ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 569

ตอนที่ 569 หลี่อวิ๋นลี่เข้าวัง

องครักษ์ยังไงก็คิดไม่ถึงว่า ผิวที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมจะกำลังแตกออก ราวกับดินที่แห้งกร้าน

มองดูใบหน้าตกตะลึงของเหล่าองครักษ์ ฉ่ายเวินจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาได้เห็นอะไร เธอขู่องครักษ์เหล่านั้นว่า “พวกเจ้าห้ามพูดออกไป ไม่อย่างนี้ ข้าไม่อภัยให้พวกเจ้าแน่ ข้า......”

ฉ่ายเวินอยากขู่พวกเขา แต่แค่เริ่มพูดก็รู้แล้วว่าตนไม่มีพลังมากพอ

ที่ที่เป็นพระตำหนักฉ่ายเหว่ย องครักษ์เหล่านี้เป็นคนของพรรคมังกรเหิน โอกาสที่ตนจะได้พบพวกเขามีไม่มากนัก จะแอบวางยาพวกเขาก็ไม่ง่ายเลย แต่พวกเขากลับรู้ความลับของเธอแล้ว

เหล่าองครักษ์มองดูฉ่ายเวิน ราวกับว่าได้เจอกับคนบ้าคนหนี่ง ตอนนี้พรรคมังกรเหินของพวกเขาและฉ่ายเวินเกลียดกันอย่างกับอะไร คนรักสวยรักงามอย่างเธอเสียโฉมไปแล้ว ข่าวสะใจเช่นนี้ ยังจะหวังให้พวกเขาช่วยปิดบังอีกรึ

“พวกเจ้าห้ามบอกฝ่าบาท ใบหน้าของข้ามันแค่ชั่วคราวเท่านั้น ต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ใบหน้าของข้าต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน” ตอนที่ฉ่ายเวินพูดนั้นมีความผิดแปลกเล็กน้อย ไม่รู้ใครรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังหวาดกลัว เธอสามารถสร้างผิดเทียมของคนได้ แต่ใบหน้าหนึ่งใช้ได้แค่ไม่กี่วัน เธอไปเอาเด็กสาวจากที่ไหนมากมาย ห้องลับในตำหนักเธอก็ถูกค้นพบแล้ว เธออยากซ่อนคนในวังก็ยากยิ่งนัก คนนับสิบนับร้อย......

เธอจนปัญญาแล้วจริงๆ ดังนั้นเธอจึงอยากให้ศิษย์ได้เห็นความจริงใจของตน เพียงแต่ศิษย์พี่รักและเอ็นดูตนเองบ้าง ตามใจตนเองบ้าง เรื่องที่เธอคิดไว้ก็อยากเป็นจริงได้ แต่ศิษย์พี่ของเธอ ตอนนี้แม้จะเป็นสายตาที่เป็นมิตรก็รู้สึกน่าตบ

ฉ่ายเวินไม่รู้ว่าตนควรทำอย่างไรแล้วจริงๆ และแน่นอนว่าเธอเกลียดหลี่อวิ๋นลี่มากกว่า

หากไม่ใช่หลี่อวิ๋นลี่ ตนต้องการความเย็นชาแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ หากไม่ใช่หลี่อวิ๋นลี่ ตอนนี้เธอยังคงเป็นฉ่ายเวินผู้สง่า เธอเกลียดผู้ชายคนนั้นที่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงา หากไม่ใช่เขา เธอก็ไม่ต้องลำบากใจอย่างตอนนี้

เหล่าองครักษ์มองฉ่ายเวินอย่างชอบใจ และยังคงตบหน้าเธอไม่หยุด แม้สีหน้าเธอเริ่มโหดร้าย แม้เธอขู่ว่าจะเอาชีวิตของพวกเขา แต่พวกเขาจะสนใจเรื่องเหล่านี้ทำไมกัน พวกเขารู้เพียงแค่นี่เป็นโอกาสที่พวกเขาจะสามารถแก้แค้นแทนชูเซี่ยได้

รอจนเหล่าองครักษ์ตบตนเหนื่อย พวกเขาจึงปล่อยมือ แต่ฉ่ายเวินลงไปกองกับพื้นเหมือนตุ๊กตาผ้าที่ไรชีวิต ไม่มีใครสังเกตเห็นน้ำตาของฉ่ายเวิน

นี่เป็นคำสั่งจากศิษย์พี่ ไม่น่าเชื่อว่าศิษย์พี่จะให้คนมาตบตน

เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนแมลงเม่า บินเข้าหาเขาโดยไม่สนใจจุดยืนของตน ไม่สนใจความเป็นความตายของตน แต่เขาก็ไม่หวั่นไหวเลยสักนิด สิ่งที่เขาเห็นก็มีเพียงความดีของชูเซี่ยเท่านั้น แม้แต่ความชั่วที่ชูเซี่ยได้ก่อก็กลายเป็นความดี แต่สิ่งที่ตนทำมาทั้งหมดนี้ เขาล้วนไม่สนใจเลย

“ศิษย์พี่ สักวันหนึ่งเจ้าจะรู้ว่า คนที่รักเจ้าที่สุดบนโลกใบนี้คือข้า ชูเซี่ยจะมาเทียบกับข้าได้อย่างไรกัน” ฉ่ายเวินจับหน้าของตนเบาๆ มุมปากเต็มไปด้วยแผล แต่ตอนที่มองไปทางพระตำหนักฉ่ายเหว่ย ความลึกซึ้งในสายตาก็ไม่ลดลงเลย

ไม่ว่าศิษย์พี่จะทำอะไรตน ฉ่ายเวินยังคงเชื่อว่าเป็นเพราะศิษย์พี่หลงเสน่ห์ของชูเซี่ย เธอเชื่อว่าสักวันศิษย์พี่จะเห็นความดีของตน

แต่ฉ่ายเวินคิดไม่ถึงว่า เมื่อตนเดินเข้าไปในตำหนัก คนที่พบจะเป็นหลี่อวิ๋นลี่ที่ใบหน้าเหนื่อยล้าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในตำหนัก และกำลังดื่มน้ำชาอย่างสบายใจ

เมื่อคิดถึงแผนของตน และมองดูคนที่อยู่ตรงหน้า สายตาของฉ่ายเวินมีแต่ความโกรธกริ้ว พลันตะโกนใส่หลี่อวิ๋นลี่ทันทีว่า “เจ้ามาทำอะไร ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า”

“อะไรคือที่นี่ไม่ต้อนรับข้า ที่ของเจ้าหญิงอวี๋นซึนเป็นของข้า หากไม่ใช่ข้าเจ้าจะสามารถเข้าวังมาตามหารักแท้ของเจ้ารึ ไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรเลยจริงๆ” หลี่อวิ๋นลี่มองฉ่ายเวินอย่างมีความสุข แต่ความโมโหในดวงตาคู่นั้นกลับไม่สามารถปิดไว้ได้

“เขาว่ากันว่าคนเจ้าเล่ห์มีที่หลบซ่อนตัวมากมาย ตำหนักในของหลี่เฉินเย่น ห้องทรงพระบรรทมของเจ้าหญิงอวี๋นซึนนี้ก็คือที่อยู่ที่สุดท้ายของข้า” หลี่อวิ๋นลี่พูดอย่างตรงไปตรงมา พูดจบก็เดินไปหาฉ่ายเวินอย่างช้าๆ มองดูใบหน้าใต้ผ้าคลุมของเธอ พลันพูดขึ้นอย่างผิดหวังว่า “หากหน้าของเจ้าไม่ได้เป็นอย่างตอนนี้ รวมไปถึงเจ้าหญิงอวี๋นซึนอย่างเจ้า ก็เป็นแค่ของเล่นบนเตียงข้า”

“หลี่อวิ๋นลี่ เจ้ากำลังฝันอยู่รึ ข้าเป็นของศิษย์พี่ ข้าเป็นของศิษย์พี่เพียงผู้เดียว เจ้าอย่าพูดเหลวไหล” ฉ่ายเวินรีบแย้ง และรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย ตามที่หลี่อวิ๋นลี่พูด ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหลังของแคว้นหนานจ้าวหรือสถานะเจ้าหญิงอวี๋นซึน ล้วนมาจากหลี่อวิ๋นลี่ทั้งนั้น เธอไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นของเล่นของหลี่อวิ๋นลี่ คนที่เธอรักมีเพียงศิษย์พี่เท่านั้น หลี่อวิ๋นลี่เป็นใคร จะมามีสิทธิ์ในตัวเธอได้อย่างไรกัน

“เจ้ารีบร้อนอะไร ข้าเคยบอกว่า ใบหน้าเจ้าในตอนนี้ ข้าไม่รู้สึกสนใจเลยแม้แต่น้อย” หลี่อวิ๋นลี่เห็นฉ่ายเวินร้อนรน รอยยิ้มบนใบหน้าพลันชัดกว่าเดิม เพียงแต่คำพูดยังคงโหดร้าย เมื่อฉ่ายเวินได้ยินพลันเปลี่ยนสีหน้าในทันที แต่คำพูดที่จะไล่หลี่อวิ๋นลี่นั้น เธอกลับพูดไม่ออก

สิ่งสำคัญที่ศิษย์พี่จะรักและเอ็นดูตนคือตนอยู่ในวัง ตนคือหรูกุ้ยเฟย แต่ฉ่ายเวินไม่มั่นใจว่า หากตอนนี้ตนทำให้หลี่อวิ๋นลี่โกรธ เขาจะพูดเรื่องที่ตนเป็นเจ้าหญิงอวี๋นซึนตัวปลอมออกไปหรือไม่ เธอรู้ดีว่า หลี่อวิ๋นลี่ยังมีอำนาจในราชสำนัก เธอไม่รู้ว่าหากเขาโกรธขึ้นมาจริงๆ ตนจะยังสามารถ......