ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 230

ตอนที่ 230 ควบคุมพรรคมังกรเหินอีกครั้ง

จูฟางหยวนและชูเซี่ยลอบสบสายตากันก่อนที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น “นี่อาจเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ หากว่าหลวี่หนิงเกิดเออออกับนางขึ้นมาไม่แต่งกับนาง เชียนซานต้องร้องไห้บ้านแตกแน่”

ชูเซี่ยถอนหายใจ “คนสองคนใจตรงกันเหตุใดจึงไม่ยอมแต่งงานกันนะ ฤกษ์งามยามดีก็ถูกกำหนดเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเชียนซานเองก็เคยมีความคิดที่จะออกเรือนให้หลวี่หนิงเช่นกันไม่ใช่หรือ”

“ผู้ใดจะรู้กันว่าในใจของเชียนซานนางคิดอะไรอยู่ นางบ้าไปแล้วกระมัง” จูฟางหยวนเอ่ยอย่างหัวเสีย

จากนั้นเขาก็เหลือบมองชูเซี่ยเล็กน้อย “รู้หรือยังว่าผู้ใดเป็นผู้ที่ส่งคนมาก่อกวนเจ้า”

“คนของข้าไปสืบมาแล้ว คนผู้นั้นก็คือขุนนางวี่สื่อต้าฟูเหลียงกุย”

“เจ้าขุนนางเฒ่านั่นน่ะหรือ ตอนอยู่ในท้องพระโรงก็คอยแต่จะหาเรื่องขัดขวางหลี่เฉินเย่น มาตอนนี้มันยังกล้ามาคิดร้ายกับเจ้า ไม่ก่อความวุ่นวายสักเรื่องคงอยู่อย่างไม่สบายใจสินะ” จูฟางหยวนเอ่ยกระฟัดกระเฟียด

ชูเซี่ยยักไหล่ไม่สนใจ “ช่างพวกเขาเถิด เราจัดการเรื่องของเราให้ดีก็พอแล้ว”

“แต่คนพวกนี้ก็จะหาเรื่องก่อกวนเจ้าไม่เลิก เจ้าไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างเลยหรือ”

ชูเซี่ยปัดแขนเสื้อตนเองทั้งสองข้างเบาๆ “ข้าไม่ปล่อยให้พวกเขามาสร้างความรำคาญข้าตลอดไปแน่ พวกเขาแค่อยากทดสอบเรื่องของพรรคมังกรเหินเท่านั้นว่าจะมีคนในพรรคออกมาช่วยข้าหรือไม่ คนพวกนั้นคงกำลังสงสัยว่าฐานะพรรคมังกรเหินของข้าอาจจะเหลือเพียงชื่อเท่านั้น หรือไม่ตำนานพรรคมังกรเหินที่เคยยิ่งใหญ่อาจไม่เหลืออีกแล้วอย่างไรเล่า”

“เช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะเจ้าก็ยังคงเป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหินตัวจริงเสียงจริงอยู่ดี”

ชูเซี่ยปมองจูฟางหยวนด้วยหางตา “มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า”

จูฟางหยวนผายมือ “อืม ข้าเพียงแต่คิดว่า เจ้าเป็นหัวหน้าพรรคมังกรเหินก็จริง เจ้ามีหน้าที่ปกครองพวกเขาแต่เรื่องของพรรคมังกรเหินเจ้าเคยถามถึงหรือไม่เล่า เจ้าเคยเป็นห่วงสารทุกข์สุขดิบของพวกเขาบ้างหรือไม่ แล้วในภายภาคหน้าพรรคมังกรเหินจะเป็นเช่นไร? ตอนนี้พวกเขาทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองเจ้าหรือปกป้องคุ้มครองแว่นแคว้นกันแน่ ในฐานะที่เจ้าเป็นหัวหน้าพรรค ข้าว่ามันน่าจะถึงเวลาแล้วนะที่เจ้าจะสั่งให้คนในพรรคทำการใหญ่บ้างแล้ว ไม่ใช่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างที่เคยทำมาตลอด”

“เรื่องที่เจ้าพูดมาข้าเองก็เคยคิด ข้าเคยคิดอยากจะกลับไปที่พรรคมังกรเหินเพื่อรับผิดชอบพวกเขาในฐานะหัวหน้าพรรคเช่นกัน ส่วนเรื่องการใหญ่การเล็กของเจ้า ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคมังกรเหินมักจะปรากฎตัวขึ้นมาเมื่อบ้านเมืองเกิดกลียุคไม่ใช่หรือ หากว่าจู่ๆข้าประกาศตัวออกไปว่าจะสนับสนุนอำนาจของหลี่เฉินเย่นย่อมมีผลเสียย้อนตีกลับแน่เพราะหลายปีที่ผ่านมาพรรคมังกรเหินในสายตาคนนอกก็คล้ายกลับอากาศธาตุไปทุกที”

จูหางหยวนเอ่ย “ทุกคนในพรรคมังกรเหิน ภายภาคหน้าชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นเช่นไรมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคเช่นเจ้าไม่ใช่หรืออย่างไร”

ชูเซี่ยไม่เห็นด้วย “นี่ไม่ใช่เรื่องที่ข้าสามารถตัดสินใจได้เพียงคนเดียวเสียหน่อย ในพรรคก็ยังมีเหล่าผู้อาวุโสคอยดูแล สำหรับข้าแล้วมันคงจะดีหากว่าพรรคมังกรเหินจะไม่ข้องเกี่ยวกับพวกราชวงศ์”

“เจ้าอย่าเอามุมมองในยุคของเรามาเปรียบเทียบกับคนยุคนี้เป็นอันขาด โดยเพาะอย่างยิ่งคนของพรรคมังกรเหินต่างก็เป็นพรรคที่มีคุณธรรมสูงส่ง เจ้าดูจากเชียนซานที่จงรักภักดีต่อเจ้าถึงเพียงนี้ยังไม่รู้อีกหรือ”

ชูเซี่ยลองคิดตามก็เห็นด้วยกับที่เขาพูด ความจริงแล้วแรกเริ่มเดิมทีนางก็ปรารถนาจะให้พรรคมังกรเหินมามาเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนหลี่เฉินเย่นอยู่แล้ว แต่นางคิดว่าหากให้พรรคมังกรเหินมาข้องเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักรังแต่จะทำให้พวกขุนนางไม่พอใจในตัวเชียนมากขึ้น

“ข้าจะไปเยี่ยมฐานลับเสียหน่อย”

“ข้าไปกับเจ้า” จูฟางหยวนเอ่ย

พรรคมังกรเหินมีฐานลับที่แฝงกายอยู่ในเมืองหลวง แต่ว่ายิ่งรู้น้อยก็ยิ่งดี

ฐานลับแห่งนี้ก็คือร้านฉาวปังนั่นเอง

พรรมังกรเหินไม่เคยรับเงินสนับสนุนจากราชสำนักก็เพราะตัวพรรคเองมีธุรกิจการค้ามากมายที่เปิดอยู่เกือบทั่วแคว้น ร้านฉาวปังในเมืองหลวงก็เป็นร้านที่มีการค้าขายส่งออกขนาดใหญ่ แต่ที่ไม่มีผู้มดคาดถึงก็คือร้านใหญ่โตแห่งนี้จะเป็นของพรรคมังกรเหินนี่เอง

ดังนั้นจึงไม่เคยมีผู้ใดที่เคยพบเห็นหน้าของเจ้าของร้านฉาวปังเลยสักครั้งก็เพราะว่าชูเซี่ยไม่เคยมาเยี่ยมเยือนสักครั้งอย่างไรเล่า

แต่แม้ว่าจะไม่เคยเห็นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี ทางร้านเพียงแค่รอคอยให้ชูเซี่ยมาแต่งตั้งเจ้าของร้านเท่านั้น

ทุกคนที่ทำงานในฉาวปังไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นคนของพรรคมังกรเหิน เพียงแต่ทุกปีก็จะมีการเปิดรับลูกศิษย์เข้าสำนัก มีสายเลือดใหม่ๆเข้ามาในสำนักทุกปี ภายนอกอาจจะคิดว่าบัดนี้พรรคมังกรเหินกลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วพรรคมังกรเหินยังคงเติบโตขึ้นทุกปี

เติบโตไปยังจุดที่ไม่ผู้ใดก็ไม่สามารถจินตนาการได้

ชูเซี่ยเดินทางมาเยี่ยมเยียนร้านฉาวปังซึ่งเป็นหนึ่งในฐานลับที่อยู่ในเมืองหลวง ในทุกๆปีบัญชีของร้านฉาวปังและร้านอื่นๆจะส่งมาให้นางตรวจทานอยู่เสมอ รวมไปถึงโรงรับจำนำ การค้าที่ดินมากมาย เรียกได้ว่าพรรคมังกรเหินเป็นพรรคที่ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินทองเลยแม้แต่น้อย

เพียงแต่นางซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค ตลอดห้าปีมานี้ค่อนข้างผ่านมันยากลำบากเล็กน้อย

“นายหญิง ท่านมาแล้วหรือ!”

ที่ผ่านมาผู้ที่คอยดูแลจัดการเรื่องราวในพรรคมังกรเหินมาตลอดก็คืออาหมั่นผู้นี้นี่เอง อาหมั่นปีนี้อายุห้าสิบเจ็ดแล้ว แม้ว่ารูปลักษณ์ของเขาจะคล้ายกับบัณฑิตคงแก่เรียน แต่ทว่าวิชาควบคุมพู่กันของเขาก็ร้ายกาจยิ่งนัก ในใต้หล้านี้น้อยคนนักที่จะสามารถเอาชนะเขาได้

ในทุกๆปีลุงหม่ายมักจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนนางที่เมืองหนานซาน วันอี้ได้อ่านบัญชีของสำนักที่อีกฝ่ายทำการบันทึกให้นางในทุกๆปี ละเอียดอ่านง่ายและถูกต้องแม่นยำยิ่ง ทำให้ชูเซี่ยรู้สึกวางใจที่จะให้อีกฝ่ายดูแลพรรคได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่นางไม่อยู่

“อาหมั่น ไม่เจอท่านหนึ่งปีท่านก็ดูจะอ่อนเยาว์ขึ้นนะเจ้าคะ” ชูเซี่ยกล่าวทักทายอีกฝ่ายยิ้มๆ

“นายหญิงอย่าล้อข้าน้อยอีกเลย อายุข้าก็ไม่น้อยแล้ว มีแต่แก่ลงทุกปีจะให้เด็กลงได้อย่างไรเล่า” ลุงหม่ายก็ยิ้มขำออกมา

“หากจิตใจสดใสร่างกายก็ย่อมอ่อนเยาว์ตาม ดูท่าว่าระยะนี้การค้าของฉาวปังคงไม่เลวเลยทีเดียว” ชูเซี่ยเอ่ยอย่างพออกพอใจ

อาหมั่นแสดงสีหน้าภูมิใจอย่างปิดไว้ไม่มิด “เป็นเพราะบารมีของนายหญิงเป็นแน่ ปีนี้การค้าของเราดีขึ้นมากถึงสิบส่วนเลยขอรับ”

เมื่อเข้ามาถึงห้องตำราอาหมั่นก็เชิญชูเซี่ยให้นั่งลงบนเก้าอี้ไม้ปราณีต รอจนชูเซี่ยสั่งให้เขานั่งเมื่อนั้นเขาจึงยอมเดินมานั่งข้างๆนางแต่โดยดี

ชูเซี่ยเห็นท่าทางเคร่งครัดของเจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “อาหมั่น ในพรรคมังกรเหินนี้นอกจากเชียนซานแล้วก็มีท่านที่ข้าสนิทด้วยมากที่สุด อยู่ต่อหน้าข้าท่านไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองถึงเพียงนี้หรอกเจ้าค่ะ วันนี้ที่ข้ามาก็เพียงแค่หาสหายพูดคุยเรื่องสัพเพเหระเท่านั้น หาได้มีเรื่องอะไรไม่”

อาหมั่นจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “แต่ข้ากลับคิดว่าการที่นายหญิงยอมเดินทางมาเยี่ยมเยียนถึงที่นี่ช่างเป็นเกียรติกับตาแก่อย่างข้าเหลือเกินขอรับ”

นับตั้งแต่ชูเซี่ยมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนางก็เคยไปเยี่ยมเยือนพรรคมังกรเหินเพียงแค่ครั้งเดียวและยิ่งไปกว่านั้นนางไม่เคยไปเยี่ยมเยือนฐานลับต่างๆที่แฝงตัวอยู่แต่ละเมืองเลยสักครั้ง นี่ก็นับเป็นครั้งแรกที่นางมาเยือนฉาวปัง ฐานลับที่ดยู่ภายใต้การดูแลของเขา

ดังนั้นอาหมั่นจึงดีใจยิ่งนัก เขารู้สึกว่าหน้าที่ผู้ดูแลฐานลับของเขาในที่สุดก็ประสบความสำเร็จแล้ว

ชูเซี่ยได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา “ว่ากันตามจริงตลอดหลายปีมานี้ข้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องในพรรคมังกรเหินเลยสักครั้ง ข้าคงทำให้พวกท่านกังวลใจไม่น้อย ข้ารู้สึกละอายใจเหลือเกิน”

“นายหญิงได้โปรดอย่าได้กล่าวเช่นนั้นขอรับ ตลอดห้าปีที่นายหญิงอาศัยอยู่ที่เมืองหนานซานก็ทำการรักษาช่วยเหลือชีวิตคนมากมาย อีกทั้งตอนนี้เมืองหนานซานก็มีคนในพรรคไปขยายฐานลับไปตั้งที่นั่นแล้ว ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเพราะนายหญิงนะขอรับ”

ชูเซี่ยหุบยิ้มลง “ไม่ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ข้าไม่เคยไปเยือนฐานลับที่เมืองหนานซานเลยสักครั้งด้วยซ้ำ”

“หากว่านายหญิงไม่ได้ไปพำนักอาศัยที่เมืองหนานซาน พรรคมังกรเหินก้คงไม่คิดจะขยายฐานลับไปที่นั่น เรื่องทั้งหมดต่อให้นายหญิงจะปฏิเสธแต่นั่นก็เพราะท่านนะขอรับ”

ยิ่งชูเซี่ยได้ยินที่อีกฝ่ายพูดนางก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น หญิงสาวหันมามองอาหมั่นก่อนจะตัดสินใจเอ่ยขึ้น “อาหมั่น ท่านช่วยนำข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับพรรคมาให้ข้าได้หรือไม่รวมถึงจำนวนคน ธุรกิจกาค้า ผู้รับผิดชอบในฐานลับและผู้ที่แฝงตัวตามที่ต่างๆให้แก่ข้าทั้งหมดได้หรือไม่”

อาหมั่นเบิกตากว้างอย่างยินดี “ความหมายของนายหญิงคือ?”

ชูเซี่ยเอ่ยเสียงเบา “ในฐานะที่ข้าเป็นหัวหน้าพรรคก็สมควรทำอะไรบ้าง”

อาหมั่นผุดลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “นายหญิงหมายความเช่นนั้นจริงหรือไม่”

ชูเซี่ยพยักหน้า “แต่ว่าข้าไม่รู้อะไรเลยสักอย่างจำเป็นต้องให้ท่านอาหมั่นคอยชี้แนะข้านะเจ้าคะ”

“ข้าจะรีบไปเตรียมเดี๋ยวนี้ขอรับ!” อาหมั่นยากจะปกปิดความตื่นเต้นของตน หลายปีมานี้ที่เขานำบัญชีไปให้นายหญิงตรวจที่เมืองหนานซานก็เห็นท่าทางอีกฝ่ายไม่สนใจอะไรเพียงแค่มองผ่านๆเท่านั้น ทุกครั้งที่มีการประชุมภายในพรรคประจำปีเรื่องที่ตกเป็นหัวข้อและเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็กังวลมากที่สุดก็คือเรื่องที่นายหญิงไม่คิดจะสนใจเรื่องราวภายในพรรคนี่อย่างไรเล่า

พรรคมังกรเหินต่างจากพรรคอื่นๆในยุทธภพค่อนข้างมากเพราะว่าพรรคมังกรเหินจะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและยาวนานกับราชวงศ์มาตลอด กฎต่างๆในพรรครวมถึงผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็มักจะต้องผ่านความเห็นของผู้อาวุโสทั้งหลายภายในพรรคเสียก่อน ยามนี้นอกจากชูเซี่ยแล้วก็ไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคมังกรเหินอีกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า