ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 661

สรุปบท ตอนที่ 661 การพบเจอที่โชคร้าย: ชายาเกิดใหม่ของข้า

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 661 การพบเจอที่โชคร้าย – ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บท ตอนที่ 661 การพบเจอที่โชคร้าย ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 661 การพบเจอที่โชคร้าย

ก่อนที่องค์หญิงเวินซือจะเดินเข้าไปในร้านขายของเล่นกับเชียนซานและเซวียนเอ๋อ ก็เห็นหลี่เฉินเย่นเลือกหยิบของเล่นอยู่ที่นั่นอย่างตั้งอกตั้งใจ ลู่กงกงเอ่ยอันใดบางอย่างกับเขา

      

องค์หญิงเวินซือเพียงเห็นใบหน้าด้านข้างของเขา แต่รอยยิ้มอบอุ่นราวกับดวงอาทิตย์ที่ทำให้นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างลึกลับ

      

"องค์หญิงเพคะ ครั้งที่แล้วเฉิงเอ๋อชอบหน้ากากลิงที่เราซื้อมามากเพคะ ครั้งนี้เราซื้อหน้ากากหมูให้เขาอีกครั้งพระองค์ดูเถิด หน้ากากหมูน่ารักมากเพคะ" เมื่อยามที่เซวียนเอ๋อเอ่ยนางก็เอื้อมมือออกไปหยิบหน้ากากหมูที่อยู่ไม่ไกล แต่มือของนางยังไม่ทันแตะหน้ากากอันนั้น ก็ถูกลู่กงกงหยิบไป รอให้องค์หญิงเวินซือและเซวียนเอ๋อหันมามองพวกเขา ลู่กงกงกำลังเอ่ยกับหลี่เฉินเย่น เจ้านายน้อยเนี่ยนอี้ชอบสิ่งของอ้วน ๆ เขาจะต้องชอบหน้ากากหมูตัวนี้แน่นอน

“เจ้านี่มันจริงๆเลย หน้ากากชิ้นนี้พวกข้าเห็นก่อน เหตุใดเจ้าจึงแย่งของของพวกข้าไป” เมื่อเซวียนเอ๋อเห็นลู่กงกง ความโกรธในใจของนางก็ปะทุขึ้นมา โดยเฉพาะในเพลาที่ลู่กงกงมองไปยังหลี่เฉินเย่นด้วยท่าทีที่ขมวดคิ้ว ทำให้นางรู้สึกว่าการที่เขาทำเช่นนี้คือความตั้งใจ

“เจ้ากำลังดูอยู่หรือ ถ้าเช่นนั้นข้าก็ให้เจ้า ลู่กงกงเพิ่งจะมองเห็นเซวียนเอ๋อ แน่นอนว่าเขาก็เห็นองค์หญิงเวินซือด้วยเช่นกัน วาจาของลู่กงกงเพิ่งเอ่ยจบ เขาก็ยอมยืนหน้ากากชิ้นนั้นไปที่ด้านหน้าของเซวียนเอ๋อแต่โดยดี อีกทั้งยังมองไปยังองค์หญิงเวินซือด้วยการเจรจาที่ดี

ในเพลาที่เซวียนเอ๋อเอ่ยปาก หลี่เฉินเย่นก็หมุนศรีษะกลับมา ดวงตาของเขาจ้องมองชูเซี่ยตาเป็นประกาย และความรู้สึกในดวงตาของเขาหลงใหลอย่างไร้อย่างอาย

“นี่....” เดิมทีเซวียนเอ๋อเตรียมตัวที่จะทำสงครามกับพวกเขาแล้ว แต่เมื่อเห็นลู่กงกงยอมจำนนอย่างรวดเร็วเช่นนี้ นางจึงตกตะลึง

“ถ้าหากว่าพวกเจ้ากำลังดูอยู่ ข้าก็ให้พวกเจ้าก่อน เจ้านายของข้าก็มิใช่ผู้ที่ชอบแย่งของของผู้ใด ใช่หรือไม่พะยะค่ะ?” เมื่อเอ่ยจบเขาก็รีบร้อนดึงชายอาภรณ์ของหลี่เฉินเย่น ในใจของเขาค่อนข้างวิตกกังวล เกรงว่าหลี่เฉินเย่นจะพลาดโอกาสพูดคุยกับนายหญิงชูเซี่ย

ลู่กงกงทำให้หลี่เฉินเย่นดึงสติกลับมา แต่เขากลับมิรู้ว่าลู่กงกงเอ่ยอันใด เพียงแต่ส่งยิ้มไปให้องค์หญิงเวินซือด้วยท่าทีที่เคอะเขิน

“คิดไม่ถึงว่าพระองค์ก็มาซื้อของเล่นให้เด็กน้อยเช่นเดียวกัน” องค์หญิงเวินซือพูดคุยกับหลี่เฉินเย่นด้วยรอยยิ้ม หลี่เฉินเย่นจ้องมองรอยยิ้มที่ไม่แยแสของชูเซี่ย ในใจของเขาราวกับไฟลุก แต่หลี่เฉินเย่นกลับไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยอันใดออกไป เขาค้นพบว่าในเพลาที่ตนเองอยู่ต่อหน้าชูเซี่ย เขามิรู้ว่าควรจะทำเช่นไร

เมื่อลู่กงกงเห็นว่าหลี่เฉินเย่นทำได้เพียงยิ้มและไม่พูดอันใด เขาก็ค่อนข้างรีบร้อน เขาดึงชายอาภรณ์ของหลี่เฉินเย่นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังมิมีปฏิกิริยาโต้ตอบ

“เจ้านายน้อยของพวกกระหม่อมคือเจ้านายที่พวกเราพามา อย่าพูดว่าของเล่นของเจ้านายน้อยเลย แม้แต่อาภรณ์และของกินเจ้านายของพวกกระหม่อมก็ล้วนเคยเอ่ยถาม” ลู่กงกงเอ่ยกับชูเซี่ย เขาต้องการให้องค์หญิงเวินซือรู้ว่าเจ้านายของเขาไม่ง่าย เขารู้ดีว่านายหญิงเป็นห่วงเจ้านายมาก ถ้าหากรู้ว่าเจ้านายทำอันใดให้แก่เจ้านายน้อยเนี่ยนอี จักต้องซาบซึ้งใจเป็นแน่

“เจ้านายของพวกเจ้าเป็นบิดาที่ดีจริงๆ” องค์หญิงเวินซือเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปเอ่ยกลับเซวียนเอ๋อ “นำหน้ากากนั้นให้พวกเขาเถิด พวกเขาเห็นก่อน”

“เจ้านายเพคะ แต่ทว่าเฉิงเอ๋อชอบหน้ากากมากที่สุด พระองค์ก็รับปากกับเขาแล้วว่าจะซื้อให้เขาอีกอันนึง ครั้งนี้พวกเรา....” เซวียนเอ๋อไม่เต็มใจที่จะนำหน้ากากในมือมอบให้ผู้อื่น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง

“เจ้านายเพคะ เนี่ยนอีก็ชอบหน้ากากหมูน้อยนี้เช่นกันเพคะ” เชียนซานเอ่ยที่ข้างใบหูขององค์หญิงเวินซือเสียงเบา

เชียนซานไม่รู้ว่าวาจานี้ของตนเองมีน้ำหนักเพียงใด อย่างไรเสียเพลานี้ในใจของนายหญิง เนี่ยนอี้ก็มิได้เกี่ยวข้องอันใดกับนาง

“อื้ม ในเมื่อเด็กน้อยทั้งสองชอบ ถ้าเช่นนั้นก็ขอบพระทัยพวกท่าน” เมื่อคิดถึงใบหน้าที่น่ารักของเนี่ยนอี ใบหน้าขององค์หญิงเวินซือก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

ไม่ง่ายเลยที่เชียนซานจะช่วยพวกเขาโดยการพานายหญิงชูเซี่ยออกมาจากจวนองค์รัชทายาท โอกาสดีเช่นนี้ยากที่จะเกิดขึ้นอีก แล้วจะปล่อยให้พลาดไปเช่นนี้หรือ?

โดยปกติแล้วเขาเป็นเจ้านายที่ชาญฉลาดและกล้าหาญ แต่เพลานี้เหตุใด....

“เจ้านายขอรับ ถ้าหากพระองค์ยังมีเอ่ยอันใดอีก นายหญิงจะไปจริงๆแล้วนะขอรับ ครั้งหน้าที่จะได้พบนางอีกก็มิรู้ว่าเมื่อใด” ลู่กงกงตะโกนออกมาอย่างรีบร้อน

หลี่เฉินเย่นปรายตามองลู่กงกง หลังจากนั้นจึงเอ่ยกับแผ่นหลังขององค์หญิงเวินซือ “องค์หญิงเวินซือ รอสักครู่เถิด”

เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของหลี่เฉินเย่น ดวงตาของนางก็มีประกายที่คมชัดออกมา ถ้านางจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ นางมิได้บอกฐานะของตนเองแก่เขา แล้วเหตุใดเขาจึงรู้

“ท่านตรวจสอบข้าอย่างนั้นหรือ?” องค์หญิงเวินซือหมุนศรีษะกลับมา เพลาที่จ้องมองไปยังหลี่เฉินเย่น อารมณ์ของนางเต็มไปด้วยความห่างไกล แปลกแยกไปจากบุคคลเมื่อครู่อย่างกับคนละคน

“ข้า....” หลี่เฉินเย่นไม่รู้ว่าจะเอ่ยอันใดออกมา เขามีถ้อยคำเป็น 1000 อยากจะเอ่ยกับนาง แต่ทว่าเพลานี้กลับเอ่ยมิออกแม้แต่ประโยคเดียว

เขารู้ดีว่าเพลานี้องค์หญิงจะมิรับฟังประสบการณ์ความรู้สึกของตนเอง เพลานี้นางปิดกั้นตนเอง เพราะว่าตนเองนั้นรู้จักตัวตนของนาง

“ข้ามิได้มีเจตนาร้าย” สิ่งเดียวที่หลี่เฉินเย่นสามารถเอ่ยออกมาได้ก็คือสิ่งนี้ เขาตรวจสอบนางเป็นเพราะอยากเข้าใจนาง และเพื่อปกป้องนาง แต่ทว่าวาจาเช่นนี้ถ้าหากเขาเอ่ยออกมาองค์หญิงเวินซือก็คงจะมิเชื่อ

“ข้ามิชอบ” องค์หญิงเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ในหัวใจของเขายังมีคำอธิบายนับ 100 นับ 1000 แต่ก็ไร้ประโยชน์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า