ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 206

ตอนที่ 206 เรื่องเก่ามิต้องพูดอีก

ชูเซี่ยสะกดความขมขื่นไว้ในส่วนลึกของใจ ทำเป็นพูดอย่างสดใสว่า “จิงโม่เป็นพี่สาว แต่ว่าฉองเหลาไม่เคยยอมรับ มักบอกว่าตัวเขาเป็นพี่ชาย สำหรับเรื่องที่ว่าใครเป็นพี่ใหญ่พวกเขาทั้งสองแย่งกันมานาน จนกระทั่งก่อนกลับเมืองหลวง ฉองเหลาถึงได้ยอมรับว่าจิงโม่เป็นพี่สาว”

หลี่เฉินเย่นมองดูที่ชูเซี่ย เลิกคิ้วถามว่า “ทำไมล่ะ?”

“ฉองเหลาอยากเป็นพี่ชายมาตลอด แต่จิงโม่เดิมทีก็เป็นพี่สาวอยู่แล้ว ย่อมไม่อยากจะเป็นน้องสาว”

“แล้วทำไมหลังจากนั้นฉองเหลาถึงยอมรับแล้วล่ะ?”

ชูเซี่ยมองไปที่เขาแวบหนึ่ง บอกอย่างไม่เป็นธรรมชาติว่า “เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว ในวันก่อนที่จะกลับเมืองหลวง อยู่ๆก็เรียกจินโมว่าพี่สาว”

ฉองเหลายอมเรียกจิงโม่ว่าพี่สาว ก็เพราะว่าเขาจะได้กลับเมืองหลวงไปเจอพ่อ เขารอคอยวันนี้มาตลอด

ชูเซี่ยรู้ แต่ไม่กล้าที่จะบอก

“เจ้าเล่ามากกว่านี้อีกหน่อยได้ไหม?” หลี่เฉินเย่นคราวนี้ไม่ได้แค่หาเรื่องคุยเท่านั้น เขาอยากรู้ให้มากกว่านี้ ลูกๆของเขา เรื่องประหลาดมากมาย อยู่ๆเขาก็มีลูกถึงสองคน

เป็นที่ของเขากับชูเซี่ย

เพียงแค่คิด ก็ทำให้เลือดในกายสูดฉีดด้วยความตื่นเต้น

ชูเซี่ยพยักหน้า “แน่นอนว่าได้สิ จิงโม่ตอนอายุได้แปดเดือนก็เรียกแม่ได้แล้ว แต่ว่าฉองเหลากลับเรียกแม่ได้ตอนอายุหนึ่งขวบ ร่างกายฉองเหลาแย่มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่าตอนที่คลอดเขา ผ่านไปนานเขาก็คลอดไม่ออกมา เกือบจะหยุดหายใจ ตอนที่คลอดออกมาก็ร้องไห้ไม่เป็น ต้องจับขึ้นมาตีถึงได้ร้องไห้ออกมา ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็เป็นโรคปอดบวม ดื่มนมไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องดื่มยา ปอดบวมในเด็กแรกเกิดเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ เขายังมีอาการแซกซ้อนอย่างอื่นอีก ตอนนี้นสถานการณ์ข้าก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะว่าเสียเลือดมากจากการคลอด ครึ่งเดือนก็ไม่สามารถลงจากเตียงได้ เป็นเหล่าจูที่คอยดูแลพวกลูกๆตลอด หลังจากที่ปอดบวมของฉองเหลาดีขึ้นแล้ว ข้าก็จัดพิธีกรรมหนึ่งขึ้น ให้เขาเป็นพ่อบุญธรรมของเด็กๆอย่างเป็นทางการ”

หลี่เฉินเย่นได้แต่ฟัง ภายในใจทั้งเจ็บทั้งเศร้า

เขาคาดหวังเป็นอย่างมากว่าตัวเองจะสามารถมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์เหล่านั้น คาดหวังเป็นอย่างมากว่าตอนที่ชูเซี่ยและลูกๆเกิดเรื่องขึ้น จะมีเข้าอยู่ข้างๆ

“เพราะว่าฉองเหลาป่วยแต่เด็ก ดังนั้นจิงโม่จึงต้องทำหน้าที่พี่สาว ดูแลน้องชาย จิงโม่ตอนอายุสามขวบเริ่มเรียนทำอาหาร เพราะว่าตอนนั้นพวกเรามีปัญหาการเงิน ปีนั้นเกิดอุทกภัย เกิดโรคระบาด จูฟางหยวนและข้าจึงยุ่งจนไม่มีเวลา ข้าจึงให้นายท่านเหมาและเจ้าถ่านคอยดูแลสองพี่น้องบ่อยๆตอนออกตรวจไข้ ดังนั้น เพื่อให้พวกเขาไม่ถึงกับต้องทนหิว เหล่าจูจึงสร้างเตาทำอาหารเตี้ยๆไว้หนึ่งเตา...”

ชูเซี่ยค่อยๆนึกถึงเรื่องราวห้าปีที่ผ่านมา สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ปวดหัวบ้าง หัวเราะบ้าง เป็นเหมือนเวลาห้าปีของเธอ

พอคุยกันแบบนี้ ก็ผ่านไปหนึ่งชั่วยามกว่าแล้ว หลี่เฉินเย่นฟังรู้จบ ชูเซี่ยเองก็พูดไม่รู้จบ ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องน่าสนใจหรือเรื่องซนๆของเด็กๆ ก็สามารถพูดออกมาได้เลย

หลี่เฉินเย่นฟังอย่างเงียบๆมาตลอด บางครั้งก็เห็นอารมณ์ของนางขึ้นลงบ้าง หรือบางทีก็ยิ้ม หรือบางทีก็ขมวดคิ้ว

แต่ว่า พูดแซกน้อยมาก

กระทั่งลู่กงกงเดินเข้ามา บอกว่า “ฝ่าบาท ตีหนึ่งแล้วพะยะค่ะ ได้เวลาพักผ่อนแล้วพะยะค่ะ”

“ตีหนึ่งแล้ว?” หลี่เฉินเย่นรู้สึกเวลาเดินไปเร็วมาก เหมือนดังเขาเพิ่งนั่นที่นี่ได้ไม่นาน

เขาไปที่ชูเซี่ยอย่างอาลัยอาวรณ์ “ตีหนึ่งแล้ว เจ้าก็ควรพักผ่อนได้แล้ว”

ชูเซี่ยรู้สึกเหนื่อยนิดๆแล้ว กล่าว “ดี ถ้าไปดูฮองไทเฮาหน่อยก็จะไปพันผ่อน คืนนี้ไม่ออกจากวังแล้ว”

หลี่เฉินเย่นยืนขึ้น สีหน้ายังอาลัย แต่กลับจากไปโดยง่าย โบกมือลา “ดี งั้นเจอกันพรุ่งนี้”

“เจอกันพรุ่งนี้!” ชูเซี่ยลุกยืนขึ้นไปส่ง

ลู่กงกงโค้งคำนัพ ก็เดินออกไปพร้อมกับหลี่เฉินเย่น

ชูเซี่ยเดินไปส่งถึงปากประตู ได้ยินเสียงลู่กงถามหลี่เฉินเย่นว่า “คืนนี้ไม่ได้เปิดแผ่นป้าย ฝ่าบาทอยากเสด็จไปยังตำหนักใดพะยะค่ะ? จะให้กระหม่อมจะแจ้งคำหนึ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า