ตอนที่ 208 แสดงความรัก
ชูเซี่ยอึดอัดแทบตายตลอดทางออกจากวัง เห็นว่าเชียนซานไม่พูดอะไรเลย รู้ว่าตกใจอารมณ์โกรธของตัวเอง หายใจเข้าทีหนึ่ง นางเปิดม่านออกแล้วบอก “เมื่อครู่นี้ข้าไม่ได้เจาะจงเจ้า อย่าใส่ใจเลย”
เชียนซานหันไปมองนาง “ที่จริงแล้วข้าไม่เข้าใจว่านายหญิงโกรธเรื่องอะไร?”
ชูเซี่ยถอนหายใจเบาๆ “เชียนซาน ข้าและหลี่เฉินเย่นเลิกกันแล้ว นอกจากจะเป็นพ่อแม่ของคู่แฝดแล้ว พวกเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจไหม?”
เชียนซานไม่เข้าใจ “ท่านสามารถลืมฝ่าบาทได้จริงๆหรือ?”
คำถามนี้อีกแล้ว !
ชูเซี่ยรู้สึกปวดหัวมาก แม้ว่าจะก่อนกลับเมืองหลวงก็เคยคาดการณ์ว่าจะมีคนมากมายหยิบเรื่องนี้มาพูด นางทำใจมาแล้ว แต่กลับเมืองหลวงได้ไม่ถึงสองวัน กำแพงเส้นนั้นของนางเหมือนว่าจะถูกทำลายไม่เหลือ
ลืมได้แล้วยังไง? ลืมไม่ได้แล้วยังไง?
เรื่องราวในโลกนี้ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเพราะค่านิยม นางสามารถแย่งชิงอะไรได้?
เขาเป็นฮ่องเต้วันหนึ่ง พวกเขาก็จะไม่มีอนาคตด้วยกัน
ให้เขาสละตำแหน่งจักรพรรดิ? ความรักของพวกเขายิ่งใหญ่ขนาดนั้นหรือ? แผ่นดินจะทำยังไง? ปล่อยอำนาจไว้ข้างๆราชวงศ์จะกระทบแค่ไหน? ถ้าเมื่อแผ่นดินผลัดเปลี่ยนนายใหม่ ประเทศรอบๆที่คอยจ้องอยู่จะไม่ใช้โอกาสนี้เข้ายึดครอง?
แม้ว่าชูเซี่ยจะอาศัยในเมืองหนานซานมาหลายปี แต่ว่าเรื่องราวความเคลื่อนไหวของประเทศรอบข้างก็ยังคงพอรู้เรื่องบ้าง
ประเทศเหลียงหลายปีมานี้พัฒนาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรหรือเศรษฐกิจ ต่างก็ก้าวกระโดดอย่างมาก สำหรับการค้าขายตามชายแดนประเทศก็รุ่งเรืองขึ้นมาก เศรษฐกิจเติบโต ย่อมดึงดูดความโลภของพวกคนเถื่อน ประเทศคนเถื่อนเล็กๆพวกนี้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่กลับกล้าหาญและรบเก่ง เพื่อพื้นที่และสาวงามแล้ว ก็ไม่กลัวจะเสี่ยงอันตรายเข้ามายึดครอง แม้ว่าเมืองหนานซานจะถือว่าสงบสุข แต่ว่าห้าปีในเมืองหนานซานนี้ ก็มักมีพวกเร่ร่อนเข้ามาแย่งชิงอาหารและผู้หญิงเสมอ
นางสามารถขอให้หลี่เฉินเย่นทำอะไรได้? ปลดนางที่ถูกแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยในจักรพรรดิองค์ก่อน? กลัวว่าน้ำลายของเหล่าขุนนางทั้งหลายจะทำให้นางจมไปได้
ถ้าหากไม่ปลดวังหลังทิ้ง นางจะยินยอมใช้แบ่งปันผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงเยอะขนาดนี้ได้หรือ?
ไม่ นางยังมีหลักการอยู่ สู้ไม่เอาดีกว่า
ไม่ใช่ว่านางไม่ยอมประนีประนอมเพื่อความรัก แต่ว่า ถ้าประนีประนอมแบบนี้ นั่นคือการดูถูกความรัก
นางเริ่มรู้สึกว่า บางทีการกลับมาอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหนึ่ง
เชียนซานรู้สึกได้ว่าการกลับมาของชูเซี่ยคราวนี้ มีการตัดขาดเพิ่มขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เด็ดขาดขึ้นมามาก
แต่ว่า นางเป็นคนของพรรคมังกรเหิน ชูเซี่ยเป็นนายหญิงของพรรคมังกรเหิน นางจะฟังแต่ชูเซี่ยคนเดียว ชูเซี่ยบอกว่าไม่อยากให้เอ่ยถึงอีก นางก็จะไม่เอ่ยถึงอีก
รถม้ามาถึงหน้าจวนอ๋องเจิ้นกั๋วก็หยุดลง
เมื่อคืนนี้ตอนจูเก๋อหมิงออกจากวัง มาเอี้ยมยามดึก แจ้งให้หลี่หยุนกางว่าชูเซี่ยจะมาในวันนี้ ดังนั้น ที่จวนก็ยุ่งกันตั้งแต่เช้า
รถม้าขับมาแต่ไกล เห็นเชียนซาน ยามเฝ้าประตูก็เข้าไปแจ้งให้ทราบแล้ว
ดังนั้น ชูเซี่ยเพิ่งลงจากรถม้า ก็เห็นหลี่หยุนกางพาอานเหยียนมารอรับที่ประตูแล้ว
“ท่านอ๋อง!” ชูเซี่ยสะพายกล่องยาเดินขึ้นไปตามบันไดหินหน้าประตูจวน
“ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว” หลี่หยุนกางมองดูนาง จากลาห้าปี นางยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
เขาจูงมืออานเหยียน โน้มตัวกล่าว “อานเหยียน เรียกแม่บุญธรรมสิ!”
อานเหยียนจ้องมองที่ชูเซี่ยตาโต แม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอชูเซี่ยมาห้าปีแล้ว แต่ว่าคำทรงจำเมื่อตอนสามขวบยังคงอยู่ เป็นคนตรงหน้านี้แน่ๆ พาเขาหนีออกจากมือคนชั่ว
“แม่บุญธรรม!” อานเหยียนไม่กลัวเลย เดินเข้ามาเรียกอย่างมีมารยาท
“คุกเข่าลง!” หลี่หยุนกางสั่งการ
อานเหยียนจึงคุกเข่าลง หมอบกราบอยู่หน้าชูเซี่ยแล้วตะโกนว่า “อานเหยียนเคารพแม่บุญธรรม!”
ชูเซี่ยยิ้มและดึงอานเหยียนให้ลุกขึ้น บ่นกับหลี่หยุนกางว่า “ทำพิธีรีตองอะไรแบบนี้ทำไม? ลูกกลัวแล้วเนี่ย”
“เขาก็เป็นลูกชายเจ้าเหมือนกัน ก็ควรแสดงความเคารพสูงสุดกับเจ้าสิ” หลี่หยุนกางบอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...