ตอนที่ 426 บุตรฝาแฝด
ฮ่องเต้เจียเฉิงทรงสวรรคตไปหนึ่งเดือนแล้ว ในช่วงหนึ่งเดือนนี้ก็ได้ทำการฝังร่างฮ่องเต้เจียเฉิงไปยังสุสานของเชื้อพระวงค์ โม่ฉีหมิงเองก็ได้จัดการระบบต่างๆของวังหลวงอย่างเรียบร้อย และทำได้ดีกว่าตอนที่ฮ่องเต้เจียเฉิงอยู่เสียอีก
ขุนนางที่อยู่ฝ่ายของโม่ฉีซิวถูกกำจัดไปจนหมด เหลือเพียงขุนนางที่โม่ฉีหมิงแต่งตั้งขึ้นมาเอง ซึ่งเขาก็ให้ความไว้วางใจขุนนางพวกนั้นมาก
สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือแคว้นเซิ่งโจวและแคว้นโม่ฉีก็ได้มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน แคว้นเซิ่งโจวได้ถวายเครื่องบรรณาการมาให้ และโม่ฉีหมิงหมิงเองก็ได้ส่งเครื่องบรรณาการจากแคว้นโม่ฉีไปให้เพื่อเป็นการทดแทน และรักษาสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น
แคว้นเริ่มมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
ขณะที่โล่หวินหลานตั้งครรภ์ได้แปดเดือน ก็ได้ยินข่าวการตายของหลินอ๋อง ว่าถูกโจรข้าตาย
ตอนที่นางได้ยินนั้นนางถึงขั้นไม่อาจเดินได้ และนางก็รู้สึกเสียใจ แต่เพราะไม่อยากส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ จึงพยายามลืม
แม่นมผู้ดูแลครรภ์เองก็บอกกับนางแล้ว ว่าช่วงระยะเวลานี้ให้นางนอนอยู่บนเตียงอย่าลุกเดิน จนนางแทบจะบ้าตาย
หลายวันมานี้ในช่วงเย็นอากาศดีมาก นางจึงให้เทียนซีนำชิงช้ามาวางไว้ แล้วคอยช่วยพยุงนางออกไป ยามที่แสงแดดสาดส่องมาบนใบหน้านั้น นางรู้สึกสบายยิ่งนัก
นางกอดตำราไว้เล่มหนึ่ง เด็กในครรภ์เอาแต่เตะท้องของนางไม่หยุด นางจับไปที่ครรภ์ของตนเอง ราวกับสัมผัสเด็กน้อยในครรภ์
"ลูกของเราซน เหมือนเจ้า" โม่ฉีหมิงกล่าว
"มีแต่เด็กผู้ชายเท่านั้นแหละเพคะถึงจะเตะแม่เก่งเพียงนี้" โล่หวินหลานกล่าว
"ไม่ว่าจะชายหรือหญิงข้าก็รัก"
เขาชอบเด็กผู้หญิง แต่นางอยากจะมีลูกผู้ชายให้กับเขา หลายครั้งที่ทั้งสองพูดเรื่องนี้ก็จะเริ่มมีปากเสียงเล็กน้อย แต่สุดท้ายคนที่แพ้ก็คือโม่ฉีหมิง และเขายังต้องคอยออดอ้อนนางด้วย
โม่ฉีหมิงรับสั่งให้คนยกเก้าอี้มา เขาอยากจะมานั่งตากแดดกับนาง แสงแดดส่องผ่านใบไม้ลงบนหน้าทั้งคู่
"ช่วงนี้ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้าง ดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา? เรื่องในราชสำนักทำให้ท่านหนักใจ?" โล่หวินหลานถามพร้อมจับไปที่ใบหน้าของเขา ซึ่งตอนนี้สูบผอมไป
โม่ฉีหมิงคว้ามือนางเอาไว้ จากนั้นก็ส่ายหน้า
เขาไม่อยากจะบอกนางเพราะขุนนางน้อยใหญ่เร่งให้เขาเลือกสนม ตอนนี้ตำแหน่งพระมเหสีก็ยังว่างเว้น ทำให้ทุกคนอิจฉาตาร้อน อยากจะส่งบุตรสาวตนเองมาให้เขาเลือก
ทุกวันที่เขาไปที่ราชสำนัก ก็มักจะพูดเรื่องนี้กันขึ้น
แต่โล่หวินหลานเป็นเพียงคนเดียวที่เขารัก ดังนั้นตำแหน่งพระมเหสีจึงมีนางเท่านั้นที่คู่ควร ตอนนี้ต้องรอวันที่ลูกในครรภ์เกิดออกมา เขาก็จะรีบออกพระบัญชาการโดยทันที
นี่เป็นสัญญาที่เขาให้ไว้กับนาง และให้ไว้กับตนเอง
"หรือเพราะข่าวการตายของหลินอ๋องเพคะ?" โล่หวินหลานถาม
เขากลับทำตาโต แล้วขมวดคิ้ว“ข้ารับสั่งให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับแล้วไม่ใช่หรือ? เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?"
ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์ ได้ยินเรื่องการถูกฆ่าตายได้อย่างไร?
"คือ......ในวังหลวงมีผู้คนมากมาย แม้ว่าหม่อมฉันจะไม่อยากรู้ก็คงยากเพคะ......" โล่หวินหลานหัวเราะแห้ง ไม่คิดเลยว่าคำถามที่นางถามไปเรื่อยเปื่อยนั้น เขาจะมีท่าทีจริงจังเช่นนี้
"คนพวกนี้คงจะไม่มีสิ่งใดทำ หลิวเฟิง เจ้าไป....." โม่ฉีหมิงที่กำลังเรียกขันทีข้างกายตนนั้น
แต่ก็ถูกโล่หวินหลานเอามือปรามเอาไว้“หม่อมฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อยเพคะ ช่างมันเถอะ"
นางเป็นคนจิตใจดี ไม่อาจทนเห็นบ่างไพร่ถูกลงโทษได้ โม่ฉีหมิงรู้ดีในข้อนี้ แต่วังหลังนี้ควรจะจัดการขั้นเด็ดขาด หลายวันมานี้จะได้ยินข่าวลือมากมาย เขากังวลว่าหากนางได้ยินในสิ่งที่ไม่ดีเข้า จะคิดมากเอาได้
"อื้ม เจ้าพูดสิ่งใดข้าก็จะฟัง" โม่ฉีหมิงมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน
โล่หวินหลานสังเกตเห็นว่า เวลาที่อยู่กับนางเขาไม่เคยแทนตนเองว่าฮ่องเต้ และไม่เคยวางมาดฮ่องเต้แต่อย่างใด หลายครั้งนางต่างหากที่เป็นคนรังแกเขา
นางยิ้ม แต่กลับมีน้ำตาคลอ
ตอนกลางคืน โม่ฉีหมิงรับส่งลงโทษทั้งขันทีและนางกำลัง เพื่อที่ป้องกันไม่ให้โล่หวินหลานได้ยินในสิ่งไม่ดีอีก
เขาอยากมอบครอบครัวที่อบอุ่นให้กับนาง และไม่ใช่ในวังหลวงแห่งนี้
ฤดูหนาวพัดผ่านมาาอีกครั้ง
เป็นอีกปีที่เหน็บหนาว ต้นโสนรอบเมืองร่วงโรย เมื่อลมพัดผ่านก็หนาวสุดขั้วหัวใจ รอบเมืองหลวงนั้นเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน นานที่กว่าจะได้รับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์
อีกไม่กี่วันก็จะได้วันกำหนดคลอดของโล่หวินหลานแล้ว โม่ฉีหมิงได้รับสั่งให้หมอตำแยคอยเตรียมพร้อมที่วังหลัง ของที่จำเป็นต่างๆก็ได้เตรียมเอาไว้แล้ว แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่กล้าที่จะไปไหนไกล แม้แต่งานในราชสำนักเขาก็ไม่ไปมาหลายวันแล้ว
"ท่านอยู่กับหม่อมฉันทั้งวันเช่นนี้ เหล่าขุนนางไม่ว่าสิ่งใดหรือ?" โล่หวินหลานที่นอนอยู่บนชิงช้า พร้อมห่มผ้าห่มตัวหนาเอาไว้ถามขึ้น
"ข้าอยู่กับบุตรและชายาของตน พวกเขากล้าที่จะคิดเห็นสิ่งใด? หากมีข้าจะรับสั่งให้ตัดลิ้นเสีย" หลายวันมานี้โม่ฉีหมิงดูอารมณ์ไม่ดีนัก เขามักจะหงุดหงิด
หรือเป็นเพราะใกล้ถึงกำหนดคลอดของโล่หวินหลาน เขาจึงทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวล ยามตื่นก็ไม่อาจวางใจ ยามนอนก็ไม่อาจหลับสนิทได้ มักจะเอาแต่มองนาง อย่างไม่วางใจ
"ท่านเป็นถึงฮ่องเต้ ไม่มีใครว่าท่านหรอก หม่อมฉันหมายถึงตัวหม่อมฉันเองต่างหาก ท่านไม่เข้าร่วมงานในราชสำนักเพราะหม่อมฉัน ไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจของพวกเขาต่อว่าหม่อมฉันอย่างไรแล้วบ้าง" โล่หวินหลานกล่าวพลางม้วนผมของตนเองเล่น และมองหน้าของเขา
"ใครกล้าต่อว่าเจ้า หากข้าได้ยิน ข้าจะไม่มีวันปล่อยมันไป" โม่ฉีหมิงกล่าว
เขาหยุดพูด จากนั้นก็มองลึกมายังใบหน้าของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก