อ่านสรุป บทที่ 203 เพราะเรื่องของมู่น่อนน่อน ถึงทำให้นายเดือดดาลขนาดนี้เลยหรอ จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
บทที่ บทที่ 203 เพราะเรื่องของมู่น่อนน่อน ถึงทำให้นายเดือดดาลขนาดนี้เลยหรอ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Meow(○` 3′○) อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 203 เพราะเรื่องของมู่น่อนน่อน ถึงทำให้นายเดือดดาลขนาดนี้เลยหรอ
หลังจากที่เสิ่นเหลียงพูดจบ ก็เดินไปจับแขนมู่น่อนน่อนและเดินออกไปข้างนอก
เฉินถิงเซียวลุกขึ้นมาจากพื้น เดินก้าวไปเพียงแค่สามก้าวก็หยุดอยู่ที่หน้าของมู่น่อนน่อน และดึงเธอไว้ “กลับบ้านกับฉัน”
“ฉันไม่อยากหลับ” มู่น่อนน่อนหลับตา จากนั้นเธอสะบัดมือของเขาและ และหันหน้าหนี โดยที่ไม่แย่แสมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เธอดูเยือกเย็นสุดๆ
แววตาของเฉินถิงเซียวเริ่มมืดลง แต่เขาก็เก็บสายตานั้นไว้ในชั่วพริบตา เขากัดกรามของตัวเองแน่น ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอดทน หมัดที่เขากำไว้แน่นก็ค่อยๆคลายออก
สุดท้าย เขาก็ยิ้มที่มุมปากเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลราวกับพูดกับเด็กน้อย “ผ่านไป1-2วันฉันจะไปรับเธอนะ”
น้ำเสียงที่เขาพูดออกมานั้น ไม่ใช่ประโยคคำถามในการถามมู่น่อนน่อน แต่เป็นการแจ้งให้ทราบเท่านั้นเอง
“พวกเราไปกันเถอะ” มู่น่อนน่อนไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย และดึงเสิ่นเหลียงไปข้างนอก
“ฉันไปส่งพวกหล่อนนะ” หลังจากที่พูดประโยคนี่เสร็จ กู้จือหยั่นก็ออกไป
ทั้งสามคนต่างก็เดินออกไป เหลือเพียงแค่เฉินถิงเซียวเท่านั้นที่อยู่ในห้อง
เขายืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน จากนั้นสักพักหนึ่งเขาก็ค่อยๆขยับไปนั่งลงที่โซฟา
เขานั่งงอแขนและวางข้อศอกไปที่หัวเข่า และเอามืออีกข้างก่ายหน้าผาก ท่าทางของเขานั้นเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ดูจากท่าทางของเขานั้นคงกำลังอ่อนแอไม่ใช่น้อย
……
ที่อยู่ของกู้จือหยั่นนั้นค่อนข้างเป็นความลับ เพราะอย่างนั้นตอนจึงยังไม่มีใครหาพบ
แต่เขาก็ยังไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ จึงไปดูต้นทางที่ประตูให้ก่อน จากนั้นถึงให้เสิ่นเหลียงกับมู่น่อนน่อนออกไป
ที่จริงแล้วเขาอยากจะไปส่งพวกเธอให้ถึงที่ แต่เพราะในบ้านยังคงมีเฉินถิงเซียวอยู่ จึงทำได้เพียงส่งพวกเธอขึ้นรถ หลังจากที่อยู่ตรงประตูสักพักหนึ่งแล้วพบว่าไม่มีพวกนักข่าวตามมา ก็หมุนตัวเพื่อจะเดินกลับไปที่พัก
แต่ก็พบว่าที่ประตูลิฟต์นั้นมีเฉินถิงเซียวยืนอยู่
เฉินถิงเซียวเดินออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นก็เหลือบตามองที่กู้จือหยั่น “ช่วงนี้รบกวนนายหน่อยนะ”
กู้จือหยั่นเข้าใจดี ว่าเขากำลังหมายถึงมู่น่อนน่อน
ในตอนนี้มู่น่อนน่อนไม่ต้องการที่จะเจอเฉินถิงเซียว เพราะอย่างนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ให้กู้จือหยั่นคอยสอดส่องให้
กู้จือหยั่นยิ้มเยาะออกมาพลางพูดหยอกล้อ “ที่ผ่านมา นายก็รบกวนฉันมาตั้งเท่าไหร่? ถ้าวันไหนที่นายไม่รบกวนฉันแล้ว ฉันคงรู้สึกไม่ชินแน่ๆ”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร กำลังจะก้าวขาเพื่อเดินไปต่อ
กู้จือหยั่นจึงรีบเรียกเขาไว้ “ครั้งนี้มันอย่างไรกันแน่ เกี่ยวข้องกับราชาภาพยนตร์ซือด้วยเหรอ?”
เฉินถิงเซียวหยุดอย่างเบาๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรและเดินจากไป
หลังจากที่ออกมาจากที่ตรงนั้น เฉินถิงเซียวก็ขับรถไปด้วย และต่อสายโทรศัพท์หาซือเฉิงหยู้ไปด้วย
เสียงรอสายแค่ตื๊ดเดียวเท่านั้น อีกฝั่งก็รับสาย ดูเหมือนว่าอีกฝั่งนั้นก็รอรับสายของเขามาสักพักแล้วเหมือนกัน
“ในที่สุดก็โทรมาหาฉันสักทีสินะ?” น้ำเสียงของซือเฉิงหยู้ดูด้วยจังหวะที่ไม่เร็วและไม่ช้า และยังคงแฝงไปด้วยรอยยิ้ม
แต่น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวนั้นเยือกเย็นแบบสุดๆ “ตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“บ้านของฉันเอง”
เฉินถิงเซียววางสายโทรศัพท์ และตรงไปที่บ้านของซือเฉิงหยู้
ซือเฉิงหยู้เดินมาเปิดประตูให้ เฉินถิงเซียวคว้าคอเสื้อของเขาเดินเข้าไปในบ้าน และใช้อีกมือหนึ่งปิดประตู
“อยากดื่มอะไรไหม?” เสิ่นเหลียงยื่นรองเท้าแตะให้มู่น่อนน่อน พลางเอ่ยปากถาม
มู่น่อนน่อนยื่นมือรับ พร้อมกับส่ายหัวปฏิเสธ
เดินเข้าไปในห้องมู่น่อนน่อนกอดหมอน นอนนิ่งๆที่โซฟาโดยที่ไม่พูดอะไรเลย
แต่เสิ่นเหลียงก็ยังคงรินน้ำใส่แก้วให้เธอ จากนั้นก็ยื่นให้ และก็นั่งลงที่ข้างๆ “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
มู่น่อนน่อนๆเอามือประสานจับแก้วน้ำที่อุ่นๆเอาไว้ ขดตัวอยู่ที่โซฟา ให้เสิ่นเหลียงคาดการณ์จากคำพูดที่ได้ยินเมื่อตอนล่าสุด
“ไม่จริงหรอก……” เสิ่นเหลียงเอามือยีที่หัวของตัวเอง “ราชาภาพยนตร์ซือกับประธานใหญ่ก็ดูจิตใจดี เขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน ไม่สมเหตุสมผลเลย?”
“อืม” มู่น่อนน่อนพยักหน้าเห็นด้วย
ขนาดเสิ่นเหลียงที่เป็นคนนอกยังรู้สึกเลยว่าซือเฉิงหยู้คงไม่ทำเรื่องอะไรแบบนี้ ก็ไม่ต้องพูดถึงเฉินถิงเซียวเลย
ครอบครัวของเฉินถิงเซียวนั้นมีความกลมเกลียวกัน ถึงแม้ว่าเฉินถึงแล้วจะถูกลักพาตัว แต่เขาก็ยังมีคุณพ่อและคุณปู่ และยังมีญาติสนิทคนอื่นๆอีก
ก็มีแต่เธอคนเดียว ที่เป็นนอกของตระกูลมู่มาโดยตลอด ไม่ได้รับความรู้สึกของความเป็นครอบครัว ไม่มีญาติสนิท มีแต่เสิ่นเหลียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนกับเธอ เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและกล้าหาญมาตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมเธอมาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เธอนั้นเป็นคนที่ไวต่อความรู้สึก
เธอเชื่อในการตัดสินของตัวเอง
แต่เฉินถิงเซียวก็ไม่เคยยอมรับ ว่าเรื่องนี้ซือเฉิงหยู้เป็นคนทำ
พอเสิ่นเหลียงเห็นมู่น่อนน่อนสติหลุดลอย ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปโอบกอดเธอด้วยหัวที่เจ็บปวด “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ มู่น่อนน่อน เธออย่าเป็นแบบนี้สิ……”
“ฉันก็แค่เหนื่อยเท่านั้นเอง” มู่น่อนน่อนจิกยิ้มที่มุมปาก ก็พบว่าในช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่สามารถยิ้มออกมาได้จริงๆ
ต่อให้เสแสร้งแกล้งทำ เธอก็ทำไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...