ทำไมพวกเราต้องกลัวคนพวกนั้นด้วยเจ้าคะ พวกเราเป็นคนพรรคมังกรเหินไม่เคยหวาดกลัวต่อผู้ใดอยู่แล้ว” เชียนซานเอ่ยขึ้นอย่างเด็ดขาด
สีหน้าของชูเซี่ยแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นหลายส่วน “พวกเราไม่ได้กลัวเสียหน่อย แต่ทว่าต่อให้อยากยอมรับหรือไม่พวกเราก็ต้องยอมรับอยู่ดีว่าวิชาพิษของฉ่ายเวินล้ำลึกยิ่งนัก หากว่าเป็นไปได้ข้าก็อยากออกไปจากวังหลวงแห่งนี้เหลือเกิน ข้าอยากดูแลเด็กในท้องของข้าอย่างดีมากกว่านี้”
ชิงเอ๋อก็กล่าว “ใช่เจ้าค่ะ ในเมื่อเรื่องราวมันกลับกลายเป็นเช่นนี้เราก็ทำได้เพียงอดทนรอไปก่อนจนกระทั่งเด็กคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย”
เชียนซานถึงกับถลึงตา “จะต้องรอจนถึงเมื่อไหร่กันเจ้าคะ เมื่อไหร่ที่พวกเราจะสามารถเอาชนะนางได้กัน ต่อไปหากว่านายหญิงคลอดนายน้อยออกมาแล้วก็ต้องมานั่งหวาดระแวงว่านางจะมาวางยานายน้อยอีก ข้าว่าพวกเราฆ่านางตั้งแต่เนิ่นๆย่อมดีกว่า”
ชิงเอ๋อฉับพลันก็เงยหน้าขึ้นก่อนจะโพล่งออกมา “ไม่ได้ ฆ่านางไม่ได้นะ!”
เชียนซานมองไปที่ชิงเอ๋อตาเขม็ง “ทำไมจึงไม่ได้ เจ้าไม่คิดว่านางสมควรตายหรือ”
ชิงเอ๋อผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่งก่อนจะหันหน้าหนีและเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ไม่ใช่ ก็แค่สายสัมพันธ์พี่น้องของพวกเขามันล้ำลึกเกินไป หากว่าฆ่านาง ทั้งฝ่าบาทและนายหญิงก็คงไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว”
เชียนซานหันกลับมาหาชูเซี่ย เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายไม่สู้ดีนักก็รู้สึกสงสาร นางคิดไปถึงความสัมพันธ์ระยะนี้ของนายหญิงและหลี่เฉินเย่นช่างระหองระแหงเหลือเกิน ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะผู้หญิงใจโหดนั่นแต่เพียงผู้เดียว ช่างน่าเสียดายแต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงทนต่อไป ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
หญิงสาวถอนหายใจออกมาแผ่วเบา “ตอนนี้ก็คงต้องทำเช่นนี้ จะหนีไปก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อไปก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน ช่างยุ่งยากเสียจริง”
ชูเซี่ยก็เอ่ยให้กำลังใจ “ช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่านี้เราก็เคยผ่านมาได้แล้วนี่นับว่าเป็นอะไรเล่า ถ้าเทียบกับตอนที่อดีตฮ่องเต้ยังมีพระชนมชีพอยู่นี่นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากเลยทีเดียว การที่ฉ่ายเวินถูกแต่งตั้งเป็นพระสนมก็นับว่าดี ระยะนี้นางก็คงไม่ว่างมาหาเรื่องวางยาพิษใครเล่นอีกสักระยะ”
ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าที่ชูเซี่ยกล่าวออกมาเช่นนี้ก็เพื่อไม่ให้พวกนางรู้ว่าแท้จริงแล้วหัวใจนางก็ทุกข์ทรมานไม่แพ้ใคร คนที่ตนเองรักไปแต่งงานกับหญิงอื่น ความเจ็บปวดนี้แม้ว่าจะไม่เคยสัมผัสกับตนเองก็พอที่จะเข้าใจได้ไม่ยาก
แต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมา สถานการณ์เช่นนี้ไม่ว่าพวกนางจะพูดอะไรออกไปก็คงไม่อาจช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจของชูเซี่ยได้อยู่ดี
ยามนี้ทุกคนออกไปจากห้องกันหมดแล้วเหลือไว้เพียงชูเซี่ยอยู่ภายในตำหนักแต่เพียงผู้เดียว ชูเซี่ยรู้สึกขอบคุณพวกนางเหลือเกินที่ยอมเว้นช่องวางให้นาง เว้นช่องวางให้นางได้คิดทบทวนและร้องไห้อยู่คนเดียวบ้าง!
แต่ผ่นไปสักพักเชียนซานก็เข้ามาในห้อง “โหร่วยเฟยมาเจ้าค่ะ!”
เดิมทีชูเซี่ยกำลังนอนเอนกายอยู่บนเตียงบรรทม เมื่อนางได้ยินเช่นนั้นก็ผงกหัวขึ้นมามอง “ให้นางเข้ามา”
เชียนซานชะงักไปครู่หนึ่ง “แต่ว่าเมื่อก่อนนางกับฉ่ายเวินค่อนข้างสนิทกันอยู่มาก เกรงว่า...”
“ไม่ต้องสนใจหรอกว่าข้ารู้ได้อย่างไร เอาเป็นว่าข้าแน่ใจก็แล้วกันว่าหลิวหยิงหลงไม่ได้เป็นคนผลักฉ่ายเวินตกน้ำแน่!” ชูเซี่ยกล่าวอย่างมั่นใจ
ใบหน้าของโหร่วยเฟยเต็มไปด้วยความซับซ้อนมากมาย นานทีเดียวกว่านางจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองชูเซี่ย “ข้าเคยได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าพี่สาวของข้าไม่ได้ตายไปจริงๆแต่นางกลับกลายเป็นชูเซี่ยในวันนี้!”
ชูเซี่ยยิ้มออกมาบางๆ “เรื่องเช่นนี้เจ้าก็เชื่อหรือ ฟังดูแล้วมันค่อนข้าง”
“หลังจากที่พี่สาวของข้าเสีย จิตใจของฝ่าบาทก็คล้ายจะตายไปด้วย องค์ไทเฮาก็ทรงคิดจะแต่งตั้งพระชายาใหม่ให้แก่ฝ่าบาทมาโดยตลอดแต่ก็ถูกพระองค์บอกปัดไม่สนใจ ในใจของเขายังคงคิดถึงพี่สาวไม่เสื่อมคลาย ในเมืองหลวงมีคุณหนูตระกูลใหญ่มากมายที่หวังว่าจะได้ครอบครองหัวใจของเขา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นพวกนางอยู่ในสายตาเลยสักครั้ง จนกระทั่งท่านปรากฎตัว...” โหร่วยเฟยกล่าวถึงตรงนี้ก็เหลือบมองชูเซี่ยคล้ายกับลังเลว่าควรจะกล่าวต่อไปดีหรือไม่ หากว่านางเดาผิดนั่นก็เท่ากับว่านางจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝ่าบาทและชูเซี่ยสั่นคลอน เพราะคงไม่มีหญิงใดอยากรับรู้ว่าคนที่ตนเองรักเคยรักหญิงอื่นมากเพียงใด
ชูเซี่ยทำท่าไม่แยแส นางยิ้มออกมาน้อยๆ “อืม เรื่องของบุพเพวาสนามันเป็นเรื่องที่พูดยาก!”
โหร่วยเฟยทอดมองใบหน้าของชูเซี่ยด้วยประกายล้ำลึก นางอยากรู้เหลือเกินว่าแท้จริงแล้วชูเซี่ยคือหลิวหยิงหลงพี่สาวนางจริงหรือไม่ นางหวังอยากให้เป็นเหลือเกิน หากว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความละอายใจและความผิดบาปที่นางต้องแบกรับจะได้จากหายไปบ้าง นางจะได้กล่าวขอโทษกับพี่สาวของตนเองสักคำ
แต่ทว่าจนแล้วจนรอดสีหน้าของชูเซี่ยก็ยังคงเงียบสงบจนนางดูไม่ออกว่าชูเซี่ยกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ สุดท้ายนางก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา “ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ แต่ว่าขอเพียงแค่เป็นคนที่ฝ่าบาททรงรักข้าก็ย่อมต้องปกป้องนางให้ถึงที่สุดเพราะข้าติดค้างเขามากเหลือเกิน”
ชูเซี่ยน้ำตาคลอ “เจ้าไม่ได้ติดค้างนางเสียหน่อย เป็นเขาต่างหากที่ติดค้างเจ้า เดิมทีเจ้ากับเขาก็...”
โหร่วยเฟยไม่ปล่อยให้นางกล่าวจนจบก็ยิ้มขมขื่นและกล่าวแทรก “ไม่ ข้ากับเขาไม่เคยรักกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ล้วนเป็นแผนารของข้าทั้งนั้น ตอนนั้นที่เขาแต่งข้าเข้าจวนอ๋องก็เป็นเพราะเขาเห็นเพียงแค่เปลือกนอกที่ข้าเสแสร้งแกล้งทำทั้งสิ้น ตลอดเวลาที่ข้าอยู่กับเขาก็เป็นเพียงแค่ตัวตนที่ข้าสร้างขึ้น แม้กรทั่งเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันกับเขาข้าถึงกลับหาเรื่องใส่ร้ายพี่สาวของตนเองมากมายเพื่อให้เขาเกลียดนาง เพราะว่าเมื่อก่อนเขาเริ่มมีความรู้สึกรักในตัวนางขึ้นมา”
ชูเซี่ยไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมด นางรู้เพียงว่าหลี่เฉินเย่นหลังจากแต่งกับนางก็แต่งโหร่วยเฟยเข้ามาเป็นสนมในจวนด้วยเช่นกัน นางจึงเข้าใจว่าพวกเขาทั้งสองคงรักกัน เมื่อก่อนนางยอมรับว่านางรู้สึกไม่ชอบใจในตัวของโหร่วยเฟยอยู่บ้าง แต่พอมาวันนี้นางกลับไม่สามารถบอกได้เลยว่าที่ผ่านมาโหร่วยเฟยผู้นี้ทำอะไรผิดไปบ้าง ผู้หญิงคนหนึ่งต้องการเรียกร้องความสนใจและครอบครองคนที่ตนเองรักจึงเผลอทำเรื่องผิดพลาดไปบ้างก็เป็นเรื่องที่นางสามารถเข้าใจได้ การที่นางใส่ร้ายหลิวหยิงหลงนั่นก็เป็นเพราะลั่วฝานหึงหลิวหยิงหลงนั่นเอง
ความจริงแล้วหลิวหยิงหลงก็เป็นคนที่น่าสงสารเหลือเกิน นางตายอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้แต่น้องสาวแท้ๆของตนเองก็คิดจะแก่งแย่งคนที่นางรัก ที่สำคัญที่สุดก็คือหลี่เฉินเย่นก็ทำตัวห่างเหินกับนางมาโดยตลอด อย่าว่าแต่เคยรักเลยแม้แต่ทำดีด้วยก็ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
ในที่สุดชูเซี่ยก็พูดขึ้น “เรื่องมันผ่านมานานแล้วก็อย่าไปคิดถึงมันอีกเลย!”
โหร่วยเฟยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ความจริงแล้วข้าไม่ได้ตั้งครรภ์หรอกเจ้าค่ะ เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นแผนการของฝ่าบาท พระองค์ขอให้ข้าร่วมมือเพื่อที่จะกระชากหน้ากากของหญิงสาวผู้นั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆพระองค์ก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเชื่อนางอย่างหมดใจเสียนี่ พระองค์ทำแม้กระทั่งแต่งตั้งองค์หญิงให้กลายเป็นหวงกุ้ยเฟย เรื่องเช่นนี้เผยแพร่ออกไปล้วนกลายเป็นเรื่องน่าขบขันของผู้คน”
ชูเซี่ยนิ่งงันไป แม้ว่าหลี่เฉินเย่นจะเคยสงสัยในตัวฉ่ายเวินก็จริงแต่ทว่าเขาก็ไม่มีความใจแข็งพอที่จะจัดการกับฉ่ายเวินขั้นเด็ดขาด เขาเอาแต่ลังเลไม่ยอมตัดสินใจ เรื่องบางเรื่องมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วแต่ทว่าเขากลับแสร้งทำเป็นมองมันไม่เห็นทั้งยังหลอกตัวเองต่อไป นางรู้ว่าเขาพยายามจะหยุดยั้งมัน ความรู้สึกที่เขามีต่อฉ่ายเวินนั้นก็คือความเป็นพี่น้อง แต่มันก็มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าความจริงแล้วในใจลึกๆของเขาก็ชอบฉ่ายเวินมานานแล้วแต่เขาก็ยังเลือกที่จะไม่ยอมรับความรู้สึกนั้นเพราะเสียดายสายสัมพันธ์พี่น้อง เรื่องนี้ใครจะรู้? หากว่าไม่มีความรักผสมอยู่ด้วยมีหรือละครที่ฉ่ายเวินเล่นหลี่เฉินเย่นจะดูมันไม่ออก
หัวใจของชูเซี่ยรู้สึกบีบรัดจนเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา นางเริ่มกลับมาจมอยู่กับความคิดและคำถามมากมายในหัวของตนเองอีกครั้ง เรื่องเมื่อเช้านี้เขาทำให้นางรู้สึกว่าการจากไปของนางจะสร้างความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวดให้กับเขา หากว่าเฉินเย่นหลงรักฉ่ายเวินจริง เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่านางจะไปจากเขาไม่ใช่หรือ หรือบางทีเขาอาจจะแค่รู้สึกผิดเพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นแต่ก็คงไม่ใช่ตลอดไปหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...