ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 186

สรุปบท ​ตอนที่ 186 คำพูดของนักวิ่งเต้น: ชายาเกิดใหม่ของข้า

สรุปเนื้อหา ​ตอนที่ 186 คำพูดของนักวิ่งเต้น – ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บท ​ตอนที่ 186 คำพูดของนักวิ่งเต้น ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 186 คำพูดของนักวิ่งเต้น

หากคนเราเป็นดั่งที่เห็นในคราแรก ก็คงจะดีมากทีเดียว

ชูเซี่ยไม่กล้าคิดอีก เรื่องอนาคตก็เหมือนกับยาพิษที่แตะต้องไม่ได้

จูฟางหยวนมองนาง พลางพูดขึ้นอีกว่า “ชูเซี่ย ขอถามหน่อย ตอนนี้เจ้ารู้สึกมีความสุขใช่หรือไม่”

“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ” ชูเซี่ยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่มองท่าทีทอดถอนใจของเขา

“อาจารย์ของเจ้าบอกว่าเจ้าควรถ่ายทอดทักษะการใช้เข็มทองต่อ อย่าลืมหน้าที่พื้นฐานการเป็นหมอของตนเอง แต่ก่อนอื่นเจ้าคือคนที่มีอารมณ์ความรู้สึกปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป ถึงจะเป็นหมอ หมอก็เป็นเพียงแค่อาชีพ รู้สึกวาภาระนั้นหนักอึ้งได้ แล้วจำเป็นต้องสละความสุขทั้งชีวิตของตนเอง เพื่อความสำเร็จในอาชีพเพียงอาชีพเดียวอย่างนั้นหรือ เราไม่จำเป็นต้องลอยตัวขึ้นไปบนจุดสูงสุดของความฝันในอุดมคติ เพื่อให้เห็นถึงปัญหาเสมอไปหรอกนะ หรือเจ้าจะยอมให้ฉองเหลากับจิงโม่ไม่ได้เจอหน้าพ่อของตนเองไปชั่วชีวิตเลยอย่างนั้นหรือ”

ชูเซี่ยครุ่นคิดสักพัก ต่อมาก็เงยหน้ามองวัชพืชที่อยู่ข้างทาง ในใจหลายสิ่งอย่างปะปนกันและไม่รู้ว่าความจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี

“ช่วงนี้ข้าเองก็มักจะสับสนอยู่บ่อย ๆ อาจารย์ให้ข้าถ่ายทอดทักษะการใช้เข็มทอง ข้ารู้ว่าเป็นสิ่งจำเป็น แต่หลายปีมานี้ข้าไม่เจอลูกศิษย์ที่เหมาะสมเลย แล้วเจ้าจะให้ข้าส่งต่อให้กับใครเล่า หากยังไม่ได้ส่งต่อทักษะการใช้เข็มทอง แล้วข้าจะทำผิดต่อเวินเหลียงซิ่วได้อย่างไร”

“ได้ยินว่าเวินเหลียงซิ่วก็คือเจ้าในชาติก่อน”

“บางทีนะ ทักษะการใช้เข็มทองอาจจะต้องมีสติปัญญาและกำลังของราชันย์โอสถก็เป็นได้ จูฟางหยวน มันยากมากนะ เดิมทีเรื่องราวของโลกนี้ก็ยากอยู่แล้ว เจ้าบอกให้ข้ากลับไปตอนนี้ แล้วข้าจะทำอย่างไรได้เล่า เขาเป็นฮ่องเต้แล้ว ทุกคำพูดทุกการหระทำล้วนแต่ต้องอยู่ในกรอบ หลังจากที่ข้ากลับไปแล้ว จะเป็นก้างขวางคอของเหล่าขุนนางไปเท่าไร ข้าเคยเป็นกุ้ยเฟยของฮ่องเต้พระองค์ก่อน ใคร ๆ ต่างก็รู้ดี”

อีกอย่าง นางไม่ยอมที่จะถูกขังอยู่ในตำหนักไปชั่วชีวิตเช่นกัน เหมือนนกขมิ้นถูกคนเลี้ยงไว้ ไร้อิสระเสรี สำหรับการเป็นคนแล้ว ยังจะมีความหวังอะไรอีกเล่า

สถานะของเขาสูงส่ง ปกครองแว่นแคว้น แท้จริงแล้วเป็นฝ่านที่ถูกกระทำมากที่สุด

หากเขาทำทุกอย่างเพื่อนางได้ เขาก็ต้องทำแบบนั้นแน่ แต่ถ้าเขาทำแบบนั้นก็จะกลายเป็นว่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย แล้วนางจะกลับไปทำลายความสงบในเวลานี้ได้อย่างไร

ต่างคนต่างก็อยู่กันคนละมุมโลก ต่างคนต่างก็อยู่อย่างสบายไม่ดีหรอกหรือ

จูฟางหยวนได้ยินคำพูดของนางแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก แน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนี้แม้จะดีกว่าหลายปีก่อน แต่สุดท้ายฐานะของหลี่เฉินเย่นกับชูเซี่ยก็ไม่อำนวน พวกขุนนางเฒ่าพวกนั้นกุมอำนาจทางการเมืองมาหลายปี บางครั้งฮ่องเต้ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้เหมือนกัน

ทั้งสองเดินไปอีกสักพัก จูฟางหยวนถึงได้พูดขึ้นมา “แต่งตั้งอานเหยียนเป็นรัชทายาทก็ดีแล้ว อย่างน้อยราชบัลลังก์นี้ก็มีคนสืบทอดต่อ แต่เหล่าขุนนางใหญ่ที่โต้แย้งก็มีมาก ได้ข่าวว่าที่ปรึกษาหารือกันมากที่สุดก็คือลูกของฮ่องเต้ แต่ครั้งนี้หลี่เฉินเย่นคิดจะวางอำนาจล้างข้อคิดเห็นทั้งหลาย ถือโอกาสตอนที่พระการของฮองไทเฮายังไม่แย่มากแต่งตั้งรัชทายาท”

ชูเซี่ยตะลึงงัน “ฮองไทเฮาเป็นอะไรไปหรือ”

จูฟางหยวนชำเลืองมองชูเซี่ยด้วยความประหลาดใจ “เจ้าไม่รู้หรอกหรือ”

“รู้อะไร” ชูเซี่ยมองเขาอย่างไม่อาจบรรยายความรู้สึกออกมาได้

“ฮองไทเฮาประชวรเป็นโรคที่รักษาไม่หาย บรรดาหมอหลวงก็วินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร หลี่เฉินเย่นแปะป้ายประกาศหาหมอฝีมือชั้นเลิศเข้าวังไปรักษาอาการประชวรของฮองไทเฮาแล้ว”

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ ข้าไม่รู้เลย ช่วงนี้ข้าไม่ได้เข้าเมือง”

ชูเซี่ยพลันตื่นตระหนกทันที หญิงที่อ่อนโยนมีเมตตาในความทรงจำผู้นั้นป่วยหนักอย่างนั้นหรือ

“อ่า รู้หรือไม่ก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่คิดจะกลับไปอยู่ดี”

ระหว่างพวกเขายังไม่ถึงขั้นตายไปเกิดใหม่ก็ไม่ต้องเห็นหน้ากัน

พวกเขายังเป็นเพื่อนกันได้ เพราะพวกเขามีลูกฝาแฝดด้วยกัน พวกเขาถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่าชาตินี้ไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน

“อีกอย่าง พอกลับถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าอาจจะเจอลูกศิษย์ดี ๆ สักคนก็ได้” จูฟางหยวนชี้แนะต่อ “เจ้าอยู่ที่นี่นานมากแล้วก็ยังไม่เจอลูกศิษย์ดี ๆ สักคน นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าชะลิขิตให้ไม่อยู่ที่นี่ ก็ควรจะจากไปได้แล้ว”

ชูเซี่ยมองเขาอย่างสงสัย “จูฟางหยวนเอ้ย ทำไมข้าถึงได้รู้สึกเหมือนว่าเจ้ากำลังพูดหว่านล้อมอยู่เลย ไม่ใช่ว่าเจ้าได้ผลประโยชน์จากใครแล้วก็มาชี้แนะให้ข้ากลับเมืองหลวงหรอกหรือ”

จูฟางหยวนพลันโมโหทันที “เจ้าคิดว่าหมูตอนอย่างข้าเป็นคนอย่างไรกัน คนเป็นคนแบบนั้นหรือ ข้าจะขายเพื่อนสนิทที่สุดเพื่อผลประโยชน์อย่างนั้นหรือ ชูเซี่ย เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว”

ชูเซี่ยรู้จักเขาดี หากเขาไม่โกรธ ก็อาจจะยังไม่ถูกซื้อตัว แต่เขากลับมาพาลโกรธเอาดื้อ ๆ แบบนี้นี่สิ

“สารภาพตามจริงมาเสียดี ๆ ใครให้เจ้าชี้แนะข้าให้กลับเมืองหลวงกัน ฮองไทเฮาไม่ได้ประชวรหนักไม่ใช่หรือ”

จูฟางหยวนระงับอารมณ์โกรธไว้ แล้วพูดอย่างหงุดหงิด “ในใจเจ้าข้าเป็นคนแบบนั้นหรือ อ่า เอาเถอะ ข้ายอมรับก็ได้ เป็นความจริงเรื่องที่ว่าหว่านล้อมให้เจ้ากลับเมืองหลวง แต่ข้าไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรทั้งนั้น”

“ใครหรือ” ใจของชูเซี่ยสั่นไหว

“อาจารย์ของเจ้าไง!” จูฟางหยวนตอบ

ชูเซี่ยอึ้ง “อาจารย์ข้า?” เป็นไปได้อย่างไรกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า