เธออดที่จะหัวเราะไม่ได้ ยืนเขย่งปลายเท้าแล้วจูบเขาไปทีหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เซอร์ไพรส์มาก และก็ซาบซึ้งมาก”
เฉินถิงเซียวแววตาเป็นประกาย และก็โน้มตัวมาจูบเธอ
มู่น่อนน่อนผลักเขาออก “ฉันยังมีเรื่องที่อยากพูด”
“อะไร” เฉินถิงเซียวยืดตัวตรง
มู่น่อนน่อนดึงรูปภาพจากผนังออกมารูปหนึ่ง แล้วยื่นมาที่ด้านหน้าของเฉินถิงเซียว “ที่แท้คุณส่งคนไปแอบถ่ายฉันตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วใช่ไหม”
ภาพนี้ เป็นภาพที่หลังจากเขาไล่มู่น่อนน่อน แล้วส่งคนไปถ่ายมา เขามองรูปถ่ายอย่างละเอียด และก็นึกถึงช่วงที่ไม่มีควาสุขในช่วงนั้น
สักพัก เขากล่าวเบา ๆ “อยากเจอคุณ แต่ไปหาคุณไม่ได้”
ความจริงไม่เพียงแต่แอบถ่ายเท่านั้น
สิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกให้มู่น่อนน่อนทราบอีก
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็ใจอ่อนลงทันที “ต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พวกเราจะอยู่ด้วยกันทุกวัน เจอกันทุกวัน ต่อให้ไม่สามารถเจอกัน ก็จะต้องวิดีโอคอลกัน อย่าแอบถ่าย แอบติดตั้งกล้องวงจรปิด มันผิดกฎหมายรู้ไหม”
เฉินถิงเซียวหน้าถอดสี เงยหน้ามองเธอทันใด
เห็นได้ชัดว่าเฉินถิงเซียวคิดไม่ถึงว่ามู่น่อนน่อนจะรู้เรื่องนี้
เป็นเรื่องยากที่จะมีเรื่องอยู่เหนือการคาดหมายของเขา มู่น่อนน่อนแอบได้ใจ “ครั้งนั้นที่ฉันเป็นไข้จนเป็นลมหมดสติอยู่ที่ห้องอาบน้ำ คุณมาดูแลฉัน ฉันรู้ตั้งนานแล้ว”
หลังจากเรื่องนั้นผ่านไป ในใจของเธอยังคงคับข้องใจ ดังนั้นจึงได้ซื้อเครื่องตรวจจับมาทดสอบในห้อง
เพราะเฉินถิงเซียวอยากจะเซอร์ไพรส์มู่น่อนน่อน จึงไล่คนรับใช้ทั้งหมดไป ส่งเฉินมู่ไปที่บ้านของสือเย่ เขาใช้เวลาทั้งวันตกแต่งบ้านด้วยตัวเอง
มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวดูรูปด้วยกันจนเสร็จ กล่าวถามเขา “ทำไมจู่ ๆ คุณขอฉันแต่งงานอีกครั้ง”
“พวกเรายังไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ”
เธอฟังออกถึงความหมายอันหนักแน่นจากน้ำเสียงที่เคร่งขรึมของเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนถึงได้นึกขึ้นได้ว่าพวกเขายังไม่เคยจัดงานแต่งอย่างเป็นทางการ
ครั้งแรกที่จากตระกูลมู่แล้วแต่งเข้ามา ก็ถูกรับตัวมาเลย ต่อมาเขาบอกจะจัดงานแต่ง แต่เพราะเกิดเรื่องที่ไม่พึงปรารถนาขึ้น สุดท้ายก็เลยยังไม่ได้จัด
มู่น่อนน่อนไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้จริง ๆ แต่เฉินถิงเซียวกลับจำใส่ใจไว้
มู่น่อนน่อนจ้องมองเฉินถิงเซียวอยู่ครู่หนึ่ง สักพักได้เปล่งเสียงขึ้น “แม้แต่พิธีงานแต่งคุณก็ได้เตรียมการไว้แล้วใช่ไหม”
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่ทำอะไรก็จะทำโดยเงียบๆ ในใจของเขาคิดแต่เรื่องที่พวกเขายังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานอย่างเป็นทางการ คิดว่าไม่น่าเกิดขึ้นฉับพลัน แต่น่าจะเป็นการเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว
“อืม” เฉินถิงเซียวยิ้ม “เตรียมเกือบจะเสร็จแล้ว ได้เลือกสถานที่สองสามที่ที่คุณน่าจะชอบ ส่วนฤกษ์งามยามดีและสถานที่จริง ๆ ให้คุณเป็นคนเลือก”
“เรื่องสำคัญขนาดนี้คุณไม่ปรึกษาฉัน และยังต้องยุ่งกับการทำงาน ยังต้องวางแผนงานแต่งอีก คงเหนื่อยน่าดู” ร่างกายของเขาเพิ่งจะพักฟื้นดีขึ้น ถ้าหากว่าเหนื่อยจนเกิดปัญหาอีก แล้วจะทำอย่างไร
“ไม่เหนื่อย เรื่องที่เกี่ยวกับคุณ ล้วนทำให้ผมมีความสุข”
เฉินถิงเซียวโน้มตัวไปประทับรอยจูบลงที่หน้าผากของเธอ
เขาเพียงแค่พูดความรู้สึกที่แท้จริงในใจ ไม่ได้พูดคำหวานคำรักแต่อย่างไร
แต่มู่น่อนน่อนกลับหน้าแดง ต่อยเขาเบา ๆ
เฉินถิงเซียวกุมกำปั้นน้อย ๆ ของเธอไว้ แล้วยิ้มเบา ๆ ทำท่าจะมาหอมเธออีก
มู่น่อนน่อนกลับนึกเรื่องหนึ่งขึ้นทันใด สีหน้าจริงจัง เอาฝ่ามือบังจูบของเขาไว้
“เดี๋ยวก่อน”
“หือ?”
“ทานอาหารเย็นหรือยัง”
“……”
มู่น่อนน่อนดูปฏิกิริยาของเฉินถิงเซียว ก็รู้ว่าเขายังไม่ได้ทานข้าว
สถานที่แต่งงานถึงแม้ว่าจะตกแต่งอย่างเรียบง่าย และเฉินถิงเซียวเป็นคนทำคนเดียวทั้งหมด ดังนั้นเขาคงไม่น่าจะมีเวลาทานข้าว
“เดี๋ยวเถอะ!” มู่น่อนน่อนแสร้งทำเป็นโกรธชี้ไปที่จมูกของเขา “ฉันจะไปทำอาหารให้คุณ!”
……
มู่น่อนน่อนทำอาหารเย็นง่าย ๆ ให้กับเฉินถิงเซียว
ตอนที่เฉินถิงเซียวทานข้าวนั้น มู่น่อนน่อนได้ถือโทรศัพท์ออกไปถ่ายรูป
เธอส่งรูปภาพให้เสิ่นเหลียง
“เสี่ยวเหลียง เฉินถิงเซียวขอฉันแต่งงานอีกแล้ว!” ตามด้วยรูปอิโมจิเขินอาย
เธอถือโทรศัพท์รออยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นเหลียงน่าจะคงยุ่งอยู่ ไม่ได้ตอบเธอกลับในทันที
เธอจึงสร้างรูปภาพเป็นหกตารางแล้วอัปลงในสตอรี่
【ความโรแมนติกของชายแท้[รูปภาพ][รูปภาพ][รูปภาพ][รูปภาพ][รูปภาพ][รูปภาพ]】
รายชื่อเพื่อนในวีแชทของเธอล้วนเป็นแบบมีสถานะที่ยังใช้อยู่ เป็นคนที่เธอสามารถติดต่อในชีวิตประจำวันได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...