ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 187

สรุปบท ตอนที่ 187 นางสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน: ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนที่ 187 นางสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาเกิดใหม่ของข้า

ตอนนี้ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 187 นางสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 187 นางสนมของฮ่องเต้องค์ก่อน

จูฟางหยวนอธิบายว่า “อันที่จริงสองปีมานี้อาจารย์เจ้ารู้สึกเสียใจมาก ตอนนั้นเขาพูดแรงเกินไป แล้วก็ปิดกั้นเส้นทางเดินในวันข้างหน้าของพวกเจ้ามากไปด้วย พอเขาเห็นจิงโม่กับฉองเหลาขาดพ่อ เห็นเจ้าใช้ชีวิตอย่างโดเดี่ยว ทั้งยังเห็นหลี่เฉินเย่นไม่ยอมมีลูกแม้แต่คนเดียว ในใจของเขาก็รับไม่ค่อยได้ จำที่เขาเคยหว่านล้อมกับเจ้าได้ใช่ไหม แต่ไม่ได้พูดลงลึก เพราะเขาเองก็ต้องรักษาหน้าตา จะยอมรับว่าตนเองผิดได้อย่างไร เขาพูดกับข้าว่า ชาตินี้พวกเจ้าควรจะอยู่ด้วยกันจริง ๆ แต่พอพวกเจ้าอยู่ด้วยกันแล้วก็จะมีอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า บางทีเจ้าอาจจะต้องตายเพราะหลี่เฉินเย่นอีก แต่โชคชะตาเป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่คนเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้น เขาจึงเริ่มมีความคิด ให้เจ้าทำตามโชคชะตาดู ลองกลับไปดูสักครั้ง แต่ว่านะ เขาก็กลัวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของตัวเขาจะผิดพลาด เลยไม่กล้าพูดคุยกับเจ้าแล้วให้ข้ามาหว่านล้อมเจ้าแทน”

ชูเซี่ยเลิกคิ้วเบา ๆ “แล้วผลประโยชน์ที่ได้ล่ะ”

“ข้าเป็นคนแบบนั้นหรือ...” เหตุผลที่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำของเขาอยู่ได้แค่สองวินาที จากนั้นก็ก้มหน้าพูด “เอาเถอะ เขาบอกว่าหากข้าหล่าวล้อมให้เจ้ากลับเมืองหลวงได้ก็จะช่วยให้ข้าได้กลับไปยุคปัจจุบันสักครั้ง”

“เจ้ากลับไปยุคปัจจุบันได้หรือ” ชูเซี่ยตะโกนลั่นทันที “เขาบอกว่าส่งเจ้ากลับไปได้หรือ”

“ข้าอยู่ในยุคปัจจุบันไม่ได้แล้ว แต่เขาส่งข้ากลับไปได้หนึ่งครั้ง แต่ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เขาบอกว่าทันทีที่ดาวเจ็ดดวงเรียงตัวกัน ช่องว่างแห่งช่วงเวลาก็จะปรากฏและปริออกอยู่ได้ประมาณสามชั่วยามก็หกชั่วโมงน่ะ อ่า ข้าอยากกลับไปเก็บของใช้ในชีวิตประจำวันเสียหน่อย ข้าอยากดื่มเหล้า อยากดื่มกาแฟ” จูฟางหยวนพูดอย่างน่าสงสาร

“ช่วยข้าเอาผ้าอนามัยมาสักร้อยห่อ ยาสระผมสิบขวด กาแฟสิบถุง แล้วก็บอกกับพ่อแม่ของฉัน...”

“หยุด!” จูฟางหยวนร้องห้าม “นี่หมายความว่าเจ้าตกลงใช่ไหม”

ชูเซี่ยพูดอย่างกระตือรือร้น “ตกลงสิ หากเจ้ากลับไปยุคปัจจุบันได้ครั้งนึง อย่าว่าแต่ให้ข้ากลับเมืองหลวงเลย ต่อให้บอกให้ข้าไปตาย… แน่นอนว่าข้าไม่อาจตกลงได้ แต่ถึงอย่างไร การที่เจ้ากลับไปยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นความหมายอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราเลยนะ”

“งั้นก็ตามนี้” จูฟางหยวนพูดอย่างเบิกบานใจ

ชูเซี่ยเองก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน ใจสั่นนิด ๆ จำได้ว่าอาจารย์เคยบอกว่าการที่ดาวเจ็ดดวงเรียงกันเป็นเรื่องที่ยากมาก การที่บังเอิญเกิดขึ้นขนาดนี้นับว่าโชคดีมากจริง ๆ

“ไป รีบไปเก็บของกัน อาการประชวรของฮองไทเฮารอไม่ได้นะ” จูฟางหยวนจูงมือชูเซี่ยพลางพูด

“เอ๊ะ? อาการประชวรของฮองไทเฮาเป็นเรื่องจริงหรือ”

“เรื่องจริงสิ ที่ข้าพูดไปทั้งหมดเป็นความจริง ข้าไม่โกหกหรอก”

“งั้นเจ้าก็บอกความจริงกับข้ามา คนในเมืองหลวงรู้ว่าเราอยู่ที่เมืองหนานซานหรือไม่”

“ไม่รู้หรอก ทุกคนล้วนแต่คิดว่าอาจารย์เจ้าพาเจ้าไปแล้ว ส่วนข้าก็ท่องเที่ยวไปทั่วทุกทิศ”

จูฟางหยวนจ้องนาง “เจ้าคิดว่าถ้าหลี่เฉินเย่นรู้ว่าข้าอยู่กับเจ้าที่เมืองหนานซาน เขาจะไม่แอบมาหาเจ้าเชียวหรือ”

ใจของชูเซี่ยรู้สึกเจ็บ หลายปีมานี้ นางมักจะขัดแย้งในตัวเอง หวังว่าเขาจะปล่อยวางจากนางแล้วไปเริ่มต้นใหม่ หรือไม่ก็รักผู้หญิงคนอื่น แล้วอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุข

เพราะเขาสมควรที่จะมีชีวิตอย่างมีความสุขเบิกบานใจ การได้พบเจอนางอาจจะเป็นโรคทรพิษร้ายจริง ๆ

แต่หากคิดแบบนี้แล้ว ใจก็ยังยากที่จะรับได้ เพราะในใจก็ยังห่วงใยเขาอยู่มาก

มันไม่เหมือนกับที่คุณย่าโฉวงเหยา (นักเขียนเรื่ององค์หญิงกำมะลอ) กล่าวเอาไว้เลย ว่ารักลึกซึ้งจนถึงขึ้นไร้ความชิงชังขุ่นเคืองใจ

ความรักของนาง เป็นรักที่ลึกซึ้งถึงรุนแรงเป็นพิเศษ

พอกลับถึงบ้านจูฟางหยวนก็เรียกฉองเหลากับจิงโม่มาและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เด็ก ๆ พ่อบุญธรรมมีข่าวดีจะบอกพวกเจ้าหนึ่งเรื่อง”

“ข่าวดีอะไรหรือขอรับ” ฉองเหลาที่กำลังกินขนมตังเมเงยหน้าน้อย ๆ พลางถาม

“พวกเราต้องกลับเมืองหลวงแล้ว ต้องไปเจอท่านพ่อกับท่านย่าของพวกเจ้า” จูฟางหยวนมองชูเซี่ย พลางพูดด้วยหน้าที่ยิ้มอิ่มเอม

ฉองเหลากับจิงโม่สบตากัน ยิ้มอย่างเฉยเมย จิงโม่พูดขึ้นว่า “นี่นับว่าเป็นข่าวดีอะไรกัน เจอก็เจอสิ มีอะไรน่าดีใจด้วยหรือเจ้าคะ”

พูดจบ จิงโม่ก็หันไปพูดกับฉองเหลา “น้องชาย เราพานายท่านเหมากับเจ้าถ่านไปเดินเล่นกันเถอะ”

ฉองเหลาวางขนมตังเมลงเงียบ ๆ “ไปเถอะ น้องสาว”

เด็กทั้งสองจูงมือกันเดินออกไป ชูเซี่ยกับจูฟางหยวนสบสายตากันและรู้สึกค่อนข้างงุนงง หรือว่าปีศาจน้อยสองตัวนี้ไม่อยากกลับไปอย่างนั้นหรือ

ฉองเหลากับจิงโม่เดินจูงมือกันมาถึงโรงลา หยุดยืนอยู่ตรงหน้านายท่านเหมา จิงโม่ยื่นมือไปลูบหัวนายท่านเหมา จากนั้นก็พูดอย่างวางมาดจริงจัง “นายท่านเหมา พวกเราต้องหลับเมืองหลวงไปพบท่านพ่อของข้าแล้ว”

หลี่ฟูจื่อ!

เขายืนอยู่ในลานสวนด้วยใบหน้าหมองหม่น

ชูเซี่ยจำใจต้องเดินออกไป “ฟูจื่อ มีธุระอะไรหรือ”

หลี่ฟูจื่อมองนาง ถามด้วยความโกรธ “เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าชอบข้า ทำไมถึงต้องหลีกเลี่ยงข้าด้วย”

จูฟางหยวนยืนพิงอยู่ตรงประตู พลางพูดอย่างเย็นชา “คนเขาไม่ชอบเจ้า อยากหลีกเลี่ยงเจ้าก็เลยไปน่ะสิ เจ้ารู้ตัวสักนิดบ้างหรือไม่”

“ข้าไม่เชื่อ!”หลี่ฟูจื่อกำหมัดทั้งสองข้างแน่นราวกับแม่นางน้อยที่ถูกทอดทิ้ง “เจ้าชอบข้า แต่เจ้ากลัวว่าจะไม่คู่ควรกับค่าใช่หรือไม่”

ชูเซี่ยได้แต่ตอบเขาว่า “หากข้าบอกว่าใช่ เจ้าจะไม่ดีใจสักนิดหรือ”

“นั่นเป็นความจริง!” หลี่ฟูจื่อมองนางพลางกล่าว

ชูเซี่ยเงียบไปสักพัก “ได้ ใช่แล้ว ข้าคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับท่าน เป็นหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานแต่มีลูกแล้ว ไม่รู้จักยางอาย ไม่คู่ควรกับฟูจื่อหรอก”

หลี่ฟูจื่อได้ยินคำพูดนี้ก็หัวเราะหยัน “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นแบบนี้ เหตุใดถึงไม่ยอมรับเล่า ท่านหมอชู ข้าไม่ได้ตีตัวออกห่างท่าน เป็นท่านที่คิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับข้า ดังนั้นถึงได้จากไป ต่อไปก็อย่าได้เสียใจ ถึงท่านเสียใจ แต่ข้าก็ไม่ต้องการท่านอีก”

มุมปากของชูเซี่ยกระตุกขึ้นมาบ้างแล้ว “อืม ข้าสูญเสียท่านไปแล้ว ข้าต้องเสียใจไปชั่วชีวิต”

หลี่ฟูจื่อยืดตัวอย่างเย่อหยิ่ง “งั้นท่านก็เสียใจไปเถอะ”

จูฟางหยวนพูดอย่างเย็นชา “หลี่ฟูจื่อรอบรู้เรื่องบนโลก ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าพระนามของพระสนมของฮ่องเต้พระองค์ก่อนชื่อชูเซี่ยหรอกใช่หรือไม่”

ฝีเท้าที่มั่นคงของหลี่ฟูจื่อโอนเอนทันที หลังจากตั้งหลักได้ไม่นานก็พลันเอามือปิดหน้าวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า