ตอน ตอนที่ 567 หลี่เฉินเย่นที่แกร่งกล้า จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 567 หลี่เฉินเย่นที่แกร่งกล้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 567 หลี่เฉินเย่นที่แกร่งกล้า
พระราชโองการของหลี่เฉินเย่นได้ประกาศในวันที่สองของการประชุมเช้าในราชสำนัก
พระราชโองการนี้ไม่เหมือนอื่นๆที่ต้องหารือกับเหล่าขุนกัน ครั้งนี้หลี่เฉินเย่นมีความเผด็จการ ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ เพียงแค่การการประกาศการตัดสินใจของตนให้พวกเขาได้รับรู้
อารมณ์ผิดแปลกลักษณะนี้ของหลี่เฉินเย่น ทำให้หลายคนรู้สึกกังวล และบางคนก็ไม่สามารถเดาใจฝ่าบาทได้
แต่ว่า พวกเขาต่างก็พากันคัดค้าน คัดค้านที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮา คัดค้านที่ฝ่าบาทไม่ทรงหารือกับพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจทำเรื่องสำคัญแบบนี้
แน่นอนว่า คนคัดค้านเหล่านี้ เป็นเพียงจางเซียนฮุย เหลียงกุ้ยและคนอื่นๆที่อยู่หลี่อวิ๋นลี่ พวกเขารู้ดีว่า ชูเซี่ยและฝ่าบาทยังไงไม่สามารถอยู่ด้วยกัน หากชูเซี่ยได้เป็นฮองเฮา อย่างนั้นพลังอำนาจของฝ่าบาทและพรรคมังกรเหินต้องกำจัดพวกเขาออกอย่างแน่นอน
ตอนนี้พวกเขาต่างไม่มีแผนรับมือ แต่ตอนนี้เฉินหยวนชิ่งอยู่ชายแดน รองจากเหลียงกุยและจางเซียนฮุยแล้ว ไม่มีใครสามารถยืนในราชสำนักได้อย่างมั่นคงแล้ว หากอยู่ฝ่ายตรงข้ามฝ่าบาท
“ฝ่าบาท ไม่ควรอย่างยิ่ง หากต้องการเอาใจพรรคมังกรเหิน ท่านสามารถทำดีกับชูเซี่ยได้ แต่ไม่ควรให้ชูเซี่ยได้กลายเป็นสนมของท่าน และไม่ควรอย่างยิ่งในการกลายเป็นฮองเฮาของท่าน” ขุนพลท่านหนึ่งที่เคยอยู่ฝ่ายเหลียงกุยเดินออกมา แล้วตะโกนเสียงสูง
“ฝ่าบาท ชูเซี่ยเคยเป็นฮองกุ้ยเฟยของปฐมกษัตริย์ หากท่านแต่งตั้งเธอเป็นฮองเฮา ท่านเอาปฐมกษัตริย์ไปวางไว้ที่ไหนกัน ท่านเอากฎระเบียบไปวางไว้ที่ไหนกัน”
“ฝ่าบาท ไม่ควรแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮาอย่างยิ่ง”
หลี่เฉินเย่นเพียงแต่นั่งยิ้มอ่อนๆ ก่อนหน้านี้เขาเคยร่วมมือกับพวกเขา ช่วยเรียกร้องประโยชน์สูงสุดให้ประชาชน แต่วันนี้ เมื่อได้เห็นขุนพลสำมะเลเทเมาเหล่านี้ เขารู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด และอยากกำจัดพวกเขาให้เร็วที่สุด
หลี่เฉินเย่นเพิ่งจะรู้ ก่อนหน้านี้ตนขาดความหนักแน่น......
“ฝ่าบาท เจ้าสำนักชูเซี่ยมีคุณต่อประชาชาติ ครั้งนี้ก็ช่วยเหลือประชาชนโดยไม่สนใจความเป็นความตายของตน ตำแหน่งฮองเฮานี้ เธอสมควรได้รับมัน”
เมื่อเซียวเซียงได้ยินคำห้ามปรามจากคนของฝ่ายเหลียงกุยเป็นต้น ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาพูดบ้าง
“ฝ่าบาท จักรพรรดิไท่จู่เคยมีคำสั่งว่า เจ้าสำนักพรรคมังกรเหินสามารถเป็นฮองเฮาได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น” จางซือคงเช็ดน้ำตาหนึ่งที และพูดขึ้น
“มีคำสั่งจากไท่จู่จริงๆ แต่จางซือคงอย่าลืมว่า คำสั่งของไท่จู่ได้ฝังไปกับไท่จู่แล้ว เนื้อหาข้างในก็เพียงแต่ส่งกันมาปากต่อปาก ความจริงแล้วในนั้นเขียนอะไรไว้บ้าง ไม่มีใครรู้”
“ถ้าอย่างนั้นก็เปิดโลงและเอาพินัยกรรมออกมาดู” จางซือคงพูดเรียบๆ น้ำเสียงของเขาหนักแน่นมาก นี่ก็เป็นความละลายที่เขามีต่อชูเซี่ยหลังจากที่ทราบว่าชูเซี่ยกำลังเดิมพันกับความตาย เขารู้เรื่องของไท่จู่มาตลอด แต่เขาไม่ได้พูดออกมา แต่การขุดหลุมฝังศพของไท่จู่ ในสายตาของปวงชนจะมองว่า ฝ่าบาทไม่มีความภักดี
“จางซือคงควรไตร่ตรองกับคำพูดเสียงก่อน หลุมฝังศพของไท่จู่นั้นไม่ใช่ว่าเจ้าสั่งให้ขุดก็สามารถขุดได้ การแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮามันผิดกฎระเบียบ และการขุดหลุมฝังศพไท่จู่ก็ถือว่าไม่มีความภักดีต่อประเทศชาติ” ขุนผลฝั่งเฉินหยวนชิ่งคนหนึ่งลุกขึ้นพูด พูดจบก็จ้องไปที่จางซือคง สายตามีแต่ความเยาะเย้ย
ความจริงแล้วพวกเขาต่างก็รู้เรื่องพินัยกรรม หลังจากได้หารือเรื่องที่จะขัดขวางการแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮาแล้วก็ได้หารือถึงวิธีขัดขวางด้วย ประเด็นความภักดี เพียงพอที่จะทำให้หลี่เฉินเย่นไม่กล้าทำอะไร
“ข้าไม่ทราบมาก่อน ว่าความคิดของข้าและพินัยกรรมของไท่จู่เป็นไปในทางเดียวกัน สิ่งที่ชูเซี่ยทำเพื่อประชาชน พวกเจ้าต่างก็รู้ดี พวกเจ้าน่าจะรู้ดียิ่งกว่าว่า ใต้หล้านี้นอกจากเธอที่เหมาะสมกับตำแหน่งฮองเฮาแล้ว คนอื่นไม่มีใครเหมาะอีกเลย ข้าตัดสินใจแล้วล่ะ”
เห็นได้ชัดว่าหลี่เฉินเย่นไม่ต้องการฟังเสียงฝั่งเฉินหยวนชิ่ง และฝั่งเหลียงกุยแล้ว ที่พวกเขาคัดค้านอย่างนี้ ก็เพราะกลัวว่าตนจะจับมือกับพรรคมังกรเหิน ทำให้พวกเขาไม่มีกำลังที่จะสู้
พวกเขาคิดผิดแล้วล่ะ เพราะเขาไม่ใช่หลี่เฉินเย่นคนเดิมอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องถึงมือพรรคมังกรเหิน เพียงเขาคนเดียวก็สามารถทำให้พวกเขารู้แล้วว่า ฝ่าบาทผู้อ่อนเปียกที่พวกเขาคิดไว้ไม่ได้รังแกง่ายๆอย่างนี้
ก่อนหน้านี้เขามีความเมตตากรุณามากไป จึงทำให้มีคนคิดว่ารังแกง่ายงั้นรึ
“แต่ว่า ฝ่าบาท เรื่องนี้ไม่เหมาะสมยิ่งนัก เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับประเทศชาติ ขอฝ่าบาททรงไตร่ตรองอีกครั้งเสียเถิด”
“ฝ่าบาท ไม่ควรอย่างยิ่ง หากแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮา ข้ารอ......”
แต่หลี่เฉินเย่นกลับถอนหายใจ และส่ายหน้าไปมา
ชูเซี่ยของเขาไม่เคยสนใจเลยว่าเขาสามารถให้อะไรเธอได้บ้าง เธอเพียงแค่จะสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อเขา และช่วยเขาโจมตี......
ครั้งนี้ เขาก็จะทำอะไรเพื่อชูเซี่ยบ้าง แม้เรื่องเหล่านี้ชูเซี่ยจะไม่สนใจก็ตาม
แต่นี่เป็นความตั้งใจของเขา นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถให้ชูเซี่ยได้
“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้าจะไปพระตำหนักฉ่ายเหว่ยเสียหน่อย” เมื่อมอบหมายหน้าที่เรียบร้อยแล้ว หลี่เฉินเย่นก็ตรงไปยังพระตำหนักฉ่ายเหว่ยอย่างเร่งรีบ
ตั้งแต่เมื่อวาน เขารู้สึกว่าชีวิตของตน หัวใจของตนล้วนอยู่ในพระตำหนักฉ่ายเหว่ยแล้ว มีเพียงการไปที่นั่น มีเพียงการได้อยู่ข้างชูเซี่ย ใจของเขาถึงจะรู้สึกสงบ
ชูเซี่ยยังคงนอนอยู่อย่างนั้น สงบราวกับว่านอนหลับไปแล้ว แต่ว่าเธอหน้าซีดราวกับกระดาษ ดูอ่อนเปลี้ยยิ่งนัก
หลี่เฉินเย่นค่อยๆนั่งลงข้างๆชูเซี่ย พูดถึงเรื่องในท้องพระโรงให้เธอฟังด้วยเสียงที่เบา เหมือนตอนที่ชูเซี่ยยังมีสติอยู่
ขณะที่พูดนั้นหลี่เฉินเย่นได้จับมือของชูเซี่ยแน่น สายตาที่อ่อนโยนนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉา แต่ก็รู้สึกสงสารมากกว่า
ไทเฮาที่เพิ่งทราบข่าวของชูเซี่ยตอนนี้ได้ยืนอยู่หน้าห้องทรงพระบรรทม เธอเห็นลูกชายของตนพูดกับชูเซี่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล พลันน้ำตาไหลพราก
เบื้องบนใจร้ายกับลูกทั้งสองของเธอเสียจริง พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้งยังไม่ทันไร จะให้พวกเขาเผชิญกับการจากลาอีกแล้ว
เธอก่อกรรมอะไรไว้กันแน่ ทำให้เชียนของเธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์เจ็บปวดใจแบบนี้ซ้ำๆ......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...