เฉินชิงเฟิงกับเฉินเหลียนเป็นพี่น้องกัน ดูจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ช่วงสองวันนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีมาก
ถ้าทั้งสองเพียงเดินคุยกันตามปกติก็ไม่มีอะไร
แต่ทั้งสองดูกลัวๆ ว่าใครจะมาพบเข้า ดูลับๆ ล่อๆ น่าสงสัยมาก
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปากติดตามไป
เนื่องจากเป็นวันส่งท้ายปีเก่า บ้านเก่าจึงมีคนรับใช้น้อยกว่าปกติ พวกเขาเพิ่งทานอาหารเสร็จ ตอนนี้คนรับใช้จึงกำลังรับประทานอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่ากันอยู่
ดังนั้น ที่มู่น่อนน่อนเดินไปตลอดทาง จึงแทบจะไม่มีคนรับใช้เลย
เธอติดตามเฉินชิงเฟิงกับเฉินเหลียนไปตลอดทางจนเห็นเฉินชิงเฟิงพาเฉินเหลียนเข้าไปในห้องของตัวเขาเอง
ตอนที่ปิดประตู เฉินชิงเฟิงยังเหลือบมองปากประตูครู่หนึ่งด้วย
มู่น่อนน่อนหลบเข้ามุมด้านข้างอย่างระแวดระวัง
เมื่อออกมาอีกครั้ง ประตูก็ปิดแล้ว
มู่น่อนน่อนเดินไปที่หน้าประตูห้องเฉินชิงเฟิง เอาหูแนบประตูตั้งใจฟังว่าทั้งสองคุยอะไรกัน
เธอรู้สึกว่าพวกเขาต้องมีความลับบางอย่างแน่นอน
เฉินเหลียนเป็นแม่ของซือเฉิงหยู้ สองเดือนที่ผ่านมาจู่ๆ ซือเฉิงหยู้ก็เปลี่ยนพฤติกรรมมางัดข้อกับเฉินถิงเซียว ส่วนเฉินถิงเซียวกับเฉินเหลียนก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันนัก
ก่อนหน้านี้เฉินถิงเซียวซือเฉิงหยู้เฉินเจียฉินมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วความสัมพันธ์กับเฉินเหลียนก็ย่อมไม่เลว เขาจะไม่ตีตัวออกห่างเฉินเหลียนโดยไม่มีเหตุผล
ต่อให้มีปัญหากับซือเฉิงหยู้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเย็นชากับเฉินเหลียนเพราะซือเฉิงหยู้
มันสามารถมองเห็นได้จากเฉินเจียฉิน เขาไม่ได้เอาความโกรธที่มีต่อซือเฉิงหยู้ไปเย็นชาใส่เฉินเจียฉิน
ดูอย่างนี้แล้ว ตัวเฉินเหลียนต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน
คิดแบบนี้แล้วมู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าตระกูลมหาเศรษฐีปัญหาเยอะจริงๆ
มีความลับมากมาย
ฉนวนกันเสียงของห้องนั้นยอดเยี่ยม มู่น่อนน่อนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
ในเมื่อไม่ได้ยินอะไรเลย มู่น่อนน่อนจำต้องหันหลังเดินจากไป
เธอยังไม่ได้เดินไปไกล ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้นข้างหลัง
อาจเพราะกินปูนร้อนท้องมู่น่อนน่อนจึงวิ่งหนีไป
เธอวิ่งไปถึงหัวมุม หอบหายใจ ก่อนจะชะโงกศีรษะไปมอง เธอพบว่าเฉินชิงเฟิงกับเฉินเหลียนทั้งสองคนออกไปอีกทางแล้ว
มู่น่อนน่อนถึงได้ถอนหายใจโล่งอก กลับไปเข้าห้องน้ำในห้องแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร
เดินไปถึงประตูห้องอาหาร เธอก็พบเฉินถิงเซียวที่รีบเร่งเดินมา
ทันทีที่เฉินถิงเซียวเห็นเธอก็หยุดก้าวเดิน แล้วขมวดคิ้วถามเธอว่า “ทำไมตั้งนานเพิ่งกลับมา”
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปาก รู้สึกว่านอกจากเรื่องเมื่อครู่ที่ไปพิสูจน์ว่าเฉินชิงเฟิงกับเฉินเหลียนมีความลับบางอย่าง ก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย
เพราะว่าใครกันจะไม่มีความลับ
ดังนั้น เธอจึงไม่อยากบอกเฉินถิงเซียว จึงเค้นออกไปสองคำ “ท้องผูก”
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้ว ลูบศีรษะของเธอ แล้วพาเธอเข้าไปข้างใน
เมื่อมู่น่อนน่อนเข้าไป ก็พบว่าเฉินชิงเฟิงอยู่ในห้องอาหารแล้ว
เหมือนว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของมู่น่อนน่อน เฉินชิงเฟิงจึงหันหน้าไปมองเธอแล้วยิ้มให้
เพราะเรื่องเมื่อครู่ เมื่อมู่น่อนน่อนเห็นเฉินชิงเฟิงยิ้ม จึงรู้สึกแปลกๆ
แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า ทำแค่ยิ้มให้เฉินชิงเฟิง
ผ่านไปสักพัก เฉินเหลียนก็เข้ามา
มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวนั่งข้างคุณปู่เฉิน เฉินเหลียนก็ไปนั่งลงอีกด้านข้างคุณปู่เฉินด้วย
เฉินเหลียนถามขึ้นน้ำเสียงนุ่มนวล “น่อนน่อนกี่เดินแล้ว ท้องยังไม่ออกเลย”
“ไม่ถึงสองเดือนค่ะ” มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะลูบท้องเล็กของตัวเองโดยอัตโนมัติ
เฉินถิงเซียวหันหน้าไปมองเธอ และสายตาก็อ่อนโยนตาม
สายตาของเฉินเหลียนมองกลับมาที่ทั้งสองคนแล้วก็ยิ้ม
เป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนและใจดี
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็เกิดความสงสัย ผู้หญิงอย่างเฉินเหลียน ดูอ่อนโยนและอ่อนแอ แต่เด็กสองคนที่เธอเลี้ยงดูสั่งสอนกลับมีบุคลิกแตกต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง
ไม่สิ แค่เฉินเจียฉินเท่านั้นที่มีบุคลิกแตกต่างจากเธอมากมายนัก
ส่วนซือเฉิงหยู้นั้นมีท่าทางอบอุ่นและอ่อนโยนมาโดยตลอด ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้น
ที่ซือเฉิงหยู้กลายเป็นคนหน้าอย่างหลังอย่าง เกี่ยวข้องเพราะครอบครัวเป็นเหตุหรือไม่
“น่อนน่อน คุณเป็นอะไร”
มู่น่อนน่อนได้สติกลับมา ถึงได้พบว่าตัวเองกำลังจ้องเฉินเหลียนอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...