ตอนที่ 248 เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น(1)
เสียงฆ้องและกลองดังสนั่นขึ้น ในที่สุดแม่ทัพหลินก็อุ้มเจ้าสาวที่มีผ้าคลุมหน้าก็ออกมาให้ผู้คนได้เห็น ตอนที่เจ้าสาวออกมาให้ผู้คนได้เห็นนั้น พวกผู้ชายต่างก็ตะลึงงัน ส่วนพวกผู้หญิงก็อิจฉาริษยาอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้จะมีผ้าคลุมปิดบังอยู่ แต่ทว่าก็ไม่อาจบดบังความงดงามของเจ้าสาวได้ ผู้ชายมองผู้หญิงกับผู้หญิงมองผู้หญิงนั้นไม่เหมือนกัน สิ่งที่ผู้ชายมองเป็นอย่างแรกคือรูปร่างไม่ใช่รูปโฉม ถึงแม้ว่ารูปโฉมอาจจะไม่งดงามเท่าใด แต่หากว่ารูปร่างสามารถปลุกไฟในตัวเขาได้นั้นก็จะยิ่งทำให้มีแรงดึงดูดอย่างมาก
แม้ว่าจะมีผ้าคลุมบังอยู่ แต่หลินซีนเยียนก็ยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาที่เร่าร้อนเหล่านั้นที่มองเธอ ใจเธอเต้นแรงมาก เธอกำลังคิด สายตาที่เร่าร้อนอันไหนที่เป็นของเขา?
โม่จื่อเฟิงมองเธออยู่อย่างนั้น มองมือที่ตื่นเต้นของเธอบีบชุดแน่น มองเธอที่เขินอายจนก้มหน้าลง เขายิ้มมุมปาก เปิดม่านรถเกี้ยวให้หลินเทียนเฉิงเอาเธอส่งเข้ามา
ม่านเกี้ยวปิดลง มีเสียงสั่ง “เอาเกี้ยวขึ้น”
ข้างหน้ามีองครักษ์คุ้มกัน ข้างหลังมีของออกเรือนของเจ้าสาวแปดสิบแปดหีบ เสียงที่ดังระงมของเหล่าขบวนขันหมากตั้งแต่หัวถนนยืดยาวตลอดไปจนถึงปลายทางฟังเสียงรื่นเริงยินดีข้างนอกเกี้ยว ในที่สุดใบหน้าของหลินซีนเยียนก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
แม้นว่าจะไม่ค่อยพอใจในสังคมสมัยนี้สักเท่าไรแต่ในที่สุดเธอก็แต่งงานจนได้
เมื่อรอขบวนแห่ขันหมากมาถึงจวนอู่เซวียนอ๋องก็ใกล้จะบ่ายแล้ว
เจ้าสาวหลินซีนเยียนโม่จื่อเฟิงเป็นคนอุ้มเธอลงมาด้วยตัวเอง เขาอุ้มเจ้าสาวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ต่อหน้าผู้คน โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ตั้งต้นจนจบเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ในการควบคุมหรือแม้แต่ช่วงพิธีแต่งงาน
ไหว้บิดามารดา ไหว้สามีภรรยา ส่งตัวเข้าหอ เป็นลำดับขั้นตอนที่สามารถพบเห็นได้ตามโทรทัศน์ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่หลินซีนเยียนได้มาสัมผัสด้วยเองเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นจนจบ
ช่วงเวลานั้นก็สิ้นสุดลง เมื่อหลินซีนเยียนถูกส่งตัวเข้าไปในห้องใหม่ที่บ้านของโม่จื่อเฟิงทุกคนต่างก็เหนื่อยกันจนแทบจะขยับตัวกันไม่ไหว
“ชุดนี้ช่างงดงามมาก พระชายาวันนี้ท่านไม่เห็นผู้คนบนถนนใหญ่ที่เห็นต่างก็เลือดกำเดาไหล”รอเวลาเมื่อคนในห้องแยกย้ายออกไปกันจนหมด ชิงจู๋เทชาร้อนให้หลินซีนเยียนพร้อมกับพูดหยอกล้อ
หลินซีนเยียนยิ้ม พร้อมกับหยิบเม็ดแตงขึ้นมาแล้วโยนออกไป ยิ้มแล้วพูดว่า“ชิงจู๋เจ้าก็พูดเกินไป ชุดนี้ทำให้ข้ารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง”
โม่จื่อเฟิงก็ช่างวิกล ให้ผู้คนมากมายเห็นเรือนร่างที่งดงามของเธอ ผู้ชายคนอื่น ดูแลผู้หญิงของตัวเองอย่างเข้มงวด แต่เขากลับ กลัวว่าคนอื่นจะไม่เห็นเรือนร่างจุดเด่นของข้า
ในใจคิดเช่นนั้น แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม เขาภูมิใจแทนเธอ นี่ก็ไม่ใช่ความเชื่อมั่นในตัวเองมากมายอะไร เขาไม่ได้กลัวเธอจะออกมาดูดี เพราะว่าเขามีความเชื่อใจ นางจะต้องเป็นผู้หญิงของเขาคนเดียว
แนวเจ้าชายเย็นชาแบบโม่จื่อเฟิงจริงๆแล้วมันง่ายมากที่จะทำให้ผู้หญิงหลงใหล
ทั้งสองกำลังพูดคุยกันก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชิงจู๋ลุกขึ้นไปเปิดประตูก็พบกับแม่นมที่อุ้มวี่จิ่งยืนอยู่หน้าประตู อารมณ์ของแม่นมดูเคร่งขรึมแล้วมองผ่านชิงจู๋เข้าไปยังในห้อง“องค์ชายน้อยไม่รู้เป็นอะไรวันนี้ทั้งวันไม่ดื่มนม ข้าเดาว่าคงเป็นเพราะคิดถึงท่านแม่ดังนั้นก็เลยอุ้มมาดู”
ชิงจู๋รู้จักดีกับแม่นมคนนี้จึงพยักหน้าให้นางเข้ามาในห้อง“องค์ชายน้อยไม่ยอมดื่มนมตั้งแต่เมื่อไร?”
หลินซีนเยียนที่กำลังอุ้มวี่จิ่งใจก็คิดอยากจะออกไปด้านนอก แต่ว่าพอเดินถึงหน้าประตูกลิ่นเลือดที่คละคลุ้งเต็มไปทั่ว นางเดินไปเพียงก้าวเดียว ก็ไม่กล้าที่จะเดินต่อไป
ประตูห้องถูกคนด้านนอกเปิดออก ทำให้เกิดเรื่องที่หลินซีนเยียนไม่คาดคิดขึ้น คนที่ยืนอยู่หน้าประตูนั่นก็คือเซียวฉางเยว่วันนี้นางก็สวมชุดสีแดง ที่ไม่เหมือนกับชุดของเจ้าสาว ที่ยังคงงดงามทำให้ผู้พบเห็นถึงกับหยุดหายใจด้านหลังของนางยังมีชายชุดดำอีกสองคน ร่างกายของชายชุดดำทั้งสองที่ห่อหุ้มอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าที่โผล่ออกมาแค่ดวงตาอำมหิตจ้องมองมาที่หลินซีนเยียน
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”หลินซีนเยียนอุ้มวี่จิ่งอย่างเป็นกังวลในใจก็คิดว่าต้องนานเท่าใดถึงมีคนมาพบเห็น
เซียวฉางเยว่ยิ้มมุมปาก“เจ้าอย่าคิดที่จะยืดเวลา วันนี้เป็นวันมงคลของท่านอ๋อง พวกดูแลความปลอดภัยส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ๆท่านอ๋อง อย่างตอนนี้ในบ้านก็มีเหลืออยู่ไม่กี่คน”
“เจ้าจะทำอะไรกันแน่?”ในใจหลินซีนเยียนนั้นกลัวจนลนลาน เซียวฉางเยว่แม้จะเกิดมาเป็นลูกสาวในตระกูลซูแต่ว่าฝีมือนางไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ สามารถโจมตีพวกดูแลความปลอดภัยของโม่จื่อเฟิง ทำให้แม่นมต้องร้องขอชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ชิงจู๋ถูกพิษ วิธีการแบบนี้และท่าทีก่อนหน้าของเซียวฉางเยว่ช่างแตกต่าง
“ไม่มีอะไร ก็แค่รู้สึกว่าวี่จิ่งช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ ข้าอยากจะเป็นแม่ของเขาล่ะ ดังนั้น เจ้าต้องตาย”ไม่รู้ว่าเซียวฉางเยว่ไปเอากำลังวังชามาจากไหน ท้ายที่สุดก็ยอมบอกแผนการของตัวเองให้หลินซีนเยียนรู้ และไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยว่าจะมีโอกาสล้มเหลว
พวกเขา เป็นคนวางแผนทั้งหมดนี่เลยรึ?
หลินซีนเยียนไม่กลัวตายแต่ทว่ากับกลัวว่าวี่จิ่งจะตกไปอยู่ในมือและเติบโตขึ้นกับหญิงอสรพิษผู้นี่ เธอกำลังคิดสับสน ในสมองตอนนี้มีแต่ ภาพของข่าวแม่เลี้ยงที่เลี้ยงดูลูกด้วยการกดขี่ แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่แม่เลี้ยงทุกคนที่จะเลี้ยงลูกด้วยการกดขี่แต่อย่างเซียวฉางเยว่ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีสำหรับลูกของเธอแน่นอน
นางถอยหลังทีละก้าว แต่ด้านหลังของนางคือเตียงนอน ไม่มีแม้แต่พื้นที่ว่างเล็กๆให้นางได้ถอยหนี เธอลองดูเพื่อจะได้รู้เงื่อนงำอะไรมากขึ้น เพียงแต่ไม่ว่าจะทางประตูหรือทางหน้าต่างนางก็ไม่เห็นแม้แต่ความช่วยเหลือใดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...