ตอน ตอนที่ 495 บทสรุปครั้งยิ่งใหญ่ (ห้า) จาก ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 495 บทสรุปครั้งยิ่งใหญ่ (ห้า) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 495 บทสรุปครั้งยิ่งใหญ่ (ห้า)
ค่ำคืนกลางทะเลทราย เงียบสงบจนน่ากลัว
ลม หนาวสะท้านเหลือ พัดอยู่บนใบหน้าของไม่กี่คน ก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดน้อยๆ
บริเวณปากทางออกของหุบถ้ำ มีอูฐชั้นดีตระเตรียมไว้รอแต่เนิ่นๆ แล้ว ยังมีคนที่รอปรนนิบัติอยู่ตลอดอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้หลินซีนเยียนประหลาดใจก็คือ คนที่มาในครั้งนี้คือจินมู่ นางไม่ได้พบจินมู่มาเป็นเวลานานมากแล้ว สถานที่ที่จินมู่มักจะปรากฏกายอยู่เสมอ ล้วนเป็นสถานที่ที่โม่จื่อเฟิงปรากฏกายในนามของอ๋องอู่เสวียน ทว่าปัจจุบันอยู่ตรงบริเวณชุมทางระหว่างสามประเทศ จินมู่มาแล้ว ทำให้หลินซีนเยียนประหลาดใจเข้าไปใหญ่
“ชายา” จินมู่เอ่ยทักทายอย่างนอบน้อม
หลินซีนเยียนตอบรับคำเล็กน้อย หันหน้าไปถามโม่จื่อเฟิงอย่างงงงวย “ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วโลกว่าอ๋องอู่เสวียนแห่งประเทศหนานเยว่ถูกประเทศเป่ยหมิงลอบสังหาร จวบกับที่ปัจจุบันถึงเวลาสงครามระหว่างสองประเทศแล้ว ดังนั้นจินมู่ในฐานะผู้บัญชาการองครักษ์ของอ๋องอู่เสวียน จึงมาถึงด่านตรวจชายแดนอย่างเต็มยศ?”
แววตาโม่จื่อเฟิงวิบวับ นิ้วมือจิ้มเข้าที่ปลายจมูกของนาง “เจ้ามักจะหลักแหลมเช่นนี้เสมอ ประจวบกับเป็นเช่นนี้ อีกอย่าง ไม่เพียงแต่จินมู่มาแล้ว ยังมีกองกำลังประเทศหนานเยว่ของอ๋องอู่เสวียนก็ล้วนมากันหมดแล้ว”
“มาหมดแล้ว?” ในใจของหลินซีนเยียนยิ่งเพิ่มความกังขามากขึ้นเรื่อยๆ นางรู้สึกว่าเรื่องที่ประเทศหนานเยว่เปิดศึกกับประเทศเป่ยหมิงนี้ค่อนข้างแปลกประหลาด ตอนนี้ได้ยินคำของโม่จื่อเฟิง ความกังขาในใจก็ยิ่งทวีขึ้น
“เอาล่ะ ยามดึกหมอกหนา พวกเรารีบเดินทางเร็วสักหน่อยดีกว่า” โม่จื่อเฟิงกล่าวเช่นนี้ ประคองเอวของหลินซีนเยียนขึ้นและอุ้มนางวางบนโหนกหลังอูฐ จากนั้นตนเองก็พลิกกายไปนั่งด้านหลังของนาง
หลังจากจากไปแล้ว หลินซีนเยียนอดหันหน้าไปมองเงื้อมผาอันปกคลุมด้วยเถาวัลย์ท่ามกลางยามราตรีแวบหนึ่งไม่ได้ ปากทางเข้าของกรุเกิงจีนนี้ได้ถูกปิดตายลงแล้ว นางเคยตรวจสอบดูแล้ว กลไกบริเวณก้อนหินผันสามารถเปิดได้เพียงหนึ่งครั้ง ถ้าหากนึกอยากหอบสมบัติในที่นี้ออกไปอีก กรงว่าคงทำได้เพียงต้องคิดวิธีอื่นแล้วกระมัง
บางที นี่อาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางที่บรรพบุรุษก่อนหน้าของตระกูลเฟิ่งกำหนดเอาไว้ หากไม่ใช่รุ่นลูกหลานของตระกูลเฟิ่งเข้ามา หากว่าสมบัติเหล่านี้ตกอยู่ในมือของคนอื่น เช่นนั้นหุบถ้ำนี้ก็จะปิดตายลงโดยสมบูรณ์
“กำลังมองอะไรอยู่เล่า” มือของโม่จื่อเฟิงกำสายบังเหียนและรวบนางเข้ามาในอ้อมอก
หลินซีนเยียนส่ายหน้า อดซักไซ้ไม่ได้ “ก็ไม่มีอะไร ข้าแค่กำลังคิด ที่นี่เป็นคลังสมบัติอันใหญ่โตขนาดนี้ อ๋องอู่เสวียนของพวกเราถึงกับทำใจได้เชียวหรือ ท่านไม่ใจเต้น?”
เห็นว่านางหันหน้ามามองตนเองอย่างซุกซน หัวคิ้วของโม่จื่อเฟิงก็ค่อยๆ ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย “เจ้าพูดมาก็ถูก ทรัพย์สมบัติมากมายเพียงนี้ จำนนไปก็น่าเสียดายแย่เลย ไม่สู้...รอหลังจากจัดการเรื่องราวทั้งหมดเสร็จสิ้นเสียก่อน ข้าจะพาเอากุญแจเนื้อคนพาเจ้ากลับมาล่าสมบัติที่นี่อีกครั้ง? แต่ไม่รู้ว่าเลือดในร่างกายของเจ้ายังจะพอใช้หรือไม่...”
“ท่านกล้า!” หลินซีนเยียนแค่นเสียงเย็น นิ้วมือกำผิวหนังบนท่อนแขนของเขาเอาไว้แน่นแล้วบิดขึ้นมา
โม่จื่อเฟิงไม่ได้หลบเลี่ยง และไม่ได้ร้องด้วยความเจ็บปวด ทำเพียงปล่อยให้นางบิดเขาอยู่อย่างนั้น สักพักหนึ่ง รอให้นางบิดจนเหนื่อยแล้วจึงกล่าว “ของเหล่านี้ เก็บไว้ให้คนรุ่นหลังดีกว่าเถิด รอหลังจากที่จัดการเรื่องราวทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้ใช้ขุมสมบัติเหล่านี้แล้ว แต่ว่าเสี่ยววี่จิ่ง หากว่าภายภาคหน้าเขามีข้อเรียกร้องหรือความเห็นอะไรล่ะก็ สิ่งของในนี้ก็จะสามารถเป็นส่วนช่วยเสริมแรงให้เขาได้บ้าง ของเหล่านี้...ก็เก็บไว้ให้เขาเถิด”
หลินซีนเยียนคาดไม่ถึงว่าเขาจะตัดสินใจถึงแหล่งที่ไปของขุมสมบัติเหล่านี้อย่างใจกว้างเช่นนี้ ในอกก็ค่อนข้างเสียใจ ก่อนจะไปถลกแขนเสื้อของเขาขึ้นมาดู ก็เห็นผิวหนังบนลำแขนของเขาดำปื้นเป็นวง
“เอ่อ...” นางกะพริบตาปริบๆ สีหน้าค่อนข้างอึดอัดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...