ตอนที่ 187 นางสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน
จูฟางหยวนอธิบายว่า “อันที่จริงสองปีมานี้อาจารย์เจ้ารู้สึกเสียใจมาก ตอนนั้นเขาพูดแรงเกินไป แล้วก็ปิดกั้นเส้นทางเดินในวันข้างหน้าของพวกเจ้ามากไปด้วย พอเขาเห็นจิงโม่กับฉองเหลาขาดพ่อ เห็นเจ้าใช้ชีวิตอย่างโดเดี่ยว ทั้งยังเห็นหลี่เฉินเย่นไม่ยอมมีลูกแม้แต่คนเดียว ในใจของเขาก็รับไม่ค่อยได้ จำที่เขาเคยหว่านล้อมกับเจ้าได้ใช่ไหม แต่ไม่ได้พูดลงลึก เพราะเขาเองก็ต้องรักษาหน้าตา จะยอมรับว่าตนเองผิดได้อย่างไร เขาพูดกับข้าว่า ชาตินี้พวกเจ้าควรจะอยู่ด้วยกันจริง ๆ แต่พอพวกเจ้าอยู่ด้วยกันแล้วก็จะมีอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีเจ้าอาจจะต้องตายเพราะหลี่เฉินเย่นอีก แต่โชคชะตาเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่คนเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้น เขาจึงเริ่มมีความคิด ให้เจ้าทำตามโชคชะตาดู ลองกลับไปดูสักครั้ง แต่ว่านะ เขาก็กลัวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของตัวเขาจะผิดพลาด เลยไม่กล้าพูดคุยกับเจ้าแล้วให้ข้ามาหว่านล้อมเจ้าแทน”
ชูเซี่ยเลิกคิ้วเบา ๆ “แล้วผลประโยชน์ที่ได้ล่ะ”
“ข้าเป็นคนแบบนั้นหรือ...” เหตุผลที่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำของเขาอยู่ได้แค่สองวินาที จากนั้นก็ก้มหน้าพูด “เอาเถอะ เขาบอกว่าหากข้าหล่าวล้อมให้เจ้ากลับเมืองหลวงได้ก็จะช่วยให้ข้าได้กลับไปยุคปัจจุบันสักครั้ง”
“เจ้ากลับไปยุคปัจจุบันได้หรือ” ชูเซี่ยตะโกนลั่นทันที “เขาบอกว่าส่งเจ้ากลับไปได้หรือ”
“ข้าอยู่ในยุคปัจจุบันไม่ได้แล้ว แต่เขาส่งข้ากลับไปได้หนึ่งครั้ง แต่ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เขาบอกว่าทันทีที่ดาวเจ็ดดวงเรียงตัวกัน ช่องว่างแห่งช่วงเวลาก็จะปรากฏและปริออกอยู่ได้ประมาณสามชั่วยามก็หกชั่วโมงน่ะ อ่า ข้าอยากกลับไปเก็บของใช้ในชีวิตประจำวันเสียหน่อย ข้าอยากดื่มเหล้า อยากดื่มกาแฟ” จูฟางหยวนพูดอย่างน่าสงสาร
“ช่วยข้าเอาผ้าอนามัยมาสักร้อยห่อ ยาสระผมสิบขวด กาแฟสิบถุง แล้วก็บอกกับพ่อแม่ของฉัน...”
“หยุด!” จูฟางหยวนร้องห้าม “นี่หมายความว่าเจ้าตกลงใช่ไหม”
ชูเซี่ยพูดอย่างกระตือรือร้น “ตกลงสิ หากเจ้ากลับไปยุคปัจจุบันได้ครั้งนึง อย่าว่าแต่ให้ข้ากลับเมืองหลวงเลย ต่อให้บอกให้ข้าไปตาย… แน่นอนว่าข้าไม่อาจตกลงได้ แต่ถึงอย่างไร การที่เจ้ากลับไปยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราเลยนะ”
“งั้นก็ตามนี้” จูฟางหยวนพูดอย่างเบิกบานใจ
ชูเซี่ยเองก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน ใจสั่นนิด ๆ จำได้ว่าอาจารย์เคยบอกว่าการที่ดาวเจ็ดดวงเรียงกันเป็นเรื่องที่ยากมาก การที่บังเอิญเกิดขึ้นขนาดนี้นับว่าโชคดีมากจริง ๆ
“ไป รีบไปเก็บของกัน อาการประชวรของฮองไทเฮารอไม่ได้นะ” จูฟางหยวนจูงมือชูเซี่ยพลางพูด
“เอ๊ะ? อาการประชวรของฮองไทเฮาเป็นเรื่องจริงหรือ”
“เรื่องจริงสิ ที่ข้าพูดไปทั้งหมดเป็นความจริง ข้าไม่โกหกหรอก”
“งั้นเจ้าก็บอกความจริงกับข้ามา คนในเมืองหลวงรู้ว่าเราอยู่ที่เมืองหนานซานหรือไม่”
“ไม่รู้หรอก ทุกคนล้วนแต่คิดว่าอาจารย์เจ้าพาเจ้าไปแล้ว ส่วนข้าก็ท่องเที่ยวไปทั่วทุกทิศ”
จูฟางหยวนจ้องนาง “เจ้าคิดว่าถ้าหลี่เฉินเย่นรู้ว่าข้าอยู่กับเจ้าที่เมืองหนานซาน เขาจะไม่แอบมาหาเจ้าเชียวหรือ”
ใจของชูเซี่ยรู้สึกเจ็บ หลายปีมานี้ นางมักจะขัดแย้งในตัวเอง หวังว่าเขาจะปล่อยวางจากนางแล้วไปเริ่มต้นใหม่ หรือไม่ก็รักผู้หญิงคนอื่น แล้วอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุข
เพราะเขาสมควรที่จะมีชีวิตอย่างมีความสุขเบิกบานใจ การได้พบเจอนางอาจจะเป็นโรคทรพิษร้ายจริง ๆ
แต่หากคิดแบบนี้แล้ว ใจก็ยังยากที่จะรับได้ เพราะในใจก็ยังห่วงใยเขาอยู่มาก
มันไม่เหมือนกับที่คุณย่าโฉวงเหยา (นักเขียนเรื่ององค์หญิงกำมะลอ) กล่าวเอาไว้เลย ว่ารักลึกซึ้งจนถึงขึ้นไร้ความชิงชังขุ่นเคืองใจ
ความรักของนาง เป็นรักที่ลึกซึ้งถึงรุนแรงเป็นพิเศษ
พอกลับถึงบ้านจูฟางหยวนก็เรียกฉองเหลากับจิงโม่มาและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เด็ก ๆ พ่อบุญธรรมมีข่าวดีจะบอกพวกเจ้าหนึ่งเรื่อง”
“ข่าวดีอะไรหรือขอรับ” ฉองเหลาที่กำลังกินขนมตังเมเงยหน้าน้อย ๆ พลางถาม
“พวกเราต้องกลับเมืองหลวงแล้ว ต้องไปเจอท่านพ่อกับท่านย่าของพวกเจ้า” จูฟางหยวนมองชูเซี่ย พลางพูดด้วยหน้าที่ยิ้มอิ่มเอม
ฉองเหลากับจิงโม่สบตากัน ยิ้มอย่างเฉยเมย จิงโม่พูดขึ้นว่า “นี่นับว่าเป็นข่าวดีอะไรกัน เจอก็เจอสิ มีอะไรน่าดีใจด้วยหรือเจ้าคะ”
พูดจบ จิงโม่ก็หันไปพูดกับฉองเหลา “น้องชาย เราพานายท่านเหมากับเจ้าถ่านไปเดินเล่นกันเถอะ”
ฉองเหลาวางขนมตังเมลงเงียบ ๆ “ไปเถอะ น้องสาว”
เด็กทั้งสองจูงมือกันเดินออกไป ชูเซี่ยกับจูฟางหยวนสบสายตากันและรู้สึกค่อนข้างงุนงง หรือว่าปีศาจน้อยสองตัวนี้ไม่อยากกลับไปอย่างนั้นหรือ
ฉองเหลากับจิงโม่เดินจูงมือกันมาถึงโรงลา หยุดยืนอยู่ตรงหน้านายท่านเหมา จิงโม่ยื่นมือไปลูบหัวนายท่านเหมา จากนั้นก็พูดอย่างวางมาดจริงจัง “นายท่านเหมา พวกเราต้องหลับเมืองหลวงไปพบท่านพ่อของข้าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...