ตอนที่ 70 พี่น้องบาดหมางกัน
เมื่อมีชูเซี่ยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้สภาพจิตใจของหลี่เฉินเย่นดีขึ้นมาก เมื่อสภาพจิตใจดีร่างกายก็สมานแผลได้เร็วขึ้นมาก
ด้านชูเซี่ยก็ดูเหมือนว่านางจะต้องทำการย้ายบ้านอีกครั้งเสียแล้ว
เมื่อกลับมาถึงจวนแม่ทัพ นางก็บอกเล่าเรื่องทั้งหมดให้จูฟางหยวนฟัง จูฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย “ถ้ารู้ว่าจะกลายเป็นเช่นนี้เจ้าก็ไม่ควรปิดบังชื่อของตนเองตั้งแต่แรก”
ชูเซี่ยรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง “ข้าก็ไม่ได้ปิดบังชื่อของตนเองเสียหน่อย ทว่าเรื่องบ้างเรื่องเราก็ไม่อาจคาดถึงจริงๆ ข้าเองก็จนปัญญา”
จูฟางหยวนเอ่ย “ตอนนี้เจ้ายอมหลับไปอยู่กับเขา ถ้าภายภาคหน้าเจ้าตายไปเขาจะทำอย่างไรเล่า เจ้าอย่าลืมนะว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาเขามีสภาพอย่างไร เขาดูเป็นคนเสียสติ ไม่สิ เขาเป็นคนเสียสติอย่างไม่ต้องสงสัย”
ชูเซี่ยนั่งอยู่ที่เก้าอี้ เท้าคางมองอีกฝ่าย “ตอนนี้ข้าไม่กล้าคิดไปไกลถึงเพียงนั้นหรอก ข้าแค่รู้เพียงว่าชีวิตข้าสั้นนัก อยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเขาอย่างสงบสุขมากกว่า”
“ตอนที่เจ้าควรคิดมากกลับไม่รู้จักคิด แต่ยามที่ไม่ควรคิดมากเจ้ากลับคิดมากเสียอย่างนั้น หลี่เฉินเย่นเอ๋ย ดูท่าว่าภายหน้าเจ้าคงต้องนั่งกอดเข่าร้องไห้เสียแล้ว” จูฟางหยวนกล่าวอย่างไร้อารมณ์
“นี่ อย่าพูดจาร้ายกาจขนาดนี้ได้หรือไม่ บางทีข้าอาจจะไม่ตายก็ได้ บางทีอาจจะเป็นเช่นที่เขาพูด อาจมีท่านเทวดาลงจากฟ้ามาช่วยข้า ข้าอาจจะอยู่กินกับเขาจนแก่เฒ่าไปเลยก็ได้” ชูเซี่ยแสร้งทำเป็นมองโลกในแง่ดี
“ได้ข่าวว่าอาจารย์ของเจ้าก็เป็นเทวดาไม่ใช่หรือไง หากไม่ได้ยาวิเศษที่เขามอบให้เจ้า ป่านนี้เจ้าก็คงตายไปนานแล้ว” จูฟางหยวนนั่งอยู่ตรงหน้านาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น “แต่ไม่ว่าอย่างไร พวกข้าก็ต้องรู้จักเตรียมพร้อมล่วงหน้า ข้าเคยได้ยินมาว่าจูเก๋อหมิงเคยคิดค้นยาชนิดหนึ่ง สามารถทำให้คนเสียความทรงจำได้ เช่นนี้ดีหรือไม่รอให้เจ้าใกล้จะตาย เจ้าก็มอบยาชนิดนั้นให้เขากินก็แล้วกัน”
ชูเซี่ยส่ายหน้า “เจ้าโง่หรือ หากมียาชนิดนี้อยู่จริงๆ จูเก๋อหมิงก็คงใช้มันกับท่านอ๋องตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ปล่อยให้สหายรักของตนเองต้องทนทุกข์ทรมานนานถึงเพียงนี้หรอก”
จูฟางหยวนยักไหล่ “พูดก็พูดเถิด ข้าก็คิดว่าจูเก๋อหมิงเดิมก็คงไม่ใช่คนดีอะไร เขาหลงรักเจ้าอยู่นะรู้หรือไม่”
“เหตุใดคนที่ตกหลุมรักข้าถึงไม่ใช่คนดีกันเล่า ข้าคิดว่าคนที่หลงรักคนอย่างข้าล้วนเป็นคนดีทั้งนั้น ไม่เหมือนเจ้า เจ้าน่ะไม่ใช่คนดี ยังไม่รีบช่วยข้าเก็บข้าวของอีกหรือ นี่ก็เย็นมากแล้ว ฝนก็ทำท่าว่าจะตกเสียด้วย หลายวันมานี้ท้องฟ้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ ฝนตกลงมาราวกับฟ้ารั่ว” ชูเซี่ยชะเง้อมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีนอกหน้าต่าง ค่ำเมื่อวานฝนก็เพิ่งจะหยุดตกไปแท้ๆแต่มาถึงตอนนี้ท้องฟ้ากลับอึมครึมอีกแล้ว ทั้งๆที่สารทฤดูอากาศควรจะแห้งถึงจะถูก มีอย่างที่ไหนฝนตกลงมามากมายถึงเพียงนี้
“ของของเจ้าไม่ได้มีมากมายอะไร มีแค่เสื้อผ้าสองชุด อ่อใช่แล้ว ซับในของเจ้าซักแล้วยังไม่แห้งดี เจ้าก็อย่าเพิ่งเอากลับไปก่อน ไว้แห้งแล้วข้าค่อยนำมันไปมอบให้เจ้าก็แล้วกัน” จูฟางหยวนเอ่ย
“เจ้าซักให้ข้าหรือ” ชูเซี่ยเดาะลิ้น
จูฟางหยวนยกมือเขาไปที่หน้าผากอีกฝ่าย “ฝันหวานเกินไปแล้ว เห็นข้าเป็นคนที่จะช่วยหญิงสาวซักซับในหรืออย่างไรกัน โดยเฉพาะหญิงสาวที่มีประจำเดือนเช่นเจ้า ว่าก็ว่าเถิด ประจำเดือนเจ้าก็มาหลายวันเกินไปแล้วไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างไรไปหาหมอตรวจดีหรือไม่ ข้ากลัวว่าเจ้าจะเลือดไหลหมดตัวเสียก่อน”
ชูเซี่ยเตะเขาไปแรงๆหนึ่งที “เจ้าบ้า จะไปหาหมอทำไมกันเรื่องแค่นี้ เจ้ามันโง่ ข้าเองก็เป็นหมอจะไปหาหมออีกทำไมกัน มันอาจจะเป็นเพราะวิญญาณกับร่างนี้เข้ากันไม่ได้ก็เป็นได้”
จูหางหยวนหมดคำพูด “ข้าไม่อยากเอ่ยถึงก็ไม่ได้ ผ้าอนามัยที่เจ้าทำขึ้นมาล้วนใช้จนหมดเกลี้ยงแล้ว”
ชูเซี่ยหมดอารมณ์จะโต้เถียงกับอีกฝ่าย “ช่างเถิด ไม่อยากเถียงกับเจ้าแล้ว หน้าข้าไม่หนาถึงเพียงนั้น ข้าจะไปแล้ว” นางยกห่อสัมภาระขึ้นมากอดไว้ “พรุ่งนี้เจ้าก็ให้เสี่ยวฮวาส่งข้าวของที่เหลือของข้าไปก็แล้วกัน ยังมีอีกให้เสี่ยวฮวานำกองสำลีและอุปกรณ์เย็บปักสำหรับทำผ้าอนามัยมาให้ข้าด้วย พรุ่งนี้รีบส่งมาเล่า ข้าเกรงว่าครั้งนี้ประจำเดือนคงมาเกือบครึ่งเดือนเชียวล่ะ”
“เจ้าถ่านกับนายท่านเหมาเจ้าไม่พาไปด้วยหรือ”
“ไม่พาไป ทิ้งไว้ให้เจ้าเลี้ยงดีกว่า อีกอย่างเจ้าตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวน่าจะเหงา พวกมันจำเป็นกับเจ้ามากกว่าข้าเสียอีก” ชูเซี่ยกระชับสัมภาระก่อนจะหันกายเดินจากไป
จูฟางหยวนทิ้งตัวนั่งลงกับเก้าอี้ ตัวคนเดียว? ใช่แล้ว เขาเหลือตัวคนเดียวแล้วจริงๆ คำพูดสุดท้ายของชูเซี่ย เป็นคำพูดที่ราวกับธนูปักตรงกลางใจเขา อ้า แล้วชีวิตที่เหลือของเขาจะทำเช่นไรดี
เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋อง หัวใจของชูเซี่ยก็เต้นแรงขึ้น เธอเกิดใหม่ถึงสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งก็ล้วนต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ทำให้รู้สึกราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของเธออย่างไรอย่างนั้น
อาการบาดเจ็บของหลี่เฉินเย่นดีขึ้นมากแล้ว เขาให้ชูเซี่ยพักอาศัยอยู่ที่เรือนจื่อยี่แห่งนี้ ส่วนตนเองก็ย้ายไปอยู่เรือนที่ถัดไปอีกหลังหนึ่ง แต่ก็ยังอยู่ใกล้กันมาก
โหร่วเฟยก็เคยมาเยี่ยมเยียนชูเซี่ยครั้งหนึ่ง นางเข้าใจว่าชูเซี่ยมาพำนักที่นี่ก็เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่หลี่เฉินเย่นดังนั้นนางจึงมาเพื่อเอ่ยปากขอบคุณกับอีกฝ่าย ทั้งยังกล่าวว่าหากมีอะไรต้องการให้นางช่วยก็จงเอ่ยปาก อย่าได้เกรงใจ เห็นโหร่วเฟยเป็นเช่นนี้ก็ทำให้นางอดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้
หลังจากที่หลี่เฉินเย่นหายดีเขาก็เป็นคนพาชูเซี่ยมาดูอาการฉ่ายเวินด้วยตนเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่ชูเซี่ยได้พบหน้าฉ่ายเวิน
สถานที่ที่ฉ่ายเวินอาศัยอยู่ค่อนข้างชื้น เพราะข้างนอกเรือนเป็นทะเลสาปกอปรกับที่หลายวันนี้มีฝนตกหนักลงมาทำให้อากาศบริเวณนี้เปียกชื้นอย่างยิ่ง
ยามที่ชูเซี่ยเห็นหน้าฉ่ายเวินครั้งแรกนางถึงกับตะลึงงันไปพักหนึ่ง เป็นเวลานานกว่าจะตั้งสติได้
ใต้หล้านี้ แท้จริงแล้วมีหญิงงามเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ หน้าของนาง รูปโฉมของนางล้วนไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ไม่มีส่วนใดที่ไม่งาม จมูกเล็กๆรั้นไร้รูขุมขน ริมฝีปากไม่หนาหรือบางเกินไปทั้งยังโค้งได้รูปสวยงาม ขนคิ้วจับเรียงกันได้อย่างเป็นระเบียบ ผิวของนางขาวซีดเล็กน้อย แต่ก็ขาวสว่างโปร่งใสซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากการที่ร่างกายนางไม่พบเจอแสงแดดมาเกือบสี่ปี
ชูเซี่ยถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ หลี่เฉินเย่นเอ่ยปากถามขึ้น “นางหลับไปเช่นนี้สี่ปีมาแล้ว ที่ยังอยู่ได้ทุกวันก็เพราะป้อนน้ำโสมให้นางดื่ม แต่ก่อนรูปร่างนางยังอวบอิ่มกว่านี้แต่ยามนี้กลับผอมจนเหลือแต่กระดูก ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”
ชูเซี่ยตรวจสอบอาการของนาง จึงได้รู้ว่าที่นางเป็นเช่นนี้เพราะออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงหัวสมอง แต่โชคดีที่หลายปีมานี้ร่างกายของนางได้รับโสมสรรพคุณดีมาโดยตลอด ดังนั้นร่างกายส่วนอื่นๆของนางจึงไม่ได้เสียหายไปด้วย
แต่เพียงแค่การฝังเข็มอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะรักษานางได้ จำเป็นต้องมีตัวยาบางตัวเข้ามารักษาควบคู่ด้วย
ชูเซี่ยหันไปหาหลี่เฉินเย่นข้างกาย “ข้าต้องปรึกษากับจูเก๋อสักหน่อย ท่านก็ไม่ต้องร้อนใจไปหรอก จะต้องมีวิธีรักษานางได้แน่”
หลี่เฉินเย่นกุมมือนางไว้ก่อนเอ่ยเสียงแหบ “นางเป็นเช่นนี้เพราะข้า ทุกค่ำคืนยามคิดถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ข้ายากจะสงบใจลงได้”
ชูเซี่ยปลอบใจเขา “ไม่มีใครคิดเช่นนั้นเสียหน่อย ความจริงแล้วหัวของข้าก็ยังจำภาพความทรงจำของหลิวหยิงหลงได้อยู่บ้าง นางไม่ใช่ผู้ที่ผลักฉ่ายเวินลงน้ำจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...