ตอนที่ 662 ความงุนงงขององค์หญิงเวินซือ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชายาเกิดใหม่ของข้า
ตอนนี้ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 662 ความงุนงงขององค์หญิงเวินซือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 662 ความงุนงงขององค์หญิงเวินซือ
“ข้ามิได้มีเจตนาร้าย ข้า...” หลี่เฉินเย่นยังคงอยากจะอธิบาย เขาจะทำร้ายชูเซี่ยได้อย่างไร นั่นคือคนที่เขารักที่สุด เขายอมสละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องนาง แต่ทว่าเหตุผลนี้กลับไม่มีวิธีที่จะบอกกับองค์หญิงเวินซือ ถ้าหากเอ่ยออกไปเกรงว่าจะทำให้นางตกใจ
“ในเมื่อไม่มีเจตนาร้าย ถ้าเช่นนั้นต่อไปก็อย่าทำเรื่องราวเช่นนี้อีก” องค์หญิงเวิรซือเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไป หลี่เฉินเย่นจ้องมองนางก่อนจะรีบก้าวตามไปสองสามก้าว แต่ในที่สุดกลับหยุดฝีเท้าของตนเอง
เขาอยากจะเข้าใกล้นาง อยากจะจูงมือของนาง อยากจะจุมพิต นางอยากจะดึงนางเข้ามากอด เพราะว่านางก็คือชูเซี่ยของตนเอง
แต่ทว่าเขากลับทำอันใดมิได้ เขาทำได้เพียงจ้องมองนางเดินจากไป เดินจากตนเองไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ลู่กงกงจ้องมองผู้ที่เดินจากไปแสนไกล ใบหน้าผิดหวังของเขาเอ่ยกับหลี่เฉินเย่น “ฮ่องเต้พะยะค่ะ โอกาสดีเช่นนี้พระองค์พลาดเสียแล้ว มันช่าง....”
“เสี่ยวลู่จื่อ แค่เพียงได้เห็นนางก็นับว่ามิเลวแล้ว” หลี่เฉินเย่นเอ่ยปลอบใจลู่กงกง และราวกับเอ่ยปลอบใจตนเอง
“แต่ทว่าฮ่องเต้ พระองค์และนายหญิงล้วนมิได้เอ่ยอันใดต่อกัน พระองค์...” วาจาของเขาดูเหมือนว่ามิมีวิธีที่จะแสดงความผิดหวังในเพลานั้นออกมา แต่เขากลับไม่คิดว่าเจ้านายของตนเองในเวลาที่สำคัญเช่นนี้กลับมิยอดเยี่ยม
“ข้ามีวาจามากมายที่อยากจะเอ่ยกับนาง แต่ทว่าถ้อยคำเป็น 1,000 เป็น 10,000 นั้นล้วนต้องการอยากจะพูดกับชูเซี่ย มิใช่อยากจะพูดกับองค์หญิงเวินซือ
“แต่ทว่าองค์หญิงเวินซือก็คือนายหญิงชูเซี่ย พระองค์....” ลู่กงกงไม่เข้าใจ เหตุใดในเวลาที่เจ้านายของตนเองพบกับนายหญิง กลับกลายเป็นผู้ที่การสื่อสารติดขัดเช่นนี้?
“นางมิรู้ว่าตนเองคือชูเซี่ย ดังนั้นคำพูดเหลวไหลทุกคำของข้าล้วนจะทำให้นางขับไล่ ยิ่งนานวันนางยิ่งมิชอบข้า ข้า....” หลี่เฉินเย่นไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี ในใจของเขากังวลเป็นอย่างมาก เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะสู่ขอองค์หญิงกลับไปต้าเหลียง แต่ทว่าเค้ารู้ดีการที่ให้ความไม่ยุติธรรมกับองค์หญิงเช่นเดียวกับที่ทำกับชูเซี่ยนั้นไม่ดีต่อตนเอง เรื่องราวที่เขาต้องทำนั้นยังมีอีกมากมายนัก เขาทนไม่ได้ที่จะทำให้องค์หญิงเวินซือต้องได้รับความทุกข์ ดังนั้นเขาทำได้เพียงดื่มดำกับความรู้สึกในหัวใจของตนเองและเดินเข้าใกล้นางทีละน้อย หลังจากนั้นค่อยๆกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของนางที่ขาดมิได้
“ฮ่องเต้พะยะค่ะ องค์หญิงเวินซือออกมาจากจวนองค์รัชทายาทนับครั้งได้ ทุกครั้งพระองค์ล้วนเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเมื่อใดพระองค์จักสู่ขอองค์หญิงเวินซือกลับต้าเหลียวได้เล่าพะยะค่ะ พระองค์ไม่รีบร้อน องค์หญิงจิงโม่และองค์รัชทายาทฉองเหลาล้วนรอคอยท่านแม่ของตน เจ้านายน้อยเนี่ยนอีก็ต้องการท่านแม่ เกรงว่าพวกเขาจะรอมิไหวแล้ว พวกเขา....” ลู่กงกงเอ่ยโน้มน้าวใจหลี่เฉินเย่น สิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุดก็คือฮ่องเต้จะรีบเร่งทำให้สำเร็จ
หลี่เฉินเย่นจ้องมองลู่กงกง พลางบอกกับเขาอย่างเคร่งขรึม “ข้ารีบเร่งที่จะสู่ขอชูเซี่ยกลับวังมากกว่าผู้ใด”
“ถ้าเช่นนั้นฮ่องเต้ ขั้นตอนต่อไปพวกเราจะทำเช่นไรพะยะค่ะ? รอคอยให้องค์หญิงเวินซือออกจากจวนต่อไปหรือ? หรือว่า....”
“คอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยออกมาและหมุนตัวเดินออกไปทางประตูร้าน รอให้ออกจากประตู เขายังมิลืมที่จะมองไปยังทิศทางที่องค์หญิงเวินซือจากไป ถึงแม้ว่ารู้ว่าองค์หญิงจากไปแล้ว แต่ทว่าเขายังคงคาดหวังที่จะได้เห็นนางแม้จะเป็นแผ่นหลังหรือเพียงแค่ครั้งเดียว
ถึงแม้ว่าฮ่องเต้เอ่ยว่ารอดูสถานการณ์อย่างเงียบเชียบ แต่ลู่กงกงกลับยังคงรีบร้อน ทุกวันที่เชียนซานกลับมา เขาจะรีบไปถามไถ่ถึงสถานการณ์ขององค์หญิงเวินซือ ทุกครั้งล้วนเกลี้ยกล่อมให้เชียนซานพาองค์หญิงออกมาด้านนอก เพียงแต่ว่าเชียนซานกลับไม่รับปาก ทุกครั้งเขาล้วนนำข่าวสารที่ได้จากเชียนซานไปบอกหลี่เฉินเย่น และทุกครั้งอารมณ์ความรู้สึกของหลี่เฉินเย่นล้วนเย็นชา มีเพียงแค่สายตาของเขาเท่านั้นที่มีสีสันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ในราชวงศ์มีพี่น้องฮ่องเต้และพวกเซียวเซี่ยงคอยช่วยเหลือฉองเหลา คืนวันที่หลี่เฉินเย่นอยู่ที่แคว้นจื่อสวี้ผ่านไปอย่างสะดวกสบายและอิสระ เพลานี้เขารู้ดีว่าจุดมุ่งหมายของตนเองคืออันใด ดังนั้นเขาทำได้เพียงแค่รอ รอโอกาสนั้นมาถึง รอว่าจะเดินใกล้เข้าไปในชีวิตของชูเซี่ยอีกขั้น
แต่ทว่าเพลานี้ราชวงศ์ของแคว้นจื่อสวี้มิค่อยสงบ องค์รัชทายาทป่วยหนัก ฮ่องเต้ที่สามก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บหนักและยังคงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นี่ทำให้องค์หญิงเวินซือค่อนข้างเหนื่อยล้า อย่างไรเสียนางก็มิเคยสนใจเรื่องการเมือง แต่ทว่าเพื่อพี่ชายองค์รัชทายาท เพื่อเฉิงเอ๋อ เพื่อท่านพ่อ นางจึงต้องรับภาระหน้าที่นี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นแม้ว่าตนเองจะเต็มใจหรือไม่ก็จำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับงานเลี้ยง และต้องเผชิญหน้ากับชายที่มีนิสัยเช่นเดียวกับสวีฉางชิง....
คิดไปคิดมาองค์หญิงเวินซือก็รู้สึกปวดศรีษะ
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้องค์หญิงเวินซือปวดศีรษะก็คือเรื่องราวไม่สบายใจที่นางไม่ได้เอ่ยกับผู้ใด นางมิสามารถคบค้าสมาคมกับผู้ชายได้
นางสามารถคบค้าสมาคมได้กับเพียงท่านพ่อ ท่านพี่องค์รัชทายาท ท่านอาจารย์และเหล่าองครักษ์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะเข้ากับสามีในอนาคตและคนที่ตนเองรักได้อย่างไร ความรู้ความเข้าใจนี้นางรู้ได้จากวันที่พูดคุยกับหลี่เฉินเย่นในร้านขายของเล่น นางไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยอันใดกับเขาจริงๆ....
แต่ทว่านางกลับเข้าใจว่า สายตาที่จ้องมองนางอย่างตรงไปตรงมาและกระตือรือร้นของเขานั้นมีความสนใจในตนเอง
แต่นางไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับมันเช่นไร ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดรู้ วันนั้นเซวียนเอ๋อเริ่มต้นเดินจากไปก่อน แท้จริงแล้วเป็นการช่วยตนเองออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนั้น
เพราะว่าปัญหาที่กวนใจนี้ทำให้ใบหน้าขององค์หญิงเวินซือเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วไม่สามารถหลบหลีกจากสายตาของเซวียนเอ๋อและเชียนซานได้
ในที่สุดก็นำความสับสนและความลำบากใจของนางเอ่ยออกมาตกตะลึงนางคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงจะมีปัญหาเช่นนี้กวนใจแต่ทว่าเหมือนว่านางก็มีเคยมีประสบการณ์ในด้านนี้
เชียนซานเป็นผู้เดียวที่มีประสบการณ์ในด้านนี้ แต่นางกลับไม่อยากจะเชื่อใบหูของตนเอง หลังจากที่ถูกองค์หญิงเวินซือและเซวียนเอ๋อจ้องมองเนิ่นนาน นางจึงเอ่ยออกมาเสียงเบา “ก่อนหน้านี้องค์หญิงมิเคยมีความสัมพันธ์กับชายใดในเชิงชู้สาวมาก่อนหรือเพคะ? ไม่เคยชอบพอกับผู้ใดหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...