เมื่อคนคนนั้นเห็นว่าเสิ่นเหลียงยกโทรศัพท์ขึ้นมาแจ้งความ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร “จะแจ้งความเพื่อทำให้พวกเรากลัวเหรอ? เธอคิดว่าฉันจะกลัวเหรอ? หา?”
เสิ่นเหลียงโทรออกไปหาตำรวจจริงๆ เธอไม่ได้สนใจเขา เธอบอกที่อยู่กับทางตำรวจไป
“ไอ้บ้าเอ้ย ยัยบ้าผู้หญิงคนนี้โทรหาตำรวจจริงๆ” ในขณะที่เขาพูด เขสก็ตรงเข้ามากระชากผมของเสิ่นเหลียง
เสิ่นเหลียงมองโซฟาที่อยู่ด้านข้างไว้แต่แรก เธอวางมู่น่อนน่อนลงไปบนโซฟา แล้วเธอก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ เพื่อล่อให้เขาคนนั้นเข้ามาใกล้
มู่น่อนน่อนที่เมาในตอนแรก เมื่อโดนเสิ่นเหลียงผลักลงไป เธอก็มีสติขึ้นมาในทันที
เธอหรี่ตาขึ้นมามอง แล้วก็เห็นว่าเสิ่นเหลียงอยู่ไม่ไกลจากเธอ และรอบข้างเธอก็มีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง
ในตอนนั้น คนพวกนั้นก็ทำเพียงแค่ข่มขู่ให้เสิ่นเหลียงกลัว และก็ไม่ได้ทำอะไร
แต่ว่า มู่น่อนน่อนไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไร เธอนึกว่าเสิ่นเหลียงถูกคนอื่นรังแก ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่ เธอลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายที่โซเซ จากนั้นก็หยิบขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา และเดินตรงไป
ในตอนนั้นสภาพมู่น่อนน่อนก็คือคนเมาคนหนึ่ง เธอถือขวดเหล้าไว้ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ซึ่งสภาพของเธอก็ดูแย่มาก
คนที่อยู่รอบข้างเมื่อเห็นท่าทีของเธอ ต่างก็พากันเดินถอยหลัง ดูเหมือนพวกเขาจะกลัวมู่น่อนน่อนเล็กน้อย
“แกก้มลงและเรียกฉันว่าพ่อสามครั้ง ฉันจะทบทวนดูว่าจะปล่อยแกไปดีไหม แต่ถ้าแก…”
ตอนที่มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป คนคนนั้นกำลังข่มขู่เสิ่นเหลียง มู่น่อนน่อนยกขวดเหล้าขึ้น ก่อนจะฟาดลงไปบนหัวคนคนนั้น
คนคนนั้นโดนมู่น่อนน่อนฟาดหัวจนตาลายไปหมด ก่อนที่เขาคนนั้นจะกุมหัวและตะโกนออกมา “ใครมันมาฟาดหัวฉัน!”
มู่น่อนน่อนโยนขวดเหล้าทิ้ง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเอาแรงมาจากไหนเธอยกเก้าอี้แล้วโยนไปที่ชายคนนั้น
ชายคนนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เลยโดนเก้าอี้ฟาดจนล้มลงไปอยู่กับพื้น
มู่น่อนน่อนหยิบส้อมบนโต๊ะอาหารที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา ก่อนจะเดินไปข้างหน้าและเอาเท้าเหยียบไปบนตัวของเขา “แกเป็นใคร? ถือกล้ามาบอกให้เสี่ยวเหลียงเรียกแกว่าพ่อ? กู้จือหยั่นยังต้องเรียกเธอว่าบรรพบุรุษเลย แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? หืม? แกพูดมาสิ แกพูดมาสิว่าแกเป็นใคร?”
เสิ่นเหลียงที่อยู่ด้านข้างก็ยืนมองด้วยความตกใจ
มู่น่อนน่อนเมาจริงๆหรือแกล้งเมากันแน่?
ครั้งก่อนที่เห็นมู่น่อนน่อนดื่มจนเมา เหมือนว่าจะผ่านมานานมากแล้ว
ในตอนนั้นพวกเธอยังอายุน้อย มู่น่อนน่อนพาเธอไป “สร้างเรื่อง” ไว้ไม่น้อยเลย
สีหน้าของคนที่ถูกมู่น่อนน่อนเหยียบอยู่บนพื้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาเอามือจับไปที่ศีรษะและตะโกนพูดออกมา “พวกแกจะยืนมองอยู่ทำไม? ยังจะไม่เข้ามาช่วยฉันอีก?”
เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยิน เธอก็ยกยิ้มอย่างเยือกเย็น สายตาที่แหลมคมเหมือนกับมีดของเธอจ้องมองไปที่ทุกๆคน เธอจับส้อมไว้แล้วก็ชี้ไปทางพวกเขา “ใครก็ห้ามเข้ามา ฉันเป็นโรคประสาท ถ้าเกิดว่าฉันเผลอทำอะไรพวกแกไป ยังไงฉันก็ไม่โดนจับเข้าคุกอยู่ดี”
หลังจากที่คนพวกนั้นโดนมู่น่อนน่อนข่มขู่ไป พวกเขาก็กลัวและไม่กล้าเดินเข้าไป
ในตอนนั้น ทางผู้จัดการร้านก็พาตำรวจเข้ามา
“พวกเขานี่แหละที่ทะเลาะกันในนี้”
ที่จริงเมื่อครู่นี้ทางผู้จัดการร้านก็สังเกตเห็นพวกเสิ่นเหลียงและคนกลุ่มนี้แล้ว เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายมีคนอยู่เยอะกว่า ทางผู้จัดการจึงได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด โดยการไม่โทรเรียกตำรวจให้เข้ามา
สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ และก็มักจะลาดตระเวนแถวนี้อยู่แล้ว อีกอย่างก็สนิทกับพวกเขาอยู่แล้ว ก็เลยเข้ามาในทันที
เมื่อเสิ่นเหลียงได้ยินว่าตำรวจมา เธอก็เดินไปข้างหน้าและดึงมู่น่อนน่อนกลับมา
ตอนนี้มู่น่อนน่อนก็ได้สติมากกว่าครึ่งแล้ว เธอผลักเสิ่นเหลียงออก “เธอเป็นใครเนี่ย อย่าเข้ามานะ”
ในขณะที่เธอพูด เธอก็ส่งสัญญาณบางอย่างทางสายตาให้กับเสิ่นเหลียง เพื่อให้เสิ่นเหลียงแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ
พรุ่งนี้เสิ่นเหลียงก็ต้องเข้าไปถ่ายทำในกองละครบนภูเขาแล้ว ถ้าเกิดว่าวันนี้เธอต้องไปที่สถานีตำรวจ พรุ่งนี้ก็จะต้องเกิดข่าวแน่นอน
เสิ่นเหลียงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง มู่น่อนน่อนก็ดึงคนที่เธอจัดการไปตรงหน้าของตำรวจ
คนที่เธอไปทำร้ายร่างกาย รูปร่างไม่ได้สูงมาก และดูผอมจนจะเหมือนกับลิงอยู่แล้ว ตั้งนั้นเธอก็เลยมีแรงที่จะลากเขาขึ้นมา
ตำรวจมองไปยังมู่น่อนน่อนที่มีกลิ่นเหล้าติดตัวแต่กลับไม่มีบาดแผลเลย ก่อนจะหันกลับไปมองชายคนนั้นที่ไม่มีกินเหล้าติดตัวแต่มีบาดแผลเต็มตัว เขาพูดด้วยใบหน้าที่ดูแปลกใจ “ไปลงบันทึกประจำวันกับผม”
มู่น่อนน่อนจึงต้องไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมกับผู้ชายคนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...