เจ็บ เจ็บที่หัว ตัวก็เจ็บ โดยเฉพาะความรู้สึกประหลาดที่ตีขึ้นจากท้องน้อยเป็นระลอกนั้น กำลังโจมดีกู้ชูหน่วนไม่หยุดหย่อน
เธอหนาวสั่นสะท้าน สายลับระดับท็อปและหมอยอดฝีมือระดับโลกแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างเธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง
ยังไม่ทันได้สติ ข้างหูก็มีเสียงพึมพำอย่างลำพองใจดังขึ้น
"ท่านพี่ อย่าได้โทษน้องเลยนะเจ้าคะ หากจะโทษคงต้อโทษที่ท่านพี่ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรม แถมยังหน้าตาอัปลักษณ์ เพียงเพราะเป็นคุณหนูสามจากฮูหยินใหญ่ ท่านพี่ถึงได้ถูกหมั้นหมายให้เป็นเจ๋ออ๋องเฟยตั้งแต่เด็ก คนที่สง่างามหล่อเหลาเช่นนั้น ไม่ใช่คนที่ท่านพี่จะคู่ควร"
"อี๋เหนียงได้พาคนจากจวนอัครเสนาบดีมาแล้ว ประเดี๋ยวผู้ชายพวกนั้นคงมาถึงเหมือนกัน ท่านพี่วางใจเถิด พิษเมามายพันกาลที่ท่านโดน ต้องทำให้ท่านสุขสมปางตายแน่"
ความทรงจำที่แปลกใหม่ทว่าคุ้นเคยทะลักเข้ามาในหัว กู้ชูหน่วนเดือดดาล เดือดดาลจนลุกเป็นไฟ
กระจอกงอกง่อย กล้าดีอย่างไรถึงได้วางแผนทำร้ายเธอ
"หลังจากวันนี้ผ่านไป ชาตินี้ท่านพี่ก็อย่าได้คิดจะอาจเอื้อมเจ๋ออ๋องอีก..."
ซี๊ด...
ม่านตาของกู้ชูหลันที่กำลังลำพองใจพลันหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง ก้าวเท้าถอยหลังอย่างห้ามไม่ได้
กู้ชูหน่วนที่ควรหมดสติเพราะฤทธิ์ของเมามายพันกาลกลับยืนขึ้นต่อหน้านางเสียงอย่างนั้น แถมยังส่งรอยยิ้มมีเลศนัยให้นาง ราวกับรอยยิ้มของอสุราจากนรกนั้น ชวนให้คนตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
เสียง "กรอบ" ดังขึ้น ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำได้อย่างไร นิ้วทั้งห้าจิกเกร็งเป็นกรงเล็บ กอบกุมลำคอของนางไว้ พละกำลังนั้นเหมือนดั่งทองแดงเหล็กกล้า จนนางไร้หนทางหนีรอด
"เจ๋ออ๋องน่ารังเกียจจะเอื้อมถึงข้าหรือไม่นั้น ก็ยังไม่แน่ แต่เจ้าน่ะหรือ ไม่มีโอกาสได้ตะเกียกตะกายหาเขาหรอก"
ท่าทางของกู้ชูหน่วนน่าเกรงขาม แววตามีแต่ความบ้าคลั่ง กู้ชูหลันสะพรึงกลัว
นางแพศยานี่สู้คนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
ไม่นาน นางก็ต้องตื่นตระหนก เพราะกู้ชูหน่วนคว้าเมามายพันกาลอีกขวดหนึ่งออกมาจากตัวนาง แล้วกรอกมันลงคอของนางจนหมดเกลี้ย แสยะยิ้มและทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง
"ของดีอย่างเมามายพันกาล จะให้ข้าเก็บเอาไว้ดื่มด่ำผู้เดียวได้อย่างไร"
"เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ..."
"เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าก็คิดจะทำเช่นนั้นแล"
นิ้วขาวเรียวยาวกดจุดชาของกู้ชูหลัน ปลดผ้าคลุมหน้าของนางอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะนำมาสวมคลุมทับใบหน้าของตัวเองแทน สายตาเหยียดหยามกวาดมองกู้ชูหลันที่ตื่นตระหนก ร่างทั้งร่างหายวับไปอยู่หลังเสาราวกับปลิวลม แววตาเย็นชามองบรรดาชายฉกรรจ์ที่ถูฝ่ามือไปมาอยู่ด้านนอก กำลังพากันเข้ามาใกล้ด้วยท่าทางวิตถาร
"ไม่ใช่ว่านางเป็นหญิงอัปลักษณ์หรอกรึ? เหตุใดถึงได้งามเช่นนี้?"
"สนใจทำไมเล่า ในเมื่อได้ทั้งเงินได้ทั้งคนงาม เหตุใดจะไม่ทำเล่า"
"หยุดนะ นางแพศยาที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่ พวกเจ้ารีบตามนางไป ข้าเป็นคนจ้างพวกเจ้าเอง อ๊ะ... หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะให้อี๋เหนียงของข้าฆ่าพวกเจ้าให้หมด... "
ยามราตรีลมพัดโบก ณ วัดร้างแห่งหนึ่ง เงาตะคุ่มของคนสองสามคนโยกไหวพร้อมกับส่งเสียงครวญคราง กำลังแสดงฉากที่ไม่น่ามองนัก
ไม่นาน คนกลุ่มใหญ่ก็แห่กันมาที่หน้าวัดร้าง เห็นได้ชัดว่าผู้นำหน้าสุดคืออัครเสนาบดีกู้
"ท่านอัครเสนาบดี บางที่คุณหนูสามอาจจะแค่คิดไม่ตก ถึงได้หนีออกจากจวนไปกับบ่าวรับใช้ หากนางคิดได้แล้วคงกลับมาเองขอรับ"
"ใช่ขอรับ ถึงคุณหนูสามจะ... แต่นางไม่ใช่คนไม่รู้ความ ไม่มีทางจะมี...กับบ่าวรับใช้ได้หรอกขอรับ... เอ่อ..."
ประตูใหญ่ถูกถีบจนเปิดออก ทุกคนต่างตื่นตะลึง สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้เปลี่ยนสลับไปมาราวกับทาด้วยสี
"สารเลว..."
เสียงตวาดดังลั่น ทุกคนคุกเข่าลงในทันใด
โดยเฉพาะอี๋เหนียง อนุภรรยา แม่นางจางที่ตาเบิกโพลง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เห็น
"นายท่านโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ หลันเอ๋อร์ไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้"
เพลิงราคะในตัวโหมกระพือขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนไม่มีกะใจจะดูต่อไป
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม