ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 331

สีหน้าของเฉินเหลียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณมู่ คุณไร้สาระเลอะเทอะ”

“จริงเหรอ ฉันรู้สึกว่าคุณนายซือต่างหากที่กำลังไร้สาระเลอะเทอะ” มู่น่อนน่อนเลื่อนสายตาขึ้นมอง สีหน้าค่อนข้างเย็นชา “ฉันไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับลูกชายของคุณ ฉันคิดกับเสี่ยวฉินเป็นน้องชาย เราต่างบริสุทธิ์ใจ ถ้าไม่ใช่เพราะซือเฉิงหยู้ตามหาฉัน ฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว ในเวลานี้ คุณคนที่เป็นแม่และภรรยา ดูจะไม่เศร้าเท่าไรเลยนะ ยังมีความคิดมาหาเรื่องฉันอีก หายากจริงๆ”

มู่น่อนน่อนมีความประชดประชันอยู่ในน้ำเสียงชัดเจน เฉินเหลียนเองก็ฟังออก

สีหน้าของเฉินเหลียนเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ทว่ายังคงไม่พูดอะไรมากนัก “เรากำลังพูดเรื่องปัจจุบัน ไม่ต้องลากไปเรื่องอื่น”

มู่น่อนน่อนสีหน้าเย็นชา “งั้นก็ไม่ต้องพูด”

“คุณ...” เฉินเหลียนโกรธจนหายใจหอบ “ฉันรู้แล้วว่าทำไมถิงเซียวถึงหย่ากับคุณ ผู้หญิงที่ไร้เหตุผลและไม่รู้หนังสือเช่นคุณ มันไม่คู่ควรกับถิงเซียวเลย”

มู่น่อนน่อนอยู่บ้านตระกูลมู่มานานเกินไปเลยเก็บกด คนอื่นยิ่งพูดยิ่งไม่น่าฟัง แต่เธอกลับยิ่งสงบ “คุณพูดมีเหตุผล คุณมีความการศึกษา คุณสามารถกลับไปคุยกับเสี่ยวฉินได้ ให้เขาตัดขาดการติดต่อกับฉันไปซะ ดูซิว่าเขาจะตกลงหรือเปล่า”

ครั้งนี้เฉินเหลียนถูกมู่น่อนน่อนทำให้โกรธจัดแล้วจริงๆ จนเรียกเสียงดังลั่น “มู่น่อนน่อน!”

“คุณคิดว่าตัวเองมีเหตุผลงั้นเหรอ ถ้าคุณดีต่อเสี่ยวฉิน ก็จงกลับไปบอกเขา หลังจากนี้ให้เขาเลิกติดต่อกับฉัน อย่าออกมาเล่นกับฉันอีก เพื่อไม่ให้กระทบกับการศึกษา”

ชัดเจนว่าเฉินเหลียนมาหาเรื่อง เพราะนานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้เรียกเฉินเจียฉินให้ออกมาเล่นด้วยกัน

นอกจากนี้ เฉินเจียฉินก็เป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ตัวเขาเรียนอะไรนั้นมีแผนในใจอยู่แล้ว

แน่นอนว่าเฉินเหลียนจะไม่ไปพูดเรื่องพวกนี้กับเฉินเจียฉิน เดิมทีพวกเขาสองคนในตอนนี้ยังมีเรื่องที่ผิดใจกันอยู่ ดังนั้นเธอถึงได้มาหามู่น่อนน่อน

คำพูดของมู่น่อนน่อนทำให้เธอหาข้อโต้แย้งมาได้ ในที่สุดก็ได้แต่ชี้หน้าด่าเธอ “ไร้เหตุผลสิ้นดี!”

มู่น่อนน่อนเอียงศีรษะ มองเฉินเหลียนอย่างขบขัน “ในที่สุดคุณนายซือก็อดจะด่าฉันไม่ได้งั้นเหรอคะ”

เฉินเหลียนโกรธจนสะบัดมือเดินจากไป

มู่น่อนน่อนมองตามหลังของเธอที่ไกลออกไป แล้วสีหน้าก็เย็นชาลงทีละน้อย

เธอรู้สึกว่าเฉินเหลียนไร้เหตุไร้ผลจริงๆ

หรือว่าเพราะช่วงนี้เฉินเจียฉินไม่สนใจเฉินเหลียนแต่มาเล่นกับเธอ ดังนั้นเฉินเหลียนเลยอิจฉาหรือเปล่า

ข้อสันนิษฐานนี้ถึงแม้ว่าจะดูเป็นไปได้ แต่รู้สึกว่าอย่างไรมันก็ดูจะไม่มีน้ำหนักเลย

รถแท็กซี่ที่มู่น่อนน่อนนัดไว้เวลานี้มาถึงแล้ว

เธอขึ้นไปนั่งบนรถ และยังคงคิดเรื่องก่อนหน้านี้

เธอนึกถึงคืนวันปีใหม่ เธอเห็นเฉินเหลียนกับเฉินชิงเฟิงแอบลับๆ ล่อๆ เข้าไปในห้อง ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว บางทีเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับซือเฉิงหยู้

เพราะถึงอย่างไรท้ายที่สุดแล้วเรื่องที่ซือเฉิงหยู้เป็นลูกนอกสมรสของเฉินชิงเฟิงก็ยังไม่กระจ่าง

เดิมทีเฉินถิงเซียวไปประเทศMเพียงเพื่อพิสูจน์ต้นกำเนิดของซือเฉิงหยู้ แต่ปรากฏว่าซือหมิงหวนดันเกิดอุบัติเหตุอีก แต่ทำไมพวกเขาต้องทำร้ายคุณท่านเฉินด้วยล่ะ

ในบรรดาหลานๆ แม้ว่าคุณท่านเฉินจะรักเฉินถิงเซียวที่สุด แต่เขาก็ดีกับซือเฉิงหยู้และคนอื่นๆ ไม่น้อย ให้ทุกอย่างที่ควรให้

ต่อให้เขารู้ว่าซือเฉิงหยู้เป็นลูกนอกสมรสของเฉินชิงเฟิง ก็จะไม่เป็นอะไร

ซือเฉิงหยู้แค่เปลี่ยนจากหลานตาเป็นหลานปู่เท่านั้น แม้คุณท่านเฉินจะโกรธ แต่มั่นใจว่าสามารถยอมรับเขาได้

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเรื่องของคุณท่านชานเฉินนั้นแปลกประหลาดมาก

ระหว่างทาง เธอให้คนขับขับตรงไปยังบ้านของเฉินถิงเซียว

……

เฉินถิงเซียวกลับดึกเช่นปกติ

แต่ครั้งนี้มู่น่อนน่อนไม่ได้หลับ และรอเขาอยู่ในห้องนั่งเล่นตลอด

ตอนที่เฉินถิงเซียวกลับมา มู่น่อนน่อนกำลังดูรายการวาไรตี้ในโทรศัพท์มือถือบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

มีช่วงหนึ่งในระหว่างนั้นเป็นการหารายการที่เสิ่นเหลียงไปเป็นแขกรับเชิญ

คอมเมนท์ในนั้นบอกว่าทักษะวาไรตี้ของเสิ่นเหลียงนั้นดีมาก

เฉินถิงเซียวเปิดประตูเข้ามา เห็นมู่น่อนน่อนนั่งอยู่บนโซฟา อันดับแรกคือชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงก้าวกว้างเดินเข้ามา

ตัวโซฟาคือพนักพิงอยู่หลังประตู เฉินถิงเซียวเดินเข้าไป สองมือวางหลังโซฟา แล้วก้มตัวลงไปจูบแก้มมู่น่อนน่อน น้ำเสียงของเขาเจือความดีใจ “ไม่เจอกันสองวันคิดถึงผมแล้วเหรอ”

มู่น่อนน่อนปิดคลิปวิดีโอ เอาโทรศัพท์มือถือวางไว้ข้างๆ แล้วตบๆ ตรงที่นั่งข้างตัว “มานั่งนี่สิ”

เฉินถิงเซียวเดินเข้ามานั่งข้างเธอ “มีเรื่องอะไรเหรอ”

“วันนี้ฉันเจอคุณป้าของคุณ มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องคืนวันปีใหม่ขึ้นมาได้ ฉันเห็นเธอกับคุณพ่อของคุณแอบลับๆ ล่อๆ เข้าไปในห้อง แต่ฉันไม่ได้ยินว่ามีเรื่องอะไร ตอนนี้คิดขึ้นมาแล้ว ฉันคิดว่าตอนนั้นพวกเขาอาจจะคุยกันเรื่องซือเฉิงหยู้...”

มู่น่อนน่อนพูดถึงตรงนี้ก็นิ่งไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นไปมองเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวลูบศีรษะของเธอ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึก แค่พูดเสียงเคร่งขรึมว่า “พูดต่อสิ”

มู่น่อนน่อนพูดต่อไปว่า “วันต่อมาคุณปู่ก็เกิดเรื่อง ถ้าแค่เพราะเรื่องของซือเฉิงหยู้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำร้ายคุณปู่เลย มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”

ดวงตาคมเข้มของเฉินถิงเซียวดิ่งลึก พาให้คนมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

มู่น่อนน่อนดึงมือของเขา “คุณคิดว่ายังไงคะ”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฉินถิงเซียวถึงได้พูดว่า “คุณคิดว่าเพราะเรื่องของซือเฉิงหยู้ พวกเขาถึงได้ลงมือกับคุณปู่เหรอ”

มู่น่อนน่อนครุ่นคิดก่อนจะพูดว่า “ในทางทฤษฎีสามารถพูดอย่างนั้นได้ แต่ฉันรู้สึกว่าเหตุผลนี้ไม่มีน้ำหนัก ที่คุณปู่เกิดเรื่องยังคงแปลกประหลาดอยู่มาก”

มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็จ้องมองเฉินถิงเซียวด้วยสายตามั่นคง

เฉินถิงเซียวหันหน้าไปรินน้ำแบ่งให้ทั้งตัวเองและมู่น่อนน่อน จากนั้นถึงพูดอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “คุณไม่เคยคิดเหรอว่าที่พวกเขาทำให้อุบัติเหตุเกิดกับคุณปู่ ไม่ใช่เพื่อจัดการคุณปู่ แต่อาจเพราะเมื่อวันปีใหม่พวกเขาเห็นคุณ คิดว่าคุณรู้ความลับของพวกเขา ดังนั้นจึงโยนความผิดใส่ร้ายคุณ”

มู่น่อนน่อนชะงักไป ไม่ได้ยื่นมือไปรับน้ำที่เฉินถิงเซียวส่งให้

ตลอดมาเธอคิดว่าพวกเขาต้องการจัดการคุณท่านเฉินเป็นหลัก โดยตัวเธอนั้นแค่ง่ายต่อการใส่ร้าย

เพราะถึงอย่างไรตอนนั้นที่อยู่บ้านตระกูลเฉิน มีแค่เธอคนเดียวที่ไม่ได้แซ่เฉิน จึงเป็นตัวเลือกอันเหมาะสมที่สุดในการโยนความผิดให้

ตอนนั้นมู่น่อนน่อนคิดว่าคนของตระกูลเฉินอยากเอาเธอเข้าคุก ถ้าเธอเป็นคนที่พวกเฉินชิงเฟิงต้องการจัดการ เมื่อเธอเข้าคุกไปแล้วยังสามารถรอดชีวิตออกมาได้อีกเหรอ

ผลลัพธ์ของเธออาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าคุณท่านเฉิน

ความหนาวยะเยือกแล่นขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ แผ่ซ่านลามไปทั่วทั้งแขนและขาของเธอ

มู่น่อนน่อนส่ายหน้า น้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย “แต่ว่า คืนนั้นฉันไม่ได้ยินอะไรเลยนะ”

เฉินถิงเซียวแค่ลูบศีรษะเธอเงียบๆ

สิ่งที่เขาไม่ได้พูดให้จบก็คือ สาเหตุที่พวกเฉินชิงเฟิงคิดวิธีแบบนี้มาจัดการกับมู่น่อนน่อน ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง พวกเขาต้องการทดสอบความสำคัญของมู่น่อนน่อนในใจเขา

ถ้าตอนนั้นเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องมู่น่อนน่อน ทำให้พวกเฉินชิงเฟิงได้ตระหนัก ว่ามู่น่อนน่อนสำคัญต่อเฉินถิงเซียวมากแค่ไหน พวกเฉินชิงเฟิงอาจคิดหาวิธีลงมือกับตัวมู่น่อนน่อนโดยตรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม