ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 45

ตอนที่ 45 เล่นงานใคร ย่อมมีเหตุผล

ชายหนุ่มสองคนพูดคุยเรื่องราวของชูเซี่ยอยู่ภายในห้องนานกว่าครึ่งวัน

ชูเซี่ยสั่งการให้คนเตรียมพู่กันและหมึกให้นาง หญิงสาวพยายามนึกถึงรูปแบบของรถเข็นผู้ป่วยให้ชัดเจนที่สุด ผู้ที่ทำงานโรงพยาบาลทุกวันอย่างนางรถเข็นเป็นสิ่งที่เห็นได้ทุกวัน

ใช้เวลากว่าครึ่งวันในการวาดรูปนางก็วาดออกมาได้สมบูรณ์แบบ หากแต่อยู่บนกระดาษอย่างเดียวก็คงไม่อาจใช้งานได้ นางจำเป็นต้องตามหาช่างฝีมือดีเพื่อทำให้มันออกมาใช้งานได้จริงๆเสียก่อน

นางเรียกมามา “ในเมืองหลวงมีช่างตีเหล็กฝีมือดีบ้างหรือไม่”

มามาส่ายศีรษะเบาๆ “เรื่องนี้หม่อมฉันก็ไม่แน่นักเพคะ ทว่าหม่อมฉันเคยได้ยินมาว่าบิดาของเสี่ยวฉิงเป็นช่างตีเหล็กเพคะ ฝีมือเป็นเช่นไรหม่อมฉันก็ไม่มั่นใจ พระชายาต้องการช่างตีเหล็กไว้ทำสิ่งใดหรือเพคะ”

“เสี่ยวฉิง?” ยามนี้ความจำของชูเซี่ยดีนัก เพียงไม่นานนางก็นึกถึงใบหน้าของเสี่ยวฉิงที่เคยถูกนางตบหน้าได้ทันที ต่อมาสาวใช้นางนี้ก็ถูกหลิวมี่เหอขับไล่ออกจากจวนอ๋อง

“สาวใช้ที่ถูกรองพระชายาขับไล่ออกจากจวนเพคะ” เสี่ยวจี๋เอ่ยขึ้น

“พวกเจ้าไม่ได้กล่าวว่านางไม่มีเงินรักษาอาการป่วยของแม่หรือ บิดาของนางเป็นช่างตีเหล็กย่อมหาเงินได้ไม่น้อยไม่ใช่หรือ” ช่างตีเหล็กในสมัยนางเป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้ดีทีเดียว

มามายิ้มขบขัน “พระชายาที่แสนโง่งมของหม่อมฉัน เป็นเพียงช่างตีเหล็กธรรมดาจะไปหาเงินทองจากที่ใดเล่าเพคะ อย่างมากเดือนหนึ่งก็มีเงินเพียงสองตำลึงเท่านั้น ท่านก็รู้ว่าค่ารักษาท่านหมอไม่ใช่เงินน้อยๆ หากในครอบครัวยากจนมีผู้ป่วยก็เท่ากับนอนรอความตายนั่นล่ะเพคะ”

“อย่างนี้นี่เอง!” ชูเซี่ยครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะเรียกเสี่ยวจี๋ให้เข้ามาใกล้ “เสี่ยวจี๋ เจ้าไปนอนบนเตียง”

เสี่ยวจี๋งุนงง “พระชายาต้องการทำอันใดเพคะ”

ชูเซี่ยยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงกันทุกซี่ “ข้ากับมามาจะออกไปหาเสี่ยวฉิง ส่วนเจ้าก็นอนอยู่บนเตียงเผื่อท่านอ๋องส่งคนมาตรวจดูจะได้ไม่ถูกสงสัย”

เสี่ยวจี๋และมามาหัวใจหล่นวูบ “ออกจวนไปหานางทำไมกัน หากท่านอ๋องทราบเรื่องเข้าเกรงใจว่าเกิดเรื่องใหญ่นะเพคะ”

“ดังนั้นข้าจึงต้องให้เสี่ยวจี๋นอนอยู่บนเตียงแทนข้าอย่างไรเล่า วางใจเถิดพวกเข้าจะรีบไปรีบกลับก่อนฟ้ามืดอย่างแน่นอน” ชูเซี่ยว่าพลางกระโดดลงจากเตียง ทำให้มามาตกลงใจรีบวิ่งมาพยุงนางไว้ “พระชายาของหม่อมฉัน เจ็บตรงไหนหรือไม่ ระวังหน่อยเถิด”

“ไม่เจ็บแม้แต่น้อย อย่าพูดมากอยู่เลย ข้าต้องรีบไปตามหาบิดาของเสี่ยวฉิง เสี่ยวจี๋เจ้าไปหยิบเสื้อผ้าของเจ้ามาให้ข้าสักชุดเถิด ข้าจะเร่งเปลี่ยนแล้วรีบไป” ชูเซี่ยให้มามาออกไปสั่งการแก่สาวใช้ที่ทำความสะอาดเรือนอยู่ด้านนอกเพื่อไม่ให้พวกนางสงสัย

เสี่ยวจี๋ยังต้องการเอ่ยอีกหลายคำ ทว่าชูเซี่ยกลับถอดชุดกระโปรงของนางออกเสียแล้วรอเพียงนางนำเสื้อผ้ามาให้ เสี่ยวจี๋จึงรีบเร่งนำเสื้อผ้าของนางมาให้ชูเซี่ยสวมใส่

แต่ไรมาชูเซี่ยก็เป็นคนแน่วแน่ เมื่อนางคิดจะทำนางก็จะลงมือทำมันทันที ล่าช้าเพียงครู่เดียวก็ไม่ได้ เมื่อนางสวมใส่เสื้อผ้าของเสี่ยวจี๋เรียบร้อยดีแล้วนางก็ลากมามาออกจากจวนทันที

แต่ทว่านางจะหลบซ่อนสายตาจากผู้คนได้อย่างไร ด้วยร่างกายของนางสูงโปร่งกว่าเสี่ยวจี๋ค่อนข้างมากทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่ไม่พอดีตัวทั้งยังดูแปลกประหลาด จากที่นางพยายามจะปกปิดกลับทำให้มันกลายเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนเสียมากกว่า

ในขณะที่นางเดินผ่านลานกว้างไปหน้าประตูจวนก็ถูกชุนหนิงสาวใช้ข้างกายของหลิวมี่เหอพบเข้าเสียก่อน ชุนหนิงเห็นว่าการแต่งกายของนางดูผิดปกติอย่างยิ่งจึงรีบร้อนวิ่งกลับไปบอกเรื่องนี้ให้แก่หลิวมี่เหอได้รับรู้

หลังจากที่หลิวมี่เหอได้ฟังเรื่องราวจากชุนหนิงก็รีบเร่งสั่งการให้คนไปสืบเรื่องราว นางบาดเจ็บถึงเพียงนั้นยังจะมีเรี่ยวแรงที่ไหนหนีออกจากจวนได้เล่า หรือว่าเป็นเพราะนางเสแสร้งแกล้งทำ ทว่าบาดแผลของชูเซี่ยนางได้เห็นด้วยตาตนเองมาแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่าแม้แต่บาดแผลนั่นนางก็แสร้งทำมันขึ้นมา คงเพราะเป็นเช่นนั้นยามที่พี่จูเก๋อทำความสะอาดแผลให้นางจึงไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย

เสี่ยวจี๋นอนตัวสั่นอยู่บนเตียง นางหาได้เป็นห่วงหลิวมี่เหอไม่ เพราะว่ายามนี้หลิวมี่เหอไม่กล้ามาก่อกวนพระชายาของตนมาสักพักแล้ว แม้ว่านางจะเคยกล่าวว่าจะมาเยี่ยมเยียนก็เถิด ทว่าก็ไม่มีทางที่นางจะมาหรอก สตรีเช่นนั้นไม่วางยาพิษก็นับว่าประเสริฐยิ่งแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นางหวาดกลัวที่สุดเห็นจะเป็นทางท่านอ๋อง นางเกรงว่าท่านอ๋องจะส่งคนมาตรวจสอบทั้งยังกลัวว่าสาวใช้ข้างนอกจะจับพิรุธได้ ยามนี้อารมณ์ของท่านอ๋องไม่สู้ดีนักหากเขารู้ว่าพระชายาไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บของตนทั้งยังแอบหนีออกจากจวนจะต้องโมโหมากแน่แท้

ขณะที่นางกำลังกังวลคิดไปต่างๆนาๆก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากลานหน้าห้องบรรทมตามด้วยเสียงสาวใช้ที่แสดงความเคารพต่อผู้มาใหม่ “ถวายบังคมพระสนมโหร่วเฟย!”

ร่างกายของเสี่ยวจี๋ชาวาบไปทั้งร่าง นางรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมศีรษะของตนก่อนที่ร่างทั้งร่างจะสั่นเทา โหร่วเฟยมาที่นี่ได้อย่างไรกัน นางเพิ่งจะมากับท่านหมอจูเก๋อหมิงไม่ใช่หรือ น้ำเสียงของนางไม่ใคร่จะดีนัก นางคงไม่ได้จงใจจะมาหาเรื่องพระชายากระมัง

“พระชายาเล่า” หลิวมี่เหอเอ่ยออกมาเสียงเรียบแต่กลับมีการใช้อำนาจข่มอยู่ในน้ำเสียงนั่นด้วย

เสียงของสาวใช้เอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก “ทูลโหร่วเฟย พระชายากำลังบรรทมอยู่เพคะ รับสั่งว่าห้ามผู้ใดรบกวน”

โหร่วเฟยออกคำสั่งเสียงเย็น “เปิดประตู!”

เหล่าสาวใช้รีบคุกเข่าลงกับพื้น “โหร่วเฟยเพคะ แต่พระชายาไม่ให้ผู้ใดรบกวนนะเพคะ”

“พวกเจ้ากล้าขัดขวางโหร่วเฟยหรือ ท่านอ๋องเป็นผู้รับสั่งให้โหร่วยเฟยมากล่าวคำทักทายแก่พระชายาเอง ท่านอ๋องเป็นผู้รับสั่ง เจ้าเป็นเพียงสาวใช้ทำความสะอาดกลับกล้ามาขวางทางโหร่วเฟยงั้นหรือ ไม่ต้องการชีวิตแล้วใช่หรือไม่” ผู้พูดหาใช่ใคร นางก็คือชุนหนิงสาวใช้หัวสูงข้างกายโหร่วเฟยนั่นเอง

หัวใจของเสี่ยวจี๋ร่วงลงไปถึงตาตุ่มแล้ว หากเป็นรับสั่งจากท่านอ๋องจริงต่อให้พระชายาอยู่ที่นี่ก็คงไม่อาจห้ามได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า