ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 23

ตอนที่23 การเปลี่ยน

“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี ข้ามาเพื่อต้องการหาวิธีรักษาพิษให้พระชายาร่วมกับพวกท่าน เพียงเท่านั้น”ชูเซี่ยกล่าวมาเดินเข้ามา

หมอหลวงเฉินจึงกราบทูลว่า“พวกกระหม่อมค้นหาตำรามาทุกเล่มแล้ว แต่ก็จนปัญญาที่จะวินิจฉัยได้ว่าอาการป่วยของพระชายามาจากพิษชนิดใดได้พะย่ะค่ะ”

หมอหลวงท่านหนึ่งดึงเก้าอี้ออกมาให้ชูเซี่ยนั่ง และเมื่อชูเซี่ยได้นั่งลงอ่านตำราสักพักหนึ่ง นางจึงบอกกับหมอหลวงว่า“ในยามนี้การจะมานั่งค้นหาว่าเป็นยาพิษชนิดใดนั้น ข้าเกรงว่าอาจจะไม่ทันการณ์ได้นะท่านหมอ ข้าว่าให้พวกท่านลองหาว่ามีสมุนไพรชนิดใดที่สามารถถอนสารพัดพิษได้จะดีกว่า”

“พระชายานิงอันกล่าวได้ถูกต้อง การมัวแต่หาชนิดของพิษทำให้เสียเวลา เช่นนี้แล้วพวกเราลองค้นหายาถอนพิษกันจะดีกว่า ไม่ทราบว่าพระชายาเคยได้ยินเกี่ยวกับหญ้าหลินเฉ่าหรือไม่”

“ท่านหมอหลวงหมายถึงชะเอมอย่างนั้นหรือ”กับหมอหลวงท่านนี้ ชูเซี่ยให้ความเคารพนับถือมากในสำนักหมอหลวง ผู้คนล้วนแต่เป็นผู้อาวุโสกว่านาง เดิมทีสมัยนางยังอยู่ในยุคของนางนั้น ก็ได้เรียนเกี่ยวหญ้าชะเอมมาบ้าง ว่ามีสรรพคุณในการถอนพิษได้หลากหลายชนิด แต่ว่ายาพิษที่พระชายาได้รับออกฤทธิ์รุนแรง นางเกรงว่าอาจจะไม่ได้ผล

“หามิได้พะย่ะค่ะ พระชายา หญ้าหลิ่นเฉ่าที่กระหม่อมกล่าวอยู่ในตระกูลหญ้าชะเอมก็จริงอยู่ แต่หญ้าชนิดนี้สามารถเติบโตได้ในยอดเขาที่สูงเท่านั้น กล่าวว่าในเขาหนึ่งลูกสามารถพบได้เพียงต้นสองต้นเท่านั้น เป็นของหายากอย่างยิ่ง หญ้าหลินเฉ่าชนิดนี้สามารถแก้ได้สารพัดพิษ”เยี่ยนพ่านกล่าวก็จะยื่นตำราเล่มหนึ่งออกมาตรงหน้านาง เป้นตำราที่เก่าแก่มากเล่มหนึ่ง บนหน้าตำราจารึกตัวอักษรไว้เพียงสั้นๆ‘ตำราแพทย์เหมียวเจียง’

“นี่มันตำราอะไรกันท่านหมอ”ชูเซี่ยถามอย่างสนอกสนใจ

“นี่คือตำราแพทย์เหมียวเจียงพะย่ะค่ะ เป็นตำราที่อาจารย์ของกระหม่อมนำกลับมาจากเหมียวเจียงเมื่อนานมาแล้ว แม่ว่าสภาพตำราจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจนตัวอักษรบางหน้าเลือนรางขาดหายไปบ้างแล้ว แต่บางหน้าก็ยังพออ่านออกอยู่บ้าง เช่นหน้านี้ ที่มีการบันทึกเรื่องราวของหญ้าหลินเฉ่าอยู่ด้วย หญ้าหลินเฉ่าแก้ได้สารพัดพิษ ใบเรียว เป็นพืชไม้เลื้อย น้ำยางของต้นเป็นเมือกสีดำ มีจุดด่างเป็นวงกลมเล็กๆสีขาวบนใบ” เยี่ยนพ่านบรรยายลักษณะของหญ้าหลินเฉ่าออกมาให้ทุกคนในที่นี้ฟัง เนื่องจากในตำราเล่มนี้ไม่มีรูปวาดของหญ้าหลิ่นเฉ่าบันทึกอยู่

ชูเซี่ยได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนปรี่ไปแย่งตำรามาดูเอง นางรู้สึกคุ้นเคยกับลักษณะของหญ้าหลินเฉ่านี้อย่างมาก ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เมื่อนางลองใช้สมองขบคิดดูแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ใช่แล้ว ในศตวรรษที่ 21 ของนาง นางได้มีโอกาสไปงานประชุมวิชาการทางการแพทย์มาก่อน ภายในงานมีบุคลากรานหนึ่งที่เดินทางมาจากเหมียวเจียงบรรยายถึงสมุนไพรชนิดนี้ ซ้ำหลังจากนั้นเขายังนำรูปมาให้นางดูอีกด้วย ตอนนั้นนางลืมไปเสียสนิทว่าหญ้าชนิดนั้นมีชื่อว่าอะไร แต่ตอนนี้นางนึกออกแล้วว่าหญ้าชนิดนั้นมันมีชื่อว่า‘หานจูหลินเฉ่า’แก้พิษทุกชนิด เป็นยาล้ำค้าที่มีสรรพคุณเป็นเลิศ

นางถึงกับอุทานออกมา“หญ้าหลินเฉ่าชนิดนี้ ข้าเคยพบมันมาก่อน”เพราะครานั้นบุคลากรานนั้นนำรูปถ่ายให้นางดู นางจึงจำภาพได้อย่างชัดเจน

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เยี่ยนพ่านรีบเอ่ยถามขึ้นอย่างตื่นเต้น“พระชายาเคยพบมาก่อนหรือ นั่นเป็นเรื่องดียิ่ง ท่านพบมันที่ไหนมาก่อนหรือ ได้เด็ดกลับมาหรือไม่”

ชูเซี่ยส่ายศีรษะ“ข้าไม่เคยพบของจริงมาก่อน เห็นก็เพียงแต่ในรูปเท่านั้น และข้าก็ยังไม่มั่นใจอีกด้วยว่ามันจะสามารถรักษาพิษได้จริงหรือไม่”เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้นสายตาผิดหวังก็เข้ามาแทนที่ความดีใจเมื่อครู่ รู้จักไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าจะสามารถหาได้จากที่ใด พื้นดินกว้างใหญ่ จะไปหาที่ใดได้เล่า

เมื่อเยี่ยนพ่านเห็นท่าทางของเหล่าหมอหลวงทั้งหลายก็พยายามให้กำลังใจ“เอาเถอะ อย่างน้อยเราก็รู้มิใช่หรือว่ามันมีสมุนไพรชนิดนี้อยู่จริงๆ หากเป็นเช่นนั้นพวกท่านก็ลองค้นหาตามตำราดูเถิดว่ามีภูเขาใดบ้างที่มีโอกาสที่หญ้าหลินเฉ่าจะเติบโตขึ้นได้บ้าง”

ในยามนี้ทุกคนต่างจมอยู่กับกองตำราอีกครั้ง หนึ่งชั่วยามผ่านไป สองชั่วยามผ่านไป ท้องฟ้าภายนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นความมืดมิดเข้ามาแทนที่ อากาศภายนอกเริ่มชื้นขึ้น คาดว่าคงมีฝนโปรยลงมาอีกไม่ช้า

จนถึงยามนี้เหล่าหมอหลวงก็มีเพียงหมั่นโถวเท่านั้นที่พอจะรองท้องเพื่อประทังชีวิตไปก่อน เนื่องด้วยตอนนี้อาการของพระชายายังคงไม่สู้ดีนัก อ๋องเจิ้นหยวนก็เช่นกัน เพราะเรื่องนี้กระทบต่อจิตใจและความมั่นคงของบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นเสาหลักของบ้านเมือง หากเกิดอันใดขึ้นกับเขาแล้ว ประชาชนคงมิอาจอยู่ได้อย่างสงบสุขเป็นแน่

“พบแล้ว!”หมอหลวงเฉินดีใจจนเสียจริต ชูมือขึ้นกระโดดราวกับว่าตนเป็นเด็กน้อยผู้หนึ่ง“ที่หุบเขาเทียนหลาง ในตำราเล่มนี้บันทึกไว้ว่าบนยอดเขาเทียนหลางมีหญ้าหลินเฉ่าเติบโตอยู่บนนั้น พระชายาดูนี่สิพะย่ะค่ะ”

ทุกคนต่างโผกายเข้าไปล้อมรอบหมอหลวงเฉิน ชูเซี่ยจึงถือตำราเล่มนั้นไว้พร้อมอ่านออกเสียง“หุบเขาเทียนหลางเป็นสถานที่ที่มีพืชสมุนไพรล้ำค่ามามากมายเติบโตที่นั่น แต่ก็ยากจะเข้าถึงได้เนื่องด้วยบริเวณหุบเขามีเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของอสรพิษจำนวนมาก มีผู้คนพยายามเข้าไปในเขตหุบเขามิน้อย แต่ก็ไม่สามารถร้อนพ้นจากเขตแดนอสรพิษเหล่านั้นได้ บ้างก็ได้รับพิษจากการถูกอสรพิษกัด บ้างก็นำชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่น แต่ต่อมามีผู้รอดชีวิตจากหุบเขาแห่งนั้นมาได้ผู้หนึ่ง เขาผู้นั้นมีชื่อว่า หานจู เป็นผู้ค้นพบสมุนไพรหลินเฉ่า และสามารถนำหญ้าหลินเฉ่ามารักษาชีวิตคนได้มากมายจนทุกคนพากันขนานนามเรียกหญ้าชนิดนี้ตามชื่อของเขาว่า‘หานจูหลินเฉ่า ’เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณงามความดีของเขา”

ชูเซี่ยร้องออกมาอย่างดีใจ“ไม่ผิด ก็คือหญ้าหานจูหลินเฉ่านี่ล่ะ งั้นข้าจะรีบเดินทางหุบเขาเทียนหลางเดี๋ยวนี้”พูดจบนางก็หันกายออกจากสำนักทันที

“ช้าก่อนพระชายา มิได้พะย่ะค่ะ พวกเราควรนำเรื่องนี้ไปกราบทูลแก่องค์ฮ่องเต้เสียก่อน ให้ฮ่องเต้รับสั่งส่งคนออกไปหุบเขาเทียนหลางเพื่อตามหาหญ้าหลินเฉ่าจะดีกว่า หุบเขาเทียนหลางมีอสรพิษมากมาย ท่านเป็นเพียงสตรีจะให้ไปสถานที่อันตรายเช่นนั้นได้อย่างไรกัน หุบเขาเทียนหลางสูงชันนัก แม้แต่ผู้มีวรยุทธสูงส่งยังลำบาก ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ไม่มีวรยุทธเช่นท่าน เกรงว่าแม้แต่ครึ่งเขายังลำบาก”เมื่อเห็นชูเซี่ยรีบร้อนปานนั้นใต้เท้าเยี่ยนพ่านก็รีบเอ่ยทัดทานทันที

เมื่อชูเซี่ยลองนึกตามก็เห็นด้วย นางไม่เคยไปหุบเขาเทียนหลางมาก่อนย่อมไม่อาจเข้าใจลักษณะภูมิประเทศของยอดเขาแห่งนั้นได้ อย่าว่าแต่ลักษณะของเขาเลย แม้แต่ตั้งอยู่ที่ใดนางก็ยังไม่ทราบ นางจึงไม่ดื้อดึงอีก“เช่นนั้นก็ได้ พวกเราเอาเรื่องหญ้าหลินเฉ่าไปกราบทูลฝ่าบาทกันก่อน ให้ฝ่าบาทรับสั่งจัดหาคนไปตามหาก็แล้วกัน!”

ยามนี้เหล่าหมอหลวงพร้อมหน้ากันยื่นถวายตำราแพทย์เหมียวเจียงให้แก่องค์ฮ่องเต้ เมื่อฮ่องเต้ทราบเรื่องราวทั้งหมอจากใต้เท้าเยี่ยนพ่านก็เอ่ยออกมาเสียงเย็น“หุบเขาเทียนหลังมิได้ไกลจากที่นี่มากนัก เพียงแต่การจะไปหุบเขาเทียนหลางมิใช่เรื่องง่าย มีอันตรายมากมายรอคอยพวกมาเยือนอย่างพวกเจ้า นี่มิใช่เรื่องง่าย ต่อให้คนของเราไปถึงยอดเขาได้จริงๆ ก็ใช่ว่าจะพบหญ้าหลินเฉ่า หุบเขากว้างใหญ่ มันก็มิต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร พวกเจ้าว่ามิใช่หรือ”

“ทูลเสด็จพ่อ หากฮ่องเต้กังวล เช่นนั้นหม่อมฉันยินดีติดตามไปหาสมุนไพรตัวนี้ด้วยอีกคนหนึ่งเพคะ เนื่องจากหม่อมฉันเคยเห็นมันมาก่อน จึงทราบดีว่าหญ้าชนิดนี้ต้องตามหาในสภาพดินแบบไหน สภาพอากาศเช่นไรเพคะ”ชูเซี่ยกราบทูลขอพระราชอนุญาต

“มิได้เป็นอันขาด มันอันตรายเกินไป ภูเขาสูงถึงปานนั้น ทั้งยังมีอสรพิษมากมาย หากเกิดอะไรขึ้นกลับเจ้าเราจะมีหน้าไปพบเหล่าบรรพบุรุษของเราได้อย่างไร”

ชูเซี่ยก็เอ่ยทูลกลับอย่างอดทนใจเย็น“เสด็จพ่อเพคะ เรื่องนี้ล่าช้ามิได้ เพราะเกี่ยวพันถึงชีวิตคน อาการของพระชายายามนี้ไม่สู้ดีนัก นางอาจทนรับพิษนานมากมิได้ ทุกวินาทีในตอนนี้ล้วนมีค่า ยิ่งฮ่องเต้ตัดสินพระทัยช้าก็จะยิ่งอันตรายต่อชีวิตของพระชายาเจิ้นหยวนมากขึ้นเท่านั้นนะเพคะ”

“นั่นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายข้อ ยามนี้เรามิใช่กล่าวถึงการเย็บปักถักร้อย แต่กล่าวถึงการเดินทางขึ้นเขาฝ่าฟันความลำบากท่ามกลางดงอสรพิษ ระหว่างทางอันตรายยิ่งนักเจ้ารู้หรือไม่ เจ้าเป็นเพียงสตรีในเรือนหอ คงยังไม่รู้ชัดเจนถึงอันตรายของโลกภายนอก การเดินทางขึ้นหุบเขาเทียนหลางนั้นยากยิ่งกว่าเดินทางขึ้นสวรรค์เสียอีก”ฝ่าบาทพยายามหาเหตุผลต่างๆเพื่อหยุดสตรีหัวดื้อนางนี้

ยามนี้หลี่เฉินเย่นเข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงก้าวออกมาหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท “กระหม่อมขออาสานำกำลังพลขึ้นเขาเทียนหลางเพื่อตามหาหญ้าหลินเฉ่าเองพะย่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า