บทที่190 หัวข้อประเด็นในWeibo
มู่น่อนน่อนกดเข้าไปอ่านในหัวข้อประเด็นที่ว่า#ผู้ก่อตั้งบริษัทเสิ้งติ่ง——XN# Weiboที่อยู่บนสุด ก็คือคนที่มีไอดีชื่อว่า“XN”ผู้เป็นเจ้าของWeiboที่โพสต์มายาวเหยียดข้อความนั้น
ชื่อหัวข้อนั้นเรียบง่ายและตรงตัว 《คำอธิบายเกี่ยวกับการแพร่กระจายข่าวที่ว่าบริษัทเสิ้งติ่งมีการกระทำรักษาอย่างรุนแรงต่อคุณซือเฉิงหยู้》
“บริษัทเสิ้งติ่งก่อตั้งมาสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพูดกับทุกท่าน ผมคือผู้ก่อตั้งบริษัทเสิ้งติ่ง XNครับ เนื่องจากว่าส่วนใหญ่แล้วที่บริษัทจะเป็นจือหยั่นดูแลอยู่ ทุกท่านคงจะไม่รู้จักผม
ในช่วงเวลาสิบปี บริษัทเสิ้งติ่งเผชิญกับเรื่องร้ายๆมา และก็เคยดิ่งลงเหวมาก่อน ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความคาดหวังและการติดตามของทุกท่านตลอดเวลาที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องของคุณซือเฉิงหยู้ในครั้งนี้...”
“คุณซือเฉิงหยู้เป็นศิลปินคนแรกของบริษัทเสิ้งติ่ง ช่วงเวลาที่เขาเดบิวต์ มีอายุเท่ากับอายุของบริษัทเสิ้งติ่ง เรื่องที่บริษัทเสิ้งติ่งเคยประสบมา เขาก็เคยประสบมาพร้อมกับผม...”
“พวกเราข้ามผ่านเรื่องร้ายๆมาด้วยกันนับสิบปี เป็นทั้งครูเป็นทั้งเพื่อน เรื่องข่าวฉาวในครั้งนี้ เป็นผมที่ละทิ้งหน้าที่ จึงได้ทำให้เขาถูกผลักดันไปสู่การโต้แย้งกันอย่างรุนแรง ตกอยู่ในวังวนของความคิดเห็นของสังคม...”
บทความยาวๆบนWeiboนี้ ในทุกๆตัวอักษรล้วนเต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่เอ่ยถึงข้อมูลเสียๆหายๆของบริษัทเสิ้งติ่งที่ถูกขุดออกมาเลยสักคำเดียว
อันที่จริงแฟนคลับตัวจริงที่ปกติดี เรื่องที่กังวลที่สุดจะมีเพียงแค่ท่าทีที่บริษัทปฏิบัติต่อตัวซือเฉิงหยู้เท่านั้น แต่ก็ไม่มีทางที่จะน่าเบื่อโง่เขลาจนไปขุดข้อมูลเสียๆหายๆของบริษัทเสิ้งติ่งมาหรอก
ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหมดมันก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลเสียๆหายๆที่เสกสรรปั้นเท็จออกมาทั้งนั้น
มู่น่อนน่อนอ่านบทความในWeiboจบ แต่ก็ติดใจอยู่กับเนื้อหาในนี้อยู่บ้าง
เธอนั่งพิงเข้ากับพนักเก้าอี้ อ่านความคิดเห็นด้านล่างไปอย่างช้าๆ
“รู้ตัวอีกทีซือเฉิงหยู้ก็เดบิวต์มาเป็นสิบปีแล้ว...”
“ดูเหมือนว่าXNคนนี้จะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเสิ้งติ่งมาจริงๆ ประธานกู้แชร์Weiboมาขนาดนี้แล้ว ศิลปินในสังกัดของพวกเขาเองก็แชร์ออกมาเหมือนกัน”
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าประธานกู้จะสามารถเขียนอะไรพวกนี้ออกมาได้”
“มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้สึกน้ำตามันจะไหลออกมาหรือเปล่า? รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของXNกับซือเฉิงหยู้มันจะต้องดีมากแน่ๆ...”
“ร้องไห้แงๆ...”
“ร้องไห้+1”
บทความบนWeiboอันนี้ในแต่ละบรรทัดแต่ละประโยคล้วนเผยความจริงใจออกมาทั้งนั้น ในนั้นยังเขียนเรื่องของการเริ่มต้นธุรกิจ มันค่อนข้างจะซาบซึ้งใจเลยทีเดียว
มู่น่อนน่อนกดเข้าไปในWeiboของXNคนนั้น พบว่ามีเพียงแค่ข้อความเดียวเท่านั้น มองออกได้เลยว่าเป็นบัญชีใหม่
แต่ข้อความบนWeiboนี้เอง ได้โพสต์ตอนห้าโมง จวบจนถึงตอนนี้มันเพิ่งจะชั่วโมงเดียวเท่านั้นเอง แต่มันก็ได้แชร์กันไปเกินหมื่นไปแล้ว แฟนคลับเองก็ปาไปเจ็ดแปดหมื่นกว่าคนไปแล้ว
หกโมง คนที่ทำงานหรือคนที่เรียนต่างก็มีเวลาเล่นWeiboกันแล้ว มู่น่อนน่อนลองรีเฟรชหน้าใหม่ดู ก็เห็นได้ว่าจำนวนแฟนคลับของXNกำลังเพิ่มขึ้น ข้อความแสดงความคิดเห็นและการส่งต่อเองก็กำลังเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
มู่น่อนน่อนนึกไปถึงช่วงก่อนหน้านี้ที่เฉินถิงเซียวเอาแต่เขียนอะไรบางอย่างอยู่ จึงต้องลุกขึ้นไปหาเฉินถิงเซียวที่ห้องรับแขกอย่างช่วยไม่ได้
เฉินถิงเซียวนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง ในมือถือโทรศัพท์กำลังดูอะไรบางอย่างอยู่
หลังจากที่เดินเข้าไปใกล้ มู่น่อนน่อนพบว่าเฉินถิงเซียวก็กำลังดูWeiboอยู่เหมือนกัน
มู่น่อนน่อนนั่งลงข้างๆเขา เอ่ยถามออกไปตรงๆ “XNคือคุณ?”
“อืม” เฉินถิงเซียวตอบนิ่งๆกลับมา
มู่น่อนน่อนเตรียมจะพูดอะไรออกไปอีก สายของกู้จือหยั่นก็โทรเข้ามา
กู้จือหยั่นโทรมาในเวลานี้ จะต้องโทรมาคุยเรื่องในWeiboแน่ๆเลย
มู่น่อนน่อนงอขานั่งลงบนโซฟา เลื่อนดูWeiboต่อ แต่ผลสุดท้ายในหัวข้อประเด็นนั้นก็เลื่อนเจอข้อความWeiboของหลัวหยิง
หลัวหยิงนั้นเป็นสมาชิกที่มีเครื่องหมายยืนยันบัญชีผู้ใช้สีเหลือง บวกกับที่เธอค่อนข้างจะมีชื่อเสียงด้วยแล้ว จึงได้จัดอยู่ในด้านหน้าในหัวข้อเรื่องประเด็นนี้
“ฉันอยู่ที่บริษัทเสิ้งติ่งมาปีนึง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยรู้มาก่อนว่าบริษัทเสิ้งติ่งยังมีผู้ก่อตั้งXNอะไรนั่น มันก็แค่ละครปาหี่ที่เอามาหลอกลวงประชาชนเท่านั้นเอง นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งยังคิดซาบซึ้งจนเชื่อมันไปได้ ไอคิวน่าเป็นห่วงจริงๆ อีกอย่าง อยากจะเตือนสติสาวน้อยทั้งหลายที่อยากจะเข้าบริษัทเสิ้งติ่งพวกนั้นหน่อยว่าผู้บริหารระดับสูงของเสิ้งติ่งมีความสัมพันธ์ที่ชิดเชื้อมากกับนักแสดงสาวบางคนด้วยล่ะ....”
คำพูดตรงท่อนสุดท้ายของเธอ นั่นก็คือได้พูดออกมาอย่างคลุมเครือว่ามีระหว่างผู้บริหารระดับสูงกับดาราสาวมีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเปิดเผยได้
หลัวหยิงคนนี้ใช้ทุกโอกาสที่มีเลยจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ไม่ต้องเข้ามาสอดไปเสียทุกเรื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...