อ่านสรุป ตอนที่ 185 พูดถึงเพื่อนเก่า จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
บทที่ ตอนที่ 185 พูดถึงเพื่อนเก่า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 185 พูดถึงเพื่อนเก่า
หญิงที่ยังไม่แต่งงานแต่มีลูก?
อ่า ชูเซี่ยรู้สึกเหมือนหัวจะแตกเป็นสองเสี่ยง การที่จะพูดคุยกับหนอนหนังสือที่ทำอะไรไม่เป็นนั้น ต้องใช้ความอดทนมากจริง ๆ ไม่เช่นนั้นคงโมโหได้ง่าย ๆ
"หลี่ฟูจื่อ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของท่าน แต่ข้าคิดว่าเลี้ยงลูกเพียงคนเดียวก็ดีอยู่แล้ว ไม่คิดที่จะแต่งงานอีก"
หลี่ฟูจื่อจ้องนาง "ท่านไม่ต้องอายไปหรอก ผู้น้อยไม่ได้ตีตัวออกจากท่าน เพียงแต่อยากให้ท่านรักและถนอมชื่อเสียงของตนเองก็เท่านั้น"
"ข้าไม่ได้อับอายหรอก..." ชูเซี่ยสูดหายใจเข้าลึก "ช่างเถอะ ฟูจื่อ ขอบคุณในความหวังดีของท่าน แต่ข้าไม่คิดจะหาใครอื่นอีกจริง ๆ"
หลี่ฟูจื่อมุ่นคิ้ว ท่าทางจริงจังเตรียมพร้อมที่จะสั่งสอนนั่นทำให้ชูเซี่ยปวดหัวมาก นางรีบพูดทันที "ข้าจะไปแล้ว ปีศาจน้อยสองคนนั้นน่าจะหิวแล้วล่ะ"
หลี่ฟูจื่อพลันกล่าวเสียงสูง "ท่านหมอชู ท่านพูดให้ชัดเจนก่อนสิ"
"ข้าพูดไปชัดมากแล้ว ข้าไม่อยากแต่งงาน" ชูเซี่ยเริ่มหงุดหงิด "ที่ฟูจื่อสนใจข้า ข้าดีใจอย่างมาก แต่ข้าไม่คิดจะแต่งงานจริง ๆ ได้ยินชัดหรือยัง"
สีหน้าของหลี่ฟูจื่อพลันอ่อนลง "ข้ารู้ว่าในใจของท่านคิดอย่างไร ท่านคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับข้าใช่หรือไม่ ปัญหานี้น่ะ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป แม้ท่านจะไม่มีความรู้เรื่องพิณกู่ฉิน หมากล้อม พู่กัน ภาพวาด และไม่รู้เรื่องจำพวกหลักการ ไม่ชอบแต่งตัว แต่ว่านับว่าเป็นคนเถรตรงมาก เพียงแค่ท่านลดคำพูดและการกระทำให้น้อยลงและเพิ่มความระมัดระวัง ข้าก็ยังยินดีที่จะแต่งท่านเป็นฮูหยินของข้า"
เสียงของจูฟางหยวนดังขึ้นแบบแปลกหู "หลี่ฟูจื่อ หูเจ้าก็ไม่ได้หนวกนี่ คนเขาไม่ได้พูดว่าไม่คู่ควรกับเจ้า ที่คนเขาตีตัวออกห่างก็เป็นเพราะเจ้าไม่คู่ควรกับนาง เข้าใจหรือยัง"
"จูฟางหยวน!" ชูเซี่ยพลันตีหน้าขรึม หลี่ฟูจื่อคนนี้เป็นคนหัวรั้นยึดหลักเหตุผลของตนเท่านั้น ทั้งยังรักหน้าตาเป็นที่สุด การว่าเขาแบบนี้ ไม่ใช่ว่ากลายเป็นว่าเขาจะยิ่งไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกหรือ
หน้าของหลี่ฟูจื่อพลันขึ้นสีทันที เขาจ้องจูฟางหยวนเขม็ง "ท่านว่าข้าไม่คู่ควรกับนางหรือ ท่านเอาอะไรมาพูดกัน ข้าสงสัยมาตลอดว่าท่านมีแผนการบางอย่างกับท่านหมอชู พูดอะไรจำพวกเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หากเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วทำไมไม่ใช่แซ่เดียวกับนางเล่า อีกอย่าง ทำไมฉองเหลากับจิงโม่ถึงได้เรียกท่านว่าท่านพ่อบุญธรรมหรือ"
จูฟางหยวนก้าวเข้าไปแล้วโอบไหล่ชูเซี่ย ต่อมาก็พูดอย่างวางมาด "ถูกต้อง ชูเซี่ยเป็นผู้หญิงของข้า เจ้าอย่าทางเข้าใกล้นางให้มันมากเลย"
"เอาล่ะ จูฟางหยวน" ชูเซี่ยจับมือเขาออก "เรากลับกันเถอะ"
หลี่ฟูจื่อมองชูเซี่ยอย่างผิดหวังพลางส่ายหน้าแล้วกล่าว "ท่านหมอชู ท่านทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ เดิมทียังคิดว่าท่านมีคุณสมบัติที่จะเป็นฮูหยินของข้า นึกไม่ถึงว่าท่านจะเป็นหญิงมั่วโลกีย์เช่นนี้ ข้ามองท่านผิดไปจริง ๆ"
ชูเซี่ยหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเข้าจริง ๆ แล้ว เอาเถอะ นางเป็นหญิงหน้าไม่อายขนาดนี้แล้ว และคร้านจะพูดอะไรอีก อย่างน้อยต่อไปเขาก็จะได้ไม่มาพัวพันกับนางอีก
จูฟางหยวนลากชูเซี่ยแล้วเดินจากไป พวกเขาเดินทางกลับ พลางพูดคุยกันไปด้วย "ต่อไปเจ้าห้ามไปยั่วผึ้งล่อผีเสื้อข้างนอกอีกนะ โดยเฉพาะพวกบัณฑิตคร่ำครึนั่น ทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหม็นเปรี้ยว พอเห็นไกล ๆ ก็ต้องหลีกเข้าไว้ล่ะ"
ชูเซี่ยกรอกตาไปมา "เอาล่ะ อย่าพูดอีกเลย ท่านมานานแล้วหรือ"
"ก็มาตอนที่ได้ยินพวกเจ้าคุยกันพอดี" จูฟางหยวนแค่นเสียง "ไม่ใช่ข้าค่อนแคะเขา แต่เป็นเขาที่ไม่รู้จักชั่วน้ำหนักตัวเองต่างหาก ยังจะพูดว่าเจ้าเป็นหญิงหม้าย เป็นหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่มีลูกอีก เขาต่างหากที่ดูถูกคนอื่นก่อน แล้วทำไมข้าต้องไว้หน้าเขาด้วย ว่าเขาไปม่กี่คำ ต่อไปเขาก็ไม่กล้ามาพัวพันกับเจ้าแล้ว"
"ทำไมถึงกลับมาเร็วนักล่ะ" ชูเซี่ยเปิดประเด็น ไม่อยากพูดเรื่องน่าอึดอัดใจพวกนั้น
ในช่วงชีวิตที่อยู่ตัวคนเดียวกับลูก ๆ หลายปีนี้ นางคิดว่าจิตใจของตนเองเปลี่ยนเป็นคุณป้าแล้ว คุณป้าคนหนึ่งที่ไม่มีใครชอบ
"จริงสิ" ท่าทางของจูฟางหยวนดูหงอยลงเล็กน้อย "ถ้าไม่กลับมาแล้วจะให้อยู่ในเมืองหลวงทำอะไรเล่า"
"อืม มีข่าวใหม่ ๆ จะเล่าให้ข้าฟังบ้างไหม" ชูเซี่ยก้มหน้าก้มตาเดิน เสียงไม่สูงและไม่ต่ำ นิ่งอย่างยิ่ง
“อื้ม!” ชูเซี่ยไม่พูดอะไร หน้ายังคงสงบนิ่งดังเดิม
จูฟางหยวนถามนาง “เจ้าไม่เสียใจหรือ เขาแต่งผู้หญิงตั้งมากมายก่ายกองไว้ในวังหลัง ใจเจ้าไม่ริษยาหรือ”
ชูเซี่ยเงยหน้ามองจูฟางหยวน “เจ้าคิดว่าข้ามีคุณสมบัติที่จะไปใส่ใจอย่างนั้นหรือ เจ้าอย่าลืมสิ ข้าเลือกจะจากมาเอง หรือว่าเจ้าคิดว่าเขาควรถนอมร่างกายไว้ให้ข้าดั่งหยกอย่างนั้นหรือ”
จูฟางหยวนถอนหายใจเบา ๆ “ความจริงก็โทษเขาไม่ได้ ตอนที่เขาขึ้นครองราชย์ คนที่เลื่อมใสเขาก็ไม่ได้มีมากมาย มีหลายคนเลยทีเดียวรอจ้องจับผิดเขา เขามีแต่ความมานะบากบั่นในการบ้านการเมือง ดึงขุนนางใหญ่ให้มาเป็นพวกด้วยเล่ห์อุบายเท่านั้น ที่จะทำให้ตำแหน่งฮ่องเต้ของเขามั่นคงได้ สำหรับการดึงขุนนางของรัชกาลก่อนให้มาเป็นพวกนั้น ทางที่ดีที่สุดก็คือแต่งกับลูกสาวของพวกเขา แม้แต่ผู้หญิงพวกนั้น ชั่วชีวิตนี้เขาก็ไม่มีทางจำชื่อได้หรอก”
ในใจของจูฟางหยวนก็ค่อนข้างรับไม่ได้เช่นกัน การกลับเมืองหลวงครั้งนี้ เขาก็เข้าวังไปพบหลี่เฉินเย่นด้วย มีครั้งหนึ่งที่หลี่เฉินเย่นกินข้าวกับเขา ระหว่างนั้นก็มีสนมมา หลี่เฉินเย่นเรียกชื่อนางผิดจนทำให้บรรยากาศกระอักกระอ่วนมาก
ข้างกายเขามีผู้หญิงมากมาย ในใจของเขากลับมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่หญิงคนนั้นอาจจะไม่กลับไปอยู่ข้างกายเขาตลอดกาลไม่ใช่หรือ
“เขายังไม่มีลูกหรือ” ชูเซี่ยถามเสียงเบา
“ยัง” จูฟางหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมามาก “ได้ยินว่าเขาวางแผนจะแต่งตั้งอานเหยียนเป็นรัชทายาท”
“หา?” ชูเซี่ยอึ้งไปสักพัก “จากความหมายของเจ้า คือ เขาไม่คิดจะมีลูกเป็นของตัวเองอย่างนั้นหรือ”
“เขาเคยมีลูกแล้ว เขาบอกว่า แต่ไม่อาจรักษาเด็กเอาไว้ได้” จูฟางหยวนส่ายหน้าเบา ๆ “ตอนนั้นอาจารย์ของเจ้าไปพูดกับเขาว่าลูกของเจ้าไม่อยู่แล้ว บอกว่าเจ้าลืมเขาแล้ว รวมถึงให้เขาจดจำไว้ ว่าวาสนาของพวกเจ้าค่อยสานต่อในชาติหน้า พอได้ยินคำพูดพวกนี้แล้ว บางทีใจเขาอาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้”
คลื่นความร้อนพุ่งขึ้นมาที่เบ้าตา มันเลือนลางราวกับไม่สามารถมองเห็นความร่าเริงสดใสในวัยเยาว์ได้ แต่น่าเสียดายที่ทุกสิ่งอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...