อ่านสรุป ตอนที่ 568 ฉ่ายเวินยั่วยุ จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
บทที่ ตอนที่ 568 ฉ่ายเวินยั่วยุ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 568 ฉ่ายเวินยั่วยุ
สุดท้ายไทเฮาก็ไม่ได้เข้าไปในพระตำหนักฉ่ายเหว่ย เพราะเพียงแค่ได้เห็นเงาของเด็กทั้งสอง เธอก็ปวดใจยิ่งแล้ว เธอรู้ว่าลูกชายของตนเห็นค่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับชูเซี่ยแค่ไหน หญิงชราอย่างเธอ ไม่เข้าไปรบกวนพวกเขาจะดีกว่า
ไทเฮาจากไปพร้อมน้ำตา แต่ก็มีบางคนที่ไม่มีจิตใต้สำนึกแบบนี้ ไทเฮาเพิ่งเดินออกไป เธอก็มาถึงพระตำหนักฉ่ายเหว่ยแล้ว
คนของพรรคมังกรเหินที่เฝ้าอยู่หน้าประตูต่างทราบถึงสภาพร่างกายของชูเซี่ย และมีคนรู้แล้วว่าที่เลือดของชูเซี่ยสามารถช่วยผู้คนได้เพราะหรูกุ้ยเฟยได้วางยาพิษชูเซี่ย ดังนั้นการรับมือกับฉ่ายเวินที่พยายามบุกเข้ามา พวกเขายืนหยัดในการปฏิเสธ
“ข้าคือหรูกุ้ยเฟย พวกเจ้าปล่อยข้าเข้าไป” ฉ่ายเวินถูกขวางอยู่ด้านนอก อารมณ์ที่ดีอยู่นั้นหายไปเกินครึ่ง ขณะที่มองไปทางองครักษ์ที่ยืนอยู่ตรงประตูนั้นสีหน้าโกรธกริ้ว
“นี่เป็นที่ของเจ้าสำนักพรรคมังกรเหินเรา ไม่ใช่ที่ๆใครก็สามารถเข้าไปได้ ขอหรูกุ้ยเฟยมาทางไหนกลับไปทางนั้นเถอะ” องครักษ์มองดูหรูกุ้ยเฟยผู้โอหังหนึ่งที และพูดด้วยเสียงเรียบ
“ชูเซี่ยได้ตายไปแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ของหล่อนอีกที่ไหนกัน นี่เป็นตำหนักในของฝ่าบาท ข้ามีตำแหน่งสูงสุดในตำหนักใน พวกเจ้าควรเช็คให้ดีก่อนจะพูด” ฉ่ายเวินพูดเสียงดัง และไม่รู้สึกสนใจองครักษ์ที่อยู่ตรงหน้า
สำหรับเธอแล้ว องครักษ์เหล่านี้น่ารำคาญพอๆกับชูเซี่ย รอให้เธอได้ควบคุมตำหนักในเสียก่อน เธอจะจัดการกับหมาของพรรคมังกรเหินเป็นอันดับแรก
ใช่แล้ว พวกเขาเป็นหมาของชูเซี่ยนั่นเอง ปกติก็ไม่เคยเห็นเจ้าหญิงแห่งแค้วหนานจ้าวอย่างเธอในสายตารอก
“เพียงแค่เจ้าสำนักยังอยู่ที่นี่หนึ่งวัน พระตำหนักฉ่ายเหว่ยนี้ก็เป็นของเจ้าสำนักพรรคมังกรเหินเรา หากเจ้าสำนักพวกข้าไม่อยู่แล้ว พระตำหนักฉ่ายเหว่ยนี้ก็จะถูกปิด จะไม่ให้ใครหน้าไหนได้เข้ามาอีก ดังนั้นหรูกุ้ยเฟยรีบกลับไปเถอะ คนในพระตำหนักฉ่ายเหว่ยไม่มีใครต้อนรับเจ้าแม้แต่คนเดียว” เมื่อองครักษ์ได้ยินที่ฉ่ายเวินพูด สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไป อะไรคือชูเซี่ยได้ตายไปแล้ว อย่าว่าแต่ชูเซี่ยยังมีชีวิตอยู่เลย แม้ชูเซี่ยจะตายแล้วจริงๆ หรูกุ้ยเฟยอย่างเธอคนของพรรคมังกรเห็นไม่เคยสนใจเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพื่อความสงบตรงชายแดน พวกเขาจัดการกับผู้หญิงอย่างฉ่ายเวินไปนานแล้วล่ะ
ฉ่ายเวินไม่เปลืองน้ำลายกับองครักษ์อีก เธอหันไปหาเซินหลัน ให้เซินหลันขวางองครักษ์ไว้ และตนก็วิ่งเข้าไป
ชูเซี่ยตายไปแล้ว ตอนนี้ศิษย์พี่ต้องเสียใจอย่างแน่นอน เธอจะอยู่ข้างๆศิษย์พี่เอง
คอยปลอบใจศิษย์ในตอนที่เขาเสียใจที่สุด คอยอยู่ข้างๆเขาในตอนที่เขารู้สึกโศกเศร้า หลังจากดีขึ้นแล้ว ศิษย์พี่ก็จะรู้ว่าตนดีที่สุด เธอหวังมาตลอดว่าศิษย์พี่จะรู้ซึ้งถึงความรักของตน และตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดี
อย่าว่าแต่องครักษ์ที่ขวางอยู่ตรงหน้าตนในตอนนี้เลย แม้จะเป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยมีหรือทะเลแห่งไฟเธอก็ต้องเข้าไปให้ได้
เธอรู้ดีว่า ตอนนี้ศิษย์พี่ต้องการตนเอง
แต่คนที่จะมาเป็นองครักษ์ของพระตำหนักฉ่ายเหว่ยนี้ก็ไม่ธรรมดา พวกเขาจะยอมปล่อยให้ฉ่ายเวินผ่านเข้าไปง่ายๆได้อย่างไร
ตอนนี้ชีวิตของเจ้าสำนักไม่แน่ไม่นอน ฝ่าบาทก็อยู่ข้างๆเธอ สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือไม่ให้คนนอกผ่านเข้าไป
ดังนั้นพวกเขาพัวพันอยู่นาน ฉ่ายเวินก็ยังไม่ได้เข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว
“ศิษย์พี่ ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างใน ข้าคือฉ่ายเวิน ข้ารู้ว่าชูเซี่ยตายไปแล้วศิษย์พี่เสียใจอย่างมาก แต่ว่า ศิษย์พี่ ในโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงชูเซี่ยคนเดียวที่รักเจ้า ยังมีข้าด้วย สิ่งที่ชูเซี่ยสามารถให้ศิษย์พี่ได้ ฉ่ายเวินก็สามารถให้ศิษย์พี่ได้เหมือนกัน ศิษย์พี่ เจ้าให้ข้าเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้าดีไหม” ฉ่ายเวินเห็นว่าตนไม่สามารถเข้าไปเองได้ จึงทำได้เพียงถอยไปร้องขอ ตะโกนเสียงดังอยู่หน้าพระตำหนักฉ่ายเหว่ย
“ฝ่าบาท ศิษย์พี่ ชูเซี่ยตายไปแล้ว เจ้าเลือกคนที่อยู่ตรงหน้าจะดีกว่า เจ้ารู้ดีว่าข้าคิดอย่างไร ศิษย์พี่ ข้ารักเจ้า” เอ๋อเก๋อเห็นหลี่เฉินเย่นมีท่าทีรังเกียจตน ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้อีก เธอตะโกนเสียงดัง แม้เธอเองก็รู้ดี คำพูดเหล่านี้มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่จะทำให้หลี่เฉินเย่นรู้สึกหวั่นไหว
“ใครบอกว่าชูเซี่ยตายแล้ว ทหาร มาตบปาก” คำพูดของฉ่ายเวิน ได้ปลุกเร้าอารมณ์โกรธของหลี่เฉินเย่น เขามองฉ่ายเวินด้วยสายตาโหดเหี้ยม แล้วตะโกนเสียงดัง
ตอนนี้แม้ทุกคนต่างรู้แล้วว่า ชูเซี่ยจะตายในไม่ช้า แต่เขาก็ไม่อนุญาตให้ใครพูด ราวกับว่าหากพูดออกมาแล้วชูเซี่ยก็จะจากไปจริงๆ
เมื่อองครักษ์ของพรรคมังกรเหินได้รับคำสั่งของหลี่เฉินเย่น แน่นอนว่าไม่เบามือเป็นแน่ ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้สาปแช่งเจ้าสำนักของพวกเขา พวกเขาได้เห็นแก่ฐานะเจ้าหญิงหนานจ้าวของเธอ แต่ในมือฝ่าบาทเองก็ไม่สนใจ พวกเขาจะเบามือไปทำไมกัน
มีคนจำนวนมากที่รู้ ที่เจ้าสำนักของพวกเขากลายเป็นสภาพนี้ ก็เป็นฝีมือของผู้หญิงโหดเหี้ยมที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้
“พวกเจ้ากล้า...... ศิษย์พี่ เจ้าทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไรกัน เจ้ารู้ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าแท้ๆ ข้าเพียงแต่สงสารเจ้า เข้าเพียงแต่อยากอยู่เป็นเพื่อนเจ้าในเวลานี้ ข้าทำอะไรผิดเจ้าถึงทำกับข้าเช่นนี้ ศิษย์พี่ เจ้าทำเช่นกันกับข้า เจ้าต้องเสียใจเป็นแน่”
“ข้าเสียใจที่ห้าปีก่อนไม่ได้ฆ่าเจ้าให้ตาย ข้าเสียใจที่คิดถึงฐานะของเจ้าแล้วให้เจ้าอยู่ที่นี่ต่อ ตบเร็วเข้า” น้อยครั้งที่หลี่เฉินเย่นจะพูดกับฉ่ายเวินเกินสองประโยค แต่คำพูดเหล่านี้เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า หากก่อนหน้านี้ตนไม่กังวลมากมายเช่นนี้ ชูเซี่ยก็จะไม่อยู่ในสภาพอย่างวันนี้แล้วใช่หรือไม่
ในดวงตาของหลี่เฉินเย่นเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เขาเดินจากไปอย่างโซซัดโซเซ ไม่อยากเห็นผู้หญิงที่อยู่ด้านนอกอีกแล้ว และองครักษ์ของพรรคมังกรเหินก็ได้เดินหน้าตามคำสั่ง องครักษ์สองคนจับแขนเธอไว้ อีกคนยกมือขึ้นฟาดไปบนใบหน้าที่ใส่ผ้าคลุมอยู่
แต่ไม่มีใครคิดถึงเลยว่า หรูกุ้ยเฟยผู้สวยสง่า เมื่อโดนตบไปหนึ่งที หลังจากที่ผ้าคลุมหลุดไปแล้ว สิ่งที่ปรากฎจะเป็นใบหน้าที่น่าตกใจแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...