ตอนที่ 425 ฮ่องเต้สวรรคต
นี่เป็นครั้งแรกที่โล่หวินหลานเห็นการเปลี่ยนแปลงราชสำนัก และเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นการสวรรคตของฮ่องเต้ และนางก็จะได้เห็นฮ่องเต้ที่ต้องขึ้นครองราชย์คนต่อไป รวมถึงใช้ชีวิตกับฮ่องเต้
นางแทบไม่อยากจะเชื่อ กับความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้น
จ้าวกงกงเดินผ่านหน้าของนางไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก นางสนมด้านนอกร้องไห้กันเสียงดังระงบ ช่างเศร้าโศกเยี่ยงนัก
"ฮ๋องเต้สวรรคต!”
จ้าวกงกงพูดเขียนเสียงดัง และพูดซ้ำไปมาอยู่สามรอบ
ทุกอย่างเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีเสียงร้องไห้ระงมดังขึ้นอีกครั้ง
ฮ่องเต้เจียเฉิงแห่งแค้วนโม่ฉี สวรรคตในปีพุทธศักการาช412
หลังจากวันนี้ ทั่วทั้งแคว้นต้องร่วมไว้อาลัยหนึ่งเดือน
งดเว้นความบันเทิงทุกชนิด ขุนนางน้อยใหญ่ต้องมาร่วมไว้อาลัยและเฝ้าพระศพ จนกว่าจะสิ้นพิธีจึงจะสามารถกลับตำหนักหรือบ้านเรือนของตนได้ และห้ามไม่ให้มีพิธีมงคลใดๆ
ชาวบ้านเองก็ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งขัด ห้ามไม่ให้มีงานมงคลในยี่สิบเจ็บวัน และห้ามไม่ให้มีงานเลี้ยงรื่นเรืองในหนึ่งร้อยวัน ห้ามไม่ให้มีงานต่างๆในสี่สิบเก้าวัน
นับตั้งแต่วันที่สวรรคต วัดทั่วทั้งแคว้นต้องร่วมกันตีระฆังเป็นจำนวนสามหมื่นครั้ง
คล้ายกับเมืองหลวงนั้นถูกปรกคลุมด้วยเมฆหมอกครึ้ม ทุกบ้านเรือนในแคว้นร่วมไว้อาลัยใหักับฮ่องเต้เจียเฉิง
โม่ฉีหมิงหันหลังมา แล้วจับมือของโล่หวินหลานเอาไว้ เขาพยุงนางออกมา
โม่ฉีหมิงส่งโล่หวินหลานกลับไปยังตำหนัก ใบหน้าของเขาดูอิดโรยเหลือเกิน หลังจากที่เห็นว่านางกลับเข้าตำหนักอย่างปลอดภัย เขาก็เตรียมรถม้า แล้วเข้าวังหลวง
"เดินทางระวังนะเพคะ" โล่หวินหลานร้องบอก
โม่ฉีหมิงหันกลับมา ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉย“หลังจากที่ข้าจัดการทุกอย่างเสร็จ ข้าจะมารับเจ้าเข้าวัง"
เขาพูดจากนั้นก็ขี่ม้าค่อยๆไกลออกไป โล่หวินหลานไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
นางรู้เพียงว่า ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
หลายวันมานี้อากาศไม่ดีนัก ฝนมักจะตกปรอยๆอยู่ทุกวัน ตกตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำไม่หยุดหย่อน ตำหนักองค์รัชทายาทเต็มไปเสียงของฝนที่ตกลงมา ใบไม้ต้นหญ้าชุ่มช่ำไปด้วยน้ำ
โล่หวินหลานนั่งละเมอ นางสวมชุดไว้อาลัยสีขาว บนผมของนางมีดอกไม้สีขาวทัดเอาไว้ สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวล
"พระชายาเพคะ ได้เวลาเสวยมื้อเที่ยงแล้วเพคะ" เทียนซีร้องบอกกับนาง
มื้อเที่ยงในวันนี้พ่อครัวได้ทำอาหารจากผักออกมาอย่างน่ากิน เพราะเป็นช่วงไว้อาลัย ทำให้ทั่วทั้งแคว้นไม่อาจฆ่าสัตว์ได้ แม้แต่โล่หวินหลานเองก็ยังต้องกินเพียงผัก
"พระชายา ลำบากพระชายากับองค์ชายน้อยในท้องแล้วเพคะ ช่วงนี้ไม่อาจฆ่าสัตว์ได้ ไม่รู้ว่าองค์ชายน้อยในท้องจะได้รับผลกระทบหรือไม่" เทียนซีกล่าวอย่างกังวล
"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น วันนี้เป็นวันที่ฮ่องเต้สวรรคตเพียงวันที่สาม ข้าจะทำลายกฎระเบียบได้อย่างไร การที่ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ก็เป็นหนึ่งในการร่วมไว้อาลัยอีกด้วย" โล่หวินหลานกล่าว จากนั้นก็เริ่มทาน
หากนับดูแล้ว เขาไม่ได้กลับมาตำหนักห้าวัน คงเพราะหลายวันมานี้มีเรื่องในราชสำนักมากมายต้องจัดการ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เขาก็ต้องเป็นคนสายตา อีกทั้งยังมีเรื่องพิธีฝังศพของฮ่องเต้เจียเฉิงอีกด้วย เขาคงจะเหนื่อยน่าดู
"พระชายาเพคะ เหตุใดช่วงนี้พระชายาจึงทานน้อยเหลือเกินเพคะ ท่านทรงสูบผอมลงไปมากเลย กินเยอะๆหน่อยเถอะเพคะ" เทียนซีกล่าว
โล่หวินหลานขยับถ้วยไปอีกด้านหนึ่ง“ข้ากินไม่ลงแล้ว"
"งั้นหม่อมฉันให้โรงครัวทำซุปรากบัวมาให้นะเพคะ พระชายาต้องดื่มเสียหน่อย" เทียนซีกล่าว นางไม่อาจทนเห็นนายหญิงของตนไม่ทานอาหารได้
เมื่อเห็นว่าโล่หวินหลานพยักหน้า นางก็รีบวิ่งเข้าไปยังโรงครัว แล้วรับสั่งให้โรงครัวทำ
แม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ยามค่ำคืนอากาศก็ยังหนาวเย็นอยู่บ้าง โล่หวินหลานเปิดหน้าต่างออก ด้านนอกฝนได้หยุดตกแล้ว กลิ่นดินหลังฝนนั้นส่งกลิ่นสดชื่น กลิ่นของธรรมชาติทำให้จมูกโล่งเหลือเกิน
โล่หวินหลานสูดลมหายใจเข้า นางรู้สึกดีเหลือเกิน จึงนั่งอ่านตำราข้างหน้าต่าง
ไม่นาน ประตูค่อยๆถูกเปิดออก นางคิดว่าคนที่มาคืนเทียนซี จึงไม่ได้หันกลับไป แต่เสียงฝีเท่านั้นช่างคุ้นหูเหลือเกิน ทำให้นางหันกลับไป
เมื่อหันไปมองนั้น ก็เห็นร่างสูงของโม่ฉีหมิงอยู่ใต้แสงเทียน ใบหน้าของเขาสูบผอม เขาขมวดคิ้วเป็นปม ค่อยๆคลี่ยิ้มให้กับนาง จากนั้นก็อ้าแขนรับนาง
โล่หวินหลานนิ่งไปครู่หนึ่ง ดวงตาของนางค่อยๆแดงระเรื่อ นางรีบโผเข้ากอดเขา เพื่อคลายความคิดถึงที่ไม่ได้เจอเขามาหลายวัน
"หลายวันมานี้ไม่ได้พบเจอเจ้า คิดถึงเจ้าเหลือเกิน" โม่ฉีหมิงกล่าว ด้วยน้ำเสียงแหบพร่ำ
มือของเขาโอบที่แผ่นหลังของร่างบาง เขาเอาคางเกยไว้บนหัวของนาง หลับตาพริ้ม ราวกับว่ายังกอดไม่หนำใจ
โล่หวินหลานกอดตอบเขาที่ตอนนี้ซูบผอมลงไปมาก แล้วถามขึ้น“หม่อมฉันก็คิดถึงท่าน ลูกของเราก็เหมือนกัน"
เขาคลายยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ แล้วคลายกอดจากร่างบาง แล้วนำตัวนางมาใต้แสงเทียน เขาจับลงใบหน้าของนางอย่างเบามือ“ไม่ได้พบเจอเจ้ามานานห้าวัน ข้าต้องดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน เจ้าผอมไปหรือเปล่า? หลายวันมานี้ได้กินข้าวบ้างไหม? ลูกของเราเป็นเด็กดีหรือไม่? ทำให้เจ้าไม่สบายหรือเปล่า?"
มือหนาจับใบหน้าของนางไม่ยอมปล่อย
โล่หวินหลานเอียงคอ รับไออุ่นจากมือหนา จากนั้นก็พยักหน้า“ดีทุกอย่างเพคะ ท่านพี่ต่างหากที่ผอมลงไปมาก หลายวันมานี้ทรงงานหนักมากใช่ไหมเพคะ?"
"ท่านพ่อพึ่งสวรรคต มีหลายเรื่องที่ข้าต้องจัดการด้วยตนเอง หลายวันมานี้จึงยุ่งทั้งวัน นอกจากเรื่องพิธีฝังศพของท่านพ่อแล้ว ยังต้องจัดการหลายอย่างใหม่ทั้งหมด วันนี้ข้าได้จัดการทุกอย่างไปพอสมควร จึงจะมารับเจ้าเข้าวัง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก